นับเป็น “ข่าวดี” ที่ชวนลุ้น ไม่เพียงแต่ครอบครัว “ชินวัตร” เท่านั้นที่ยิ้มออก กับโอกาสที่ “ ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี จะได้รับการพักโทษ ในเดือนมี.ค.ปีหน้า ด้วยเหตุที่ครบเกณฑ์ของการพักโทษ
8 ธ.ค.68 ที่ผ่านมา “โอ๊ค” พานทองแท้ ชินวัตร ลูกชายคนโต ไปเยี่ยม “พ่อ” กับน้องสาวคนกลาง คือ “เอม” พินทองทา คุณากรวงศ์ โดยที่ทั้งสองพี่น้องเลี่ยงที่จะตอบคำถามในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการเมืองใดๆ และในวันเดียวกันมีรายงานจากกรมราชทัณฑ์ถึงความคืบหน้าเรื่องการของพักโทษ
หลังจากที่ทักษิณ ถูกนำตัวเข้าเรือนจำ ใน “คดีชั้น 14” ตามคำสั่งของศาลฎีกา ฯ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 8ก.ย.68ที่ผ่านมา โดยตามกรอบที่จะได้รับการพิจารณาพักโทษกรณีทั่วไป จะต้องถูกคุมขังเป็นเวลา 6เดือน ซึ่งจะไปตรงกับเดือนมี.ค.68 เท่ากับรับโทษมาแล้ว 1 ใน3 ของกำหนดโทษ ที่ศาลระบุว่าเป็นเวลา 1ปี
และหากไล่เรียงห้วงเวลาหากทักษิณ ได้เดินออกจากเรือนจำจริงในเดือนมี.ค.ปีหน้า อาจหมายความถึงโอกาสที่พรรคเพื่อไทย เองใกล้ลงสนามเลือกตั้ง ครั้งใหม่ หลังจากที่ “อนุทิน ชาญวีรกูล” นายกฯ ประกาศยุบสภาตามไทม์ไลน์ ในวันที่ 31 ม.ค.69
ถือว่ารัฐบาลเสียงข้างน้อย ของ นายกฯอนุทิน และพรรคภูมิใจไทย อยู่จนครบ “ดีล” ที่ทำเอาไว้กับ “พรรคประชาชน” โดยที่พรรคเพื่อไทย ต้องตัดใจ “ตามน้ำ” ด้วยการไม่ยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตามมาตรา 151 ตามที่ “ขู่” กันรายวัน
สถานการณ์ทางการเมืองของพรรคเพื่อไทยวันนี้กำลังถูกทดสอบด้วย “ปัจจัย” ด้านลบที่แวดล้อมรอบด้าน สถานการณ์เป็น “ฝ่ายค้าน” กลับถูกโดดเดี่ยวจาก “พรรคประชาชน” เมื่อฝ่ายหลังไปทำดีลการเมืองกับพรรคภูมิใจไทย
การจัดทัพเตรียมลงสนามเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทย ยังต้องเดินหน้าไปพร้อมกับการป้องกัน “สกัด” ปัญหาเลือดไหลออก ไปอยู่ที่ “พรรคสีน้ำเงิน” เพราะอย่าลืมว่า พลังดูดของพรรคภูมิใจไทย นั้นถึงขั้น “เหนือชั้น” ได้เปรียบกว่าพรรคคู่แข่ง
แต่ทั้งนี้ย่อมไม่ได้หมายความว่า การกลับมาของทักษิณ เมื่อพ้นออกจากเรือนจำได้จริง จะไร้ความหมายในเชิงการต่อสู้ทางการเมือง ความได้เปรียบของพรรคเพื่อไทย ยังอยู่ที่คนเสื้อแดง แม้จะโรยแรงไปไม่น้อย แต่ไม่ได้หมายความว่า “ไม่มี”
ขณะเดียวกัน พรรคเพื่อไทยเองเตรียมเปิดตัว “แคนดิเดตนายกฯ” ของพรรคในเดือนนี้ ธ.ค.ซึ่งคาดหมายกันว่า อาจจะมีชื่อ “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” ในฐานะ “ผู้สนับสนุน” ตัวหลักของพรรค แต่ตัวจริงที่จะถูกวางเอาไว้คือคนในครอบครัว “ชินวัตร” ซึ่งเป็นไปได้ทั้ง “ลูกเขย” คือ ณัฐพงษ์ คุณากรวงศ์ สามีของ เอม พินทองทา และ “ดร.เชน” ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ หลานชาย ทักษิณ ซึ่งมีการ เปิดตัวนำร่องผ่านอีเว้นท์ทางการเมืองของพรรคไปบ้างแล้ว
พรรคเพื่อไทยวันนี้ แม้จะไม่พร้อมลงสนามเลือกตั้ง รอบใหม่ แต่ไม่ได้หมายความว่า โอกาสที่จะรักษาพรรคเอาไว้ ให้อยู่ในอันดับ Top 3 จะเป็นไปไม่ได้
และหนึ่งในอาวุธสำคัญที่คือการคงอยู่ของ “ชินวัตร” ที่จะต้องเดินหน้าทำพรรคการเมืองต่อ เพราะอย่าลืมว่าหลังการเลือกตั้ง สูตรการจัดตั้งรัฐบาล จะยังคงเป็น “รัฐบาลผสม” อยู่ดี ส่วนสีไหน จะมาผสม มาจับมือกันนั้นยังขึ้นอยู่กับอีกหลายเงื่อนไข แน่นอนว่า ไม่ใช่เรื่องของ “จำนวนสส.” เป็นตัวชี้ขาดเพียงประการเดียว
ด้วยเหตุนี้ การต่อสู้ของพรรคเพื่อไทย ในวันที่ ทักษิณ ได้มีโอกาสออกมาปรากฎตัวอยู่นอกเรือนจำอาจจะไม่ยิ่งใหญ่เหมือนที่ผ่านมาในอดีต แต่จนถึงวันนี้ หลายคนยังเชื่อว่า คนชื่อ “ทักษิณ” ฆ่าไม่ตาย !!