การเมืองทั่วไป

"แก้วสรร" ชำแหละ "คดีจริยธรรม 44 สส.ส้ม" ชี้ไม่ใช่กลั่นแกล้ง เปิดไทม์ไลน์เสนอเลิก ม.112

แชร์ข่าว

เมื่อวันที่ 25 ธ.ค.68 นายแก้วสรร อติโพธิ นักวิชาการอิสระ เผยแพร่บทความเรื่อง เกาะติด “คดีจริยธรรม ๔๔ สส.ส้ม”

ถาม พรรคส้ม ถูกยุบมาสองครั้งแล้ว ทั้ง “อนาคตใหม่” และ “ก้าวไกล” มาวันนี้เป็นพรรค “ประชาชน” คือเป็น“ส้ม 3” เข้าไปแล้วและกำลังจะส่ง สส.ลงเลือกตั้งในกุมภานี้อยู่พอดี แล้วนี่ ปปช.ก็ยังจะลงมือฟ้องตัดสิทธิผู้สมัคร เขาอีกหรือ มันจะอาฆาตอะไรกันนักกันหนาครับ ท่านสารวัตร

ตอบ คุณต้องเข้าใจความเป็นมา ก่อนครับว่า งานนี้เป็นเรื่องของสมัย “ส้ม 2” คือการที่พรรคก้าวไกล เสนอเลิก ๑๑๒ เมื่อ ปี ๒๕๖๔ แล้วต่อมาถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่า การกระทำนี้เป็นส่วนหนึ่งของขบวนการกร่อนเซาะสถาบันกษัตริย์ จนเกิดมูลคดีขึ้นสามประการ จนปัจจุบัน คือ

๑.คดีปกป้องรัฐธรรมนูญ คดีนี้มีผู้อาศัยสิทธิพิทักษ์รัฐธรรมนูญ ร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ และศาลรัฐธรรมนูญตัดสินไปแล้ว เมื่อ ๓๑ มกราคม ๒๕๖๗ ว่า ความเคลื่อนไหวเลิก ๑๑๒ ทั้งในสภาโดยการเสนอร่างกฎหมายของพรรคก้าวไกล กับการประท้วงให้ร้ายสถาบันต่างนานานอกสภาเป็นปีๆนั้น แท้จริงแล้ว เป็นขบวนการที่สอดประสานกันเพื่อกร่อนเซาะสถานภาพทางการเมืองของสถาบันกษัตริย์ ศาลจึงสั่งให้พรรคก้าวไกลยุติความเคลื่อนไหวทั้งปวงในเรื่องนี้

๒.คดียุบพรรคก้าวไกล ด้วยผลผูกพันจากคดีที่ ๑. กกต.จึงร้องให้ยุบพรรคก้าวไกล ตามอำนาจหน้าที่ใน พรบ.พรรคการเมือง และในวันที่ ๗ สิงหาคม ๒๕๖๗ ศาลรัฐธรรมนูญก็มีมติตามนั้น พร้อมทั้งตัดสิทธิทางการเมืองของ กรรมการบริหารพรรคด้วย

๓.คดีจริยธรรม สส. เมื่อความปรากฏตามคดี ๑. และ ๒. ปปช.จึงมีอำนาจหน้าที่รับคำร้องของผู้ร้อง เมื่อ กุมภา ๖๗ มาไต่สวนว่า สส.ก้าวไกล ทั้ง ๔๔ คน ที่มีชื่อเสนอร่างกฎหมายเลิก ๑๑๒ นั้น มีผู้ใดกระทำผิดจริยธรรม ข้อนี้หรือไม่

“ข้อ ๖ สมาชิกและกรรมาธิการต้องจงรักภักดีและพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข”

นี่แหละครับคือ คดีจริยธรรม ๔๔ สส.ส้ม ในวันนี้

ถาม สส.ก้าวไกล ๔๔ คนนี้ หลุดมาเป็น สส.พรรคประชาชน เพียงบางส่วน มาวันนี้ก็มีเหลือชื่อสมัคร สส.ในนาม พรรคประชาชน สมัยนี้อีกไม่กี่คน ตกลงก็พวกนี้อาจต้องถูกฟ้องได้หมดเลยหรือครับ

ตอบ มันไม่ใช่ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ครั้งเป็น สส. แต่เป็นความขาดจริยธรรมที่ปรากฏขึ้น ความปรากฏเมื่อใดก็ถูกฟ้องได้ทั้ง ๔๔ คน แต่วันนี้ศาลยังไม่ตัดสิน เค้าก็ลงสมัคร สส.ได้ไม่มีอะไรห้าม แต่ภายหน้าถ้าได้เป็น สส. แล้วศาลฎีกาพิพากษาว่าขาดจริยธรรมนักการเมืองเมื่อใด ก็จะสิ้นสมาชิกภาพ สส.เลย ส่วนใครที่ไม่ได้เป็น สส. ก็สิ้นแต่เพียงสิทธิเลือกตั้งเท่านั้น

ถาม การที่ สส.ก้าวไกลเห็นโดยสุจริตว่า ต้องแก้กฎหมายอาญาให้คุ้มครองกษัตริย์ด้วยระบบกฎหมายหมิ่นประมาทเช่นบุคคลธรรมดา ไม่ให้ถือเป็นความผิดต่อความมั่นคงของรัฐอีกต่อไป จึงร่วมลงนามเสนอร่างกฎหมายนั้น ทำอย่างนี้มันจะเป็นผิดจริยธรรมได้อย่างไรครับ

ตอบ ตรงจุดนี้แหละครับ ที่ ปปช.จะต้องแยกให้ออกว่า ใน ๔๔ คนนี้ มี สส.คนใดที่เป็นหัวโจกรู้เห็นสมคบกับนอกสภา ร่วมกันเคลื่อนไหวเป็นขบวนการกร่อนเซาะสร้างภาพให้ร้ายสถาบันหรือไม่ ซึ่งในคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ท่านก็เขียนตัวความผิดที่เป็นความเคลื่อนไหวตรงนี้ไว้ชัดว่า

“ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า การกระทำของผู้ถูกร้องทั้งสองมีพฤติการณ์ในการใช้สิทธิหรือเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นเพื่อทำลายการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดย ซ่อนเร้นหรือผ่านการนำเสนอร่างกฎหมาย ...มีลักษณะดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องเป็นขบวนการ ใช้หลายพฤติการณ์ประกอบกัน ทั้งการชุมนุม การจัดกิจการ การรณรงค์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ การเสนอร่างแก้ไขกฎหมายเข้าสู่สภา และการใช้เป็นนโยบายหาเสียงเลือกตั้ง ”

“ศาลรัฐธรรมนูญโดยมติเอกฉันท์ วินิจฉัยว่า สั่งการให้ผู้ถูกร้องทั้งสองเลิกการแสดงความคิดเห็น การพูด การเขียน การพิมพ์ การโฆษณา และการสื่อความหมายโดยวิธีอื่นเพื่อให้มีการยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 อีกทั้ง ไม่ให้มีการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ด้วยวิธีการซึ่งไม่ใช่กระบวนการทางนิติบัญญัติโดยชอบ ที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคตด้วย”

ถาม ถ้าเช่นนั้น สส.ที่จะถูกฟ้องได้ ก็ต้องมีพฤติการณ์มากกว่าลงชื่อเสนอร่างกฎหมายใช่ไหมครับ

ตอบ แน่นอนครับ มันต้องมีพฤติการณ์อื่นมาประกอบด้วยถึงจะฟ้องว่าไม่ใช่ “การใช้อำนาจนิติบัญญัติ โดยชอบ ” เช่นพบหลักฐานการสมคบรู้เห็น การขึ้นเวทีชุมนุมโจมตีสถาบัน การพูดจาถือหางให้กำลังใจแล้วใช้ตำแหน่ง สส.เป็นหลักประกันตัว ผู้ก่อความวุ่นวาย ด่าในหลวง ฯลฯ

พวกที่เข้าข่ายอย่างนี้ ผมทราบว่ามีในรายงานอยู่สิบกว่าคนเท่านั้น ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจว่า ทำไมการไต่สวนของ ปปช.ถึงช้าขนาดนี้ได้อย่างไร เขาน่าจะร่อนตะแกรง เอาที่ชัดๆ แล้วส่งฟ้องศาลฎีกาจนเสร็จเรื่องได้เร็วกว่านี้มาก

ถาม เมื่อเป็นอย่างนี้ พรรคประชาชนเขาก็ต้องส่งผู้สมัครที่ตนเห็นควร โดยไม่ต้องกังวลถึงปัญหาการต้องคดีจริยธรรมนี้เลย

ตอบ เขาต้องทำเช่นนั้นครับ พวกเราที่เป็นผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งก็เหมือนกัน ถ้าเห็นว่าผู้สมัคร สส.พรรคประชาชนคนนี้เข้าท่า ก็เลือกไปเลย อย่าไปกังวลว่าเค้ามีชื่ออยู่ใน ๔๔ สส.นี้หรือไม่

ถาม เป็นไปได้ไหมครับว่า พรรคส้มอาจจะโหมกระแส ประโคมว่าการลงมือในคดีจริยธรรมนี้เป็นการกลั่นแกล้งทางการเมือง หวังให้ผู้มีใจรักความเป็นธรรมแห่มาลงคะแนนเลือกตั้งอุ้มชูประชาชนด้วยกันก็ได้นะครับ

ตอบ มีเค้ามากๆว่างานนี้อาจจะกลายเป็นเรื่อง “เตะหมูเข้าปากหมา”เลยก็ได้ครับ แต่ก็เป็นหน้าที่ ปปช.ต้องชี้แจงคดีให้ดีๆ ส่วน กกต.ก็ต้องตามติดตรวจสอบการหาเสียงในโซเชียลให้เท่าทันด้วย เลือกตั้งคราวนี้การหาเสียงผิดกฎหมาย ใส่ร้ายบิดเบือนความจริง จะเนืองนองเต็มสนามในโลกโซเชียลเลยทีเดียว

#คดีจริยธรรม #44สสส้ม #แก้วสรรอติโพธิ #พรรคประชาชน #ก้าวไกล #มาตรา112 #การเมืองไทย #ข่าวการเมือง #เลือกตั้ง

แชร์ข่าว