การเมืองทั่วไป

"ทอ." เปิดภาพภารกิจโจมตีคลังแสงกัมพูชา เผยปฏิบัติการยึดเนิน 350 สำเร็จ ชี้นานาชาติเงียบ ไทยได้เปรียบ

แชร์ข่าว

โหนกระแส วันที่  24 ธ.ค. ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดหมาย เลข 33 เกาะติดเหตุการณ์สงครามชายแดนไทย-กัมพูชา วันนี้สัมภาษณ์ พล.อ.อ.ประภาส สอนใจดี ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารอากาศ และ ผู้อำนวยการศูนย์แถลงข่าวร่วมไทย-กัมพูชา มาพร้อม วันวิชิต บุญโปร่ง ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

พล.อ.อ.ประภาส  : รายการพี่หนุ่มคนชมเยอะ โดยเฉพาะท่านฮุนเซน ท่านเก็บประเด็นจากรายการนี้ การให้ข้อมูลอะไรต่างๆ บางเรื่องต้องระมัดระวัง อย่าให้เขาเห็นภาพและนำไปใช้ประโยชน์ จริงๆ เราอยากสื่อสารถึงพี่น้องชาวกัมพูชามากกว่าว่าคนไทยไม่ได้มีอะไรที่อยากทะเลาะกับพี่น้องกัมพูชาเลย ถ้าเป็นไปได้อยากสงบเรียบร้อยก็ไปบอกผู้นำท่านเถอะ สั่งการให้หยุด ไม่ดำเนินการอะไรต่อเนื่อง เมื่อเช้าเรามีความจำเป็น เราเรียกการสนับสนุนกำลังทางบกในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว มีการยิง BM มาเป็นร้อยๆ ลูก และลงบ้านเรือนประชาชน เราได้มีการพิสูจน์ทราบ และใช้ข้อมูลมากมายทราบว่าที่ตรงนั้นเป็นแหล่งรวมอาวุธ แหล่งรวมอุปกรณ์ต่างๆ ที่ยิงทำร้ายประชาชน มีความจำเป็นต้องใช้กำลังทางอากาศเข้าไปเพื่อยับยั้ง และไม่ให้เขาใช้อาวุธเหล่านั้นโจมตีพื้นที่บริเวณสระแก้ว แผนปัจจุบันคือแผนป้องกันชายแดน เป็นกองทัพอากาศสนับสนุนกำลังทางบก เป้าหมายทั้งหมด กำลังทางบกให้ข้อมูลเรา และเราไปทำ แต่การไปทำต้องเรียนให้ทราบว่าเราอาจเห็นแค่ไข่และอาวุธไปทิ้งเป้าหมาย แต่เบื้องหลังยากมากๆ น้องๆ และทีมงานเตรียมตัวฝึกมาอย่างดี เชี่ยวชาญมากๆ ในการไปทิ้งระเบิดในลักษณะเช่นนี้ได้

ช่วงเช้ามีข่าวว่าเราเข้าไปถึงพื้นที่พระตะบอง ข้อเท็จจริงเป็นยังไง?

พล.อ.อ.ประภาส : เข้าจริง แต่จำเป็น ถ้าบอกว่าไม่จริงคงไม่เชื่อ เพราะพี่น้องชาวกัมพูชาก็รีวิวอยู่แล้ว จุดนั้นเป็นจุดเพิ่มเติมกำลัง เป็นที่สะสมอาวุธ ซึ่งเราเตือนแล้ว การใช้กำลังทางอากาศคือการส่งสัญญาณเตือนในทางยุทธศาสตร์ว่าถ้าท่านยังไม่หยุดแบบนี้ จะต้องขยับไป 1 2 3 เพราะว่าอาวุธเหล่านั้นยังโจมตีประชาชน ที่สำคัญที่สุดคือเมื่อเช้ามีน้องทหารเสียชีวิตอีกหนึ่งท่าน ผมต้องใช้เวทีนี้บอกพี่น้องประชาชนว่าการเสียชีวิตทหาร พวกเราซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาเสียใจ ผมเห็นคลิปการเคลื่อนย้ายร่างวีรชนแต่ละครั้ง น้ำตาไหล นี่แหละคือทหารอาชีพที่ถูกฝึกมาด้วยจิตวิญญาณ ด้วยความรักชาติ ความเสียสละ แม้แต่ชีวิตตัวเองก็พร้อมเสียสละ ผมยืนยันว่าเราฝึกกันมาอย่างนี้ ไม่ต้องกลัวว่าอะไรจะเกิดขึ้นในประเทศไทย พวกเรากองทัพไทย ส่วนงานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หน่วยงานความมั่นคงต่างๆ พร้อมดูแลปกป้องประเทศไทย และยืนยันว่าผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้น จะดูแลญาติพี่น้องลูกหลานเขาอย่างดีที่สุด ในฐานะเป็นวีรชน เสียสละเพื่อประเทศชาติ

ช่วงเช้า ฝั่งสื่อกัมพูชาเปิดเผยว่าประชาชนพระตะบองวิ่งหนีหลบระเบิด เขาบอกเรามีการเอาเอฟ16 โจมตีบริเวณภูเขาพนมสามพอ?

พล.อ.อ.ประภาส : เป็นพื้นที่เก็บคลังอาวุธ ซึ่งผมมีภาพ และผมมีภาพ ถ้าไม่ใช่รายการพี่หนุ่มผมไม่เปิดนะ เป็นสิ่งยืนยันให้พี่น้องคนไทยและประชาชนชาวกัมพูชาทราบว่ากองทัพไทยโดยเฉพาะกองทัพอากาศ กำหนดเฉพาะเป้าหมายทางทหารเท่านั้น เราแยกแยะพลเรือน เราเคยมีการใช้อาวุธลักษณะนี้พอลงไปปุ๊บมีการระเบิดต่อเนื่อง ซึ่งนั่นแหละ แสดงว่าที่นี่คือคลังอาวุธ ที่เก็บอาวุธ และอาวุธเหล่านี้แหละคืออาวุธที่มาทำร้ายพี่น้องประชาชน เราเตือนแล้ว เราบอกแล้วก็ยังไม่ยอมหยุด ฉะนั้นเรามีความจำเป็น เรามีศักยภาพเพียงพอกดดันและส่งสัญญาณเตือนในเชิงยุทธศาสตร์ผู้นำกัมพูชาทราบว่า สิ่งเหล่านี้หยุดเถอะ เชื่อว่าพี่น้องชาวกัมพูชาส่วนใหญ่ไม่ได้เห็นด้วย อยู่ที่ผู้นำท่านเท่านั้น แต่ก่อนถูกปิดกั้นเรื่องข้อมูล การโจมตีลักษณะเช่นนี้ ทำให้สัญญาณนี้ถึงพี่น้องชาวกัมพูชา เป็นหน้าที่ของท่านเองที่อยากให้ประชาชนกัมพูชากับคนไทยกลับมาอยู่กันอย่างมีความสงบสุขต่อไป ท่านต้องหยุด

จุดนี้เป็นจุดอะไร?

พล.อ.อ.ประภาส : คลังอาวุธครับ

กัมพูชาเองสื่อเขาก็ลงเยอะมาก บอกว่าเราเองใช้เครื่องบิน เอาระเบิดไปทิ้ง 4 ลูกในหมู่บ้านแห่งนึง ที่ชื่อว่าบานอน ที่พระตะบอง?

พล.อ.อ.ประภาส : มันคือจุดเดียวกัน เราต้องเข้าใจว่าข่าวบางทีข้อมูลอาจไม่จริง เป็นเท็จจริง อยากย้ำเตือนว่าสื่อที่กัมพูชาลง บางทีก็เกินกว่าเหตุไปเยอะทีเดียว ต้องระมัดระวังเรื่องวาทกรรมข่าวลือ เวลาเผยแพร่ต่อต้องระมัดระวัง แต่ยืนยันว่าเราไปเป็นเป้าหมายทหาร รายละเอียดน่าจะนำเรียนให้ทราบต่อไป

ล่าสุดกัมพูชาประณามไทย บอกว่าใช้เครื่องบิน T-50 จากเกาหลีใต้ ทิ้งระเบิด 4 ลูกใกล้โรงเรียนในหมู่บ้านพนมสำเภา ที่บานอน ลึกเข้าไปในเขตเขา 100 กิโล เขาว่าไหนบอกเราจะมีแค่ตะเข็บชายแดนไง?

 พล.อ.อ.ประภาส : สิ่งที่กัมพูชาเขียน เขากำลังทำตัวเองเป็นเหยื่อ ยืนยันว่าการใช้กำลังครั้งนี้ อยู่ในกฎการใช้กำลัง ไม่จำเป็นว่าใกล้หรือไกล ถ้าจุดใดเป็นเป้าหมายทางทหาร แล้วเป้าหมายทางทหารนั้นส่งอาวุธเข้ามายิงทำร้ายประชาชนคนไทย เรามีความจำเป็นต้องดำเนินการ เพราะเราสั่งและบอกแล้ว เขาไม่ยอมหยุด ถามว่าจะไกลจะใกล้ ไม่มีกฎหมายใดระบุ แต่ถ้าที่ใดก็แล้วแต่ แม้แต่ตัวอาคารที่ใช้เป็นที่ตั้งทางทหาร นั่นคือความชอบธรรม เราแยกแยะชัดเจนกับพลเรือน ยังไม่มีข่าวเลยว่าเรายิงอาวุธลงพลเรือน มีแต่ BM21 มาลงคนไทยเสียชีวิต อาวุธกองทัพอากาศมีความแม่นยำชัดเจน เป้าหมายจะเข้าตามนั้น ผมยืนยันกับพี่น้องและชาวโลก ตรงเป้า เป็นไปตามกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ แยกแยะเป้าหมาย มีความเหมาะสม เราเคยเตือนแล้วว่าถ้าคุณไม่หยุดมันจะไปเรื่อยๆ พอระเบิดลงเรียบร้อย มีระเบิดต่อเนื่องเป็นควัน เราต้องลิดรอนตรงนี้ เราก็จะโดดเดี่ยวสนามรบได้ สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ การสู้รบขณะประชุมไปแล้ว จะมี GBCแล้ว แต่เขาก็ไม่ยอมหยุด เมื่อคืนยังยิงตอบโต้อยู่ เป็นสิทธิอันชอบธรรม มาตรา 51 ของประเทศไทย ที่จะปกป้องตัวเอง อยู่ตรงไหนก็ได้ แต่ยืนยันกับชาวกัมพูชาว่าเราไม่มีเจตนาทำร้ายท่านเลย ทั้งหมดเป็นเป้าหมายทางทหารทั้งนั้น จะเห็นว่านานาชาติไม่ได้มีประณามไทยเลย นั่นแปลว่าเขาระมัดระวังในการแสดงท่าที มันคือการทูตแบบเงียบ สำคัญมาก เพราะเขาพยายามจะฟ้องนานาชาติ

ที่ถามเพราะอยากให้ท่านแก้ให้เราเลย กัมพูชากำลังกล่าวหาเราอยู่ มันประณามเรา ผมต้องถามเพื่อให้ท่านแก้ให้ชาวโลกรู้ว่ากัมพูชากำลังกล่าวหาเราอยู่ ขอคุยกับอาจารย์ ทำรายการโหนกระแสทำเรื่องชายแดนหลายวัน มีประเด็นนึงที่หลายคนพูดถึงคือปอยเปต มองว่าทำไมเราไม่ไปจัดการปอยเปตเลย บางท่านบอกว่าเป็นโอกาสที่ดีของเรา ที่จะจัดการสแกมเมอร์แถวนั้นให้หมด มองเรื่องนี้ยังไง?

วันวิชิต : อันนี้เป็นแผนวิธีอย่างละเอียดของทางทหาร เราจะไปบุ่มบ่าม จะไปปิดเกมให้เร็วตามความรู้สึก อย่าลืมว่าเขมรสิ่งที่เขาเชี่ยวชาญที่สุดคือการจัดฉาก ดังนั้นการดำเนินการเป็นลำดับตามขั้นตอนเพื่ออาศัยความชอบธรรม กว่าจะปฏิบัติการทหารในทางลึก มันต้องอาศัยห้วงเวลา สังเกตมั้ยครับ วันแรกๆ ที่กองทัพอากาศจัดการวางไข่ วันที่ 7 วันแรกเลย แถวช่องบก ที่คลังแสงต่างๆ พบว่ามีห้องเก็บโดรน เก็บบรรทุกคลังแสงอะไรต่างๆ อันนั้นเป็นการอธิบายความชอบธรรมที่ว่าเราจะดำเนินการโจมตีในทางลึกกรณีไม่ใช่ที่ตั้งอาศัยของพลเรือน นอกจากพื้นที่ทางทหาร ก็เป็นพื้นที่อื่นที่มีแนวโน้ม หรือใช้เป็นจุดลำเลียงทางยุทธศาสตร์ เช่นการส่งกำลังบำรุง ผมว่านี่คือสิ่งที่เปลี่ยนไป แผนละเอียดขั้นนี้ไม่ใช่ปุ๊บปั๊บตั้งตัวไม่ทัน เราคิดมาก่อนหน้านี้ เราดูเรื่องท่าที ปฏิญญากัมพูชา เรารู้เราเอะใจว่าเราเสริมกำลัง เขาปฏิบัติไม่ได้เลยทั้ง 4 ข้อ แต่อันนี้ที่ไม่ได้ระบุคือห้ามเสริมกำลัง แต่เขาเพิ่มตลอด ดังนั้นในทางจิตวิทยา คนมาเผชิญหน้าท้าตีท้าต่อย หรือเอาง่ายๆ ว่ามายั่วยุ มันต้องมีสักวันที่ปรอทแตก หรือนำไปสู่การปะทะ นั่นคือการเฝ้าระวัง ช่วงนั้นทหารมีการซักซ้อมเตรียมแผนว่าปะทะระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว ถามว่าทำไมไม่จัดการตั้งแต่ต้น หนึ่งดำเนินการแบบนั้น โลกรอประณามไทยอยู่แล้ว เข้าทางเขา วิธีการเขมร เขาเสียเปรียบทางทหาร แต่เขาใช้สงครามไซเบอร์ปะฉะดะกับเราได้ เรารับมือตรงนี้จะหงุดหงิดจุกจิก ไม่มีวันจบสิ้น เหมือนโลกโซเชียลมันจะอัดตลอด เช่นยาพ่นยุงบอกเป็นสารพิษ พอคนทั้งโลกรู้เขาก็หยุด เขาขายไม่ได้ ก็หยุด ไปเล่นประเด็นอื่น พุ่งไปเรื่อยๆ เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ให้โลกเห็นไปเรื่อยๆ ผลิตซ้ำ ถามว่ากลยุทธ์แบบนี้ เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้วเขาใช้ แต่เขาเปลี่ยนแปลงไอดี แม้กระทั่งปลอมเฟซบุ๊ก ปลอมแอปฯ สื่อระดับโลกอย่างการ์เดียนดอทคอมโดนปลอมแปลงเลย เหมือนที่กัมพูชาอ้างว่าทรัมป์บอกว่าไทยเริ่มก่อน ยิงก่อน อาศัยบุคคลที่มีต้นทุนระดับโลก นักข่าวก็จะรีบไปถามนายกฯ ว่าอเมริกาพูดแบบนี้ ประณามไทยแบบนี้ บอกว่าไทยยิงก่อน ถ้าเราไม่รับรู้เท่าทันต่อแท็กติกตรงนี้ เราก็จะกลายเป็นเบี้ยล่าง เขาควบคุมเกมตรงนี้ได้ แต่เรารีบออกมาอธิบายว่ามันไม่ใช่ ไทยกำลังดำเนินการให้เข้ารูปเข้ารอย กับการยิงก่อน มันคนละเรื่องกันนะในเรื่องภาษา ดังนั้นผมคิดว่ากลยุทธ์แบบนี้ เราต้องรู้แล้วว่า การยืมหรือปลอมแปลงใช้สื่อระดับโลก เราอาจตกเป็นเหยื่อเป็นเบี้ยได้ พอคลี่คลายทีละจุดๆ เราต้องใช้ยุทธวิธีการยืมปากสื่อสังคมระดับโลก สื่อโซเชียล แน่นอนเราอาจรู้สึกว่าทำไมชาติต่างๆ ไม่ประกาศตรงไปตรงมา ว่าเคียงข้างประเทศไทยหรือกัมพูชา การที่เงียบก็ดีอย่างนึง ลองไปดู เกาหลีใต้ จีน ไต้หวัน แม้แต่เวียดนาม บอกว่าไทยคือหัวหมู่ในการทลวงฟันในการรักษาสันติภาพของโลก ในการจัดการสแกมเมอร์ ผู้นำประเทศหรือนักการทูตเขาไม่จำเป็นต้องไปพูด แต่การปล่อยให้สื่อโซเชียลในประเทศตัวเองบรรเลงดำเนินการในสิ่งที่เรารู้สึกว่ามาถูกทางแล้ว ดังนั้นเราจำกัดการขึ้นเกมของเขา เขาเหลือไพ่ใบเดียวคือการโป้ปดมดเท็จ ตีหน้าเศร้า ทำตัวเองให้เป็นเหยื่ออย่างสมบูรณ์ที่สุด ไม่มีประเทศไหนหรอกที่ผมไม่อยากพูดว่าไร้ศักดิ์ศรี เราเป็นประเทศเล็กกว่าทางเศรษฐกิจ สู้ไม่ได้เลย ด้วยเกียรติภูมิประเทศ ถ้าเราสะกดเป็น เราจะไม่พูดอะไรในลักษณะแบบนี้ แต่นี่เขาทำทุกอย่างเพื่อให้โลกโปรดเห็นใจเขาว่าเขาไม่มีทางสู้ ต่อกรไทยได้ โทษทีนะครับ พอเกิดเหตุการณ์ขึ้นจริง ที่เขานิ่ง เขาบอกเป็นเรื่องของคุณสองประเทศ ทวิภาคีเป็นทางออกที่สุด สิ่งสำคัญเกมที่เรียบง่าย ละเมียดละไมคือการดำเนินการทางการทูตของท่านรมต.ต่างประเทศ เป็นเรื่องสองประเทศ กัมพูชาบอกโลกต้องการสันติภาพ พร้อมหยุดยิงนั่นนี่ แต่ไม่เคยพูดอะไรกับประเทศไทยเลยว่าจะทำอย่างนี้ พอทุกคนสลัดจากการสะกดจิตของเขมร ทุกคนบอกว่าเออ ใช่ ยูบอกจะหยุดยิง ก็ไปบอกไทยเขาสิ ไม่ใช่มาบอกเรา เท่ากับเขาเหลือพื้นที่อยู่ไม่มากแล้ว ดังนั้นสิ่งที่เหลืออยู่ หนึ่ง กำหนดสถานการณ์การเมืองในประเทศตัวเอง ว่าเรามีประสิทธิภาพจะสู้กับกองทัพไทยในระยะยาว ก็เหลือเพียงเท่านี้

ฝั่งทัพอากาศเอง จริงๆ การสู้รบกันครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่ทำงานร่วมกัน?

พล.อ.อ.ประภาส : ใช่ครับ ปฏิบัติการร่วม 3 เหล่าทัพ ตามแผนป้องกันชายแดน บก เรือ อากาศ สนับสนุนทั้งหมด ทัพอากาศสนับสนุนทางบก เราดูว่าบกต้องการเป้าหมายอะไร ถ้าเขาดำเนินการได้เองเราก็ไม่ต้องใช้กำลังทางอากาศ แต่เมื่อเราใช้กำลังทางอากาศแล้วต้องแม่นยำ แยกแยะ เป็นไปตามกฎหมาย เพราะทางอากาศมันค่อนข้างรุนแรง การใช้แต่ละครั้งมีค่าใช้จ่ายสูง มีความเสี่ยงสูง ต้องใคร่ครวญถึงความคุ้มค่าที่ระเบิดลงไปแล้วโดนคลังอาวุธมากมาย หยุดยั้งได้ อีกสักพักเขาก็จะไม่มีอาวุธเติมมา เรื่องนานาชาติ หลายคนบอกนานาชาติไม่หนุน เขาจะไม่พูดอะไรออกสื่อ นักการทูตการเงียบคือการที่เขาอยู่กลาง ไม่หนุนใคร เราได้ติดตามแล้ว การที่เขาไม่ประณาม ไม่ได้อยู่ฝั่งใด ให้ไปคุยกันสองคน นี่คือผลดีกับประเทศไทยมากๆ สองข้อมูลข่าวสารเราแปลไปทั้งหมด 16 ภาษาทั่วโลก เป็นทั้งเอกสาร คลิป Q&A ไปทั้งหมด 95 ประเทศ สิ่งนี้สำคัญ การพูดอะไรต้องมีคีย์แมสเสจหลัก ซึ่งมาจากรัฐบาล กระทรวงต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม มาอยู่ในกรอบนี้ มุ่งมั่นไปกฎหมายระหว่างประเทศ ประเด็นใดเป็นเรื่องความขัดแย้ง ประเดนใดไม่ยั่วยุ ประเด็นใดที่ต้องการสร้างความสงบ เราก็สื่อสารไป นี่คือสิ่งที่อยากบอกว่าสภาพแวดล้อมข่าวสารไม่เหมือนเดือนก.ค. ความเงียบของนานาชาติคือความที่เราได้เปรียบ และมั่นคงว่าเราทำถูกต้องตามกฎหมายระหว่างประเทศ

ตอนนี้ขีดความสามารถอาวุธเขา ถือว่าเราลิดรอนเขาได้พอสมควรมั้ย?

พล.อ.อ.ประภาส : ผมว่ามากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ โดยหลักการของกำลังทหาร การที่อาวุธ อาคารบางส่วนโดนทำลาย การฟื้นกลับมา การฝึกใหม่ เตรียมใหม่ ใช้เวลานาน ปืนใหญ่ซื้อมาไม่ใช่ยิงได้เลย มีเวลาฟื้นฟูอย่างน้อยอีก 10 ปี ถ้ายังไม่หยุด เขาจะหมดสภาพไปมากกว่านี้ ซึ่งเราไม่อยากให้เกิดจุดนั้น เราบ้านใกล้เรือนเคียงกัน สิ่งสำคัญเราไม่ได้เป็นคนเริ่มนะ เราไม่ได้ยิงก่อน ดูหลักฐานการวางทุ่นระเบิด ในเอกสารที่เราพบตั้งแต่ปีที่แล้ว แสดงว่ามีเจตนา ดึงการดึงสิ่งต่างๆ ไปสู่เวทีนานาชาติ ยั่วยุ สร้างความขัดแย้ง จนกระทั่งมาถึงเดือนก.ค.ก็มีการยุติ ยุติแล้วยังไม่หยุดอีก จนวันที่ 7 เป็นคีย์พ้อยท์ที่หน่วยทหารอึดอัดมาก การโดนระเบิด โดนยิง แต่เราไม่ทำอะไร เราอพยพประชาชนก่อน เพราะเราคำนึงถึงชีวิตพี่น้องประชาชนในพื้นที่ 7-8 จังหวัด ให้ไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยก่อน พออีกวันเขายิงเข้ามา นั่นแหละเราถึงเริ่มดำเนินการ นี่คือความชอบธรรมตามกฎหมายระหว่างประเทศ หลักมนุษยธรรมระหว่างประเทศ โปร่งใส มั่นใจได้เลย เราไปเวทีไหนก็แล้วแต่ เรามีเทปหมด เราเตรียมแผน มีกฎหมายรองรับ พร้อมโชว์ในเวทีที่เหมาะสม

ถ้าเขางี่เง่ากับเรามากๆ เราสามารถเปิดหลักฐานให้ดูได้เลย?

พล.อ.อ.ประภาส : เราพร้อม มันมี 3 สมรภูมิ สมรภูมิทางการทหาร เรามีหลักฐานพร้อม ถูกต้องทั้งหมด ทหารไทยเป็นทหารที่มีอารยธรรม ฝึกร่วมกับนานาชาติมาอย่างมากมาย เรารู้กระบวนการว่าความชอบธรรมคืออะไร เราเก็บหลักฐานเหล่านี้ พร้อมเปิดเผยในเวทีนานาชาติที่จำเป็น อย่างเช่น เราเอาศรกับระเบิดไปเปิดที่ออตตาวา เขาเลยมีปัญหา ขอให้มั่นใจว่าเราเป็นทหารยุคใหม่ที่มีข้อมูลพวกนี้ แต่บางอย่างเรายังเปิดเผยไม่ได้ การเปิดเผยบางอย่างทำให้เขาต่อจิ๊กซอว์ได้ ในพื้นฐานความปลอดภัยของแนวรบที่จะต้องไม่ได้รับอันตราย  และมีแผนพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง

วันวิชิต : ผมในฐานะเข้าไปสังเกตการณ์ศูนย์แถลงการณ์ร่วม เห็นวิธีการทำงาน สิ่งหนึ่งรอบนี้การดำเนินการของเรา นำไปสู่การชิงพื้นที่ นอกจากผลิตล่าม 16 ภาษาในการเผยแพร่ แผนละเอียดคือการรองรับ รักษาความรู้สึกของผู้คนที่ได้รับผลกระทบ อย่างกรมปศุสัตว์ ใครจะไปคิดว่ามาเกี่ยวข้องอะไร พวกสัตว์เลี้ยง วัวควาย ได้รับผลกระทบ ถูกยิงตาย ใครจะเป็นคนให้อาหาร ปศุสัตว์จะมีคำตอบว่าสัตว์เลี้ยงของใคร จังหวัดไหนได้รับผลกระทบ สุรินทร์มากเป็นอันดับหนึ่ง ศรีสะเกษมาเป็นอันดับสอง ใช้หญ้าเท่าไหร่ ใช้งบประมาณเท่าไหร่ ใครเข้าไปดูแล ตรงนี้มีคำอธิบายค่อนข้างครบถ้วน สิ่งที่มาได้ถึงขนาดนี้ ต้องให้เครดิตกับทีมคณะศูนย์แถลงการณ์ร่วมทุกคน เขาทำงานด้วยความหนัก มาก่อน 8 โมง แต่ก่อนแถลง 2 เวลา ทำงานเอ็นจอย มีความสุข แต่ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เขาเอาหมด ว่าเกิดเหตุการณ์อะไร เขาทำงานเต็มกำลัง รอบนี้ทีมโฆษกเขาขึ้นมาเนี้ยบ ภาษาอังกฤษประกอบควบคู่ แถลงทุกคำตรงกัน ไม่มีเคลื่อนไปจากนี้เลย ดังนั้นหนึ่งขอให้พี่น้องประชาชนสบายใจ การเมืองก็ไฟเขียว ให้การสนับสนุนเต็มที่ อย่างสุรินทร์ ตัวแทนฝ่ายการเมือง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม อดีตแม่ทัพภาคที่สอง กรณีจ่าเริงก็เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาที่เสียชีวิต การดำเนินการ นำร่างจ่าเริงกลับมาดำเนินการอย่างสมเกียรติ ตรงนี้เราคิดแผนละเอียด อยากให้พี่น้องสบายใจ การวิพากษ์วิจารณ์เรื่องยุทธวิธี การดำเนินการของกองทัพในแต่ละวัน สามารถวิพากษ์วิจารณ์ แต่ต้องระมัดระวังผลกระทบว่ามันจะนำไปสู่การตัดช้อยส์ ให้ฝั่งโน้นได้เห็นว่าวันนี้ฝ่ายไทยทำอะไร บางทีวิเคราะห์แบบลับลวงพรางบ้างก็ได้ ไม่มีข้อห้าม มันอาจเป็นเรื่องใหม่ในแวดวงสื่อหรือความรู้สึกผู้คน อย่างเช่นการป้องกันตัวเองล่วงหน้า บางทีบางคนมีคนโลกสวย แต่ต่างประเทศโทษนะครับ เขาส่งพวกลักลอบสไนเปอร์แอบไปจัดการ นักวิทยาศาสตร์ทดลองสารเคมี สารพิษที่เป็นภัยคุกคาม ตะวันออกกลางมีลักษณะแบบนี้ รอบนี้อะไรที่ไม่เคยได้ยินท่านจะได้ยิน การทำให้กัมพูชาสิ้นสภาพ เป็นภัยคุกคามระดับต่ำ เขามีอาวุธระดับป้องกันประเทศ แต่จะไม่รุกล้ำ รุกรานเอาดินแดนเพื่อนบ้าน อยู่อย่างสันติ นี่คือความหมายการสิ้นสภาพทางทหาร  

จำได้ว่าเอฟ16 เคยไปหย่อนไข่ที่สะพาน ฝั่งกัมพูชา ตอนนั้นทำไมต้องไปตอนกลางคืน?

พล.อ.อ.ประภาส : กองทัพอากาศทำงานได้ทั้งกลางวันกลางคืน เราไปตรงนั้น 2-3 ครั้ง ไปตอนกลางวัน เครื่องบินบรรทุกระเบิดไป แต่เราเห็นพี่น้องชาวกัมพูชาขับรถผ่านไปมามากมาย เรามองว่าถ้าเราทิ้งลงไปต้องมีคนเสียชีวิตเยอะแน่ๆ เราเลยแบกระเบิดกลับ ระเบิดนั้นอันตรายนะครับ ต้องบินไปแล้วเอาลงกลับมา นี่คือความชอบธรรมที่เราแยกแยะเป้าหมายพลเรือนกับทหาร แต่สะพานทำไมต้องทำ เพราะคือเส้นเลือดที่ต่อของBM ขนอาวุธ เราต้องการหยุดยั้งเขา เรามองว่าถ้าพังหมดเลย คนจะใช้ไม่ได้อีก เราเลยไปเกือบเที่ยงคืนกลางคืน พอทิ้งไปปึ้ง มีรถคันนึงวิ่งมา คนเดินลงมาปลอดภัยไม่ได้มีปัญหา คลิปนี้กระทรวงการต่างประเทศเราก็มอบให้ เป็นศักยภาพความแม่นยำของเครื่องบินที่ทิ้งตอนกลางคืนด้วย

ถ้าเราไปกลางวัน ทัศนวิสัยดีกว่า แต่คนเยอะ เดี๋ยวจะเสียชีวิต?

พล.อ.อ.ประภาส : ใช่ครับ เป็นสิ่งที่เราระมัดระวังมาก ๆ ถึงไม่ได้มีข่าวอะไรออกมา เป็นความเชี่ยวชาญของน้องๆ นักบินของเรา

น้องขิง เป็นนักร้องที่ขับเครื่องบินได้นิดหน่อยหรือเปล่า?

ขิง : เป็นนักบินครับ ผมเปิดหน้าได้เพราะเป็นคนละส่วนกับพี่ๆ ที่ไปทำภารกิจจริงๆ อันนั้นจะเปิดหน้าไม่ได้ครับ

เป็นทหารอากาศมากี่ปีแล้ว?

ขิง : กับคณะทำงาน 2 ปีครับ ผมเป็นภารกิจเครื่องบินฝึก มีหน้าที่ฝึกให้นักบินอากาศ

เป็นครูฝึกนักบิน?

ขิง :   ใช่ครับ แต่คนละส่วนกับเครื่องบินเอฟ 16 ของเรามีการฝึกเบื้องต้นก่อน หลังจากจบแล้วจะไปบินต่อที่โรงเรียนการบินของกองทัพอากาศอีกที ของผมเหมือนเป็นเบสิกให้น้องๆ

เรื่องสะพานผมเข้าใจแล้ว ว่าทำไมทัพอากาศไม่ไปหย่อนไข่ตอนกลางวัน ทีนี้จะมีประเด็นเรื่องปอยเปต จุดหลักๆ ที่ไปทิ้งคือคลังอาวุธ?

พล.อ.อ.ประภาส : คลังอาวุธและแท่นปืนที่ตั้งของอาวุธในบริเวณนั้น และที่เห็นเป็นอาคาร ไปทางบ้านสามหลัง นั่นเป็นที่ที่มีกำลังทหาร มีอาวุธ มีศูนย์บัญชาการอยู่ที่นั่น เราถึงได้โจมตีที่ตรงนั้น นี่ใช้อาวุธของกองกำลังบูรพาใช้เอง ไม่ใช่กำลังทางอากาศ ถ้าเป็นระยะที่ปืนใหญ่ยิงได้ ทหารบกจะดำเนินการเอง แต่ถ้าระยะไกลไปนิดนึง ต้องการความแม่นยำ ต้องการสิ่งที่ไม่กระทบกับพี่น้องพลเรือนถึงจะเลือกใช้กำลังทางอากาศ ผมไม่ได้เปิดยุทธวิธีอะไรนะครับ ทหารทั่วโลกก็คิดแบบนี้ บ้านเราเป็นเวิลด์คลาสนะครับ ไปฝึกกันทั่วโลก

ช่วงเช้าเราก็บินลึกไปหน่อย?

พล.อ.อ.ประภาส : จริงๆ เราไม่ได้อยากทำแบบนั้น แต่เนื่องจากว่าพี่น้องที่อารัญประเทศ ที่สระแก้ว ถูกโจมตีด้วยBM ต่อเนื่อง มีคนบาดเจ็บ เสียชีวิต มีน้องทหารเสียชีวิตด้วย เราเลยมองว่าเป้าหมายนี้มีความสำคัญ ต้องหยุดเขาให้ได้ด้วยการทำลายอาวุธ ภาพที่เจอบนจอ เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะไม่ใช่ทหารอาชีพ ใช้พลเรือนเป็นโล่มนุษย์ ยิงอาวุธBM ในเมือง ภาพนี้เราเห็น ถ้าเราทิ้งระเบิดลงไป บ้านหลังนั้นมีคนอยู่ คนเสียชีวิตแม้แต่คนเดียวก็ไม่ได้ นี่คือกฎหมายสิทธิมนุษยชน ที่เราต้องแยกแยะเป้าหมายพลเรือน เขาวิ่งไปในเมืองแล้ว เครื่องบินเราไปแล้ว แต่นักบินตัดสินใจไม่ทิ้งระเบิด กลับ เพราะมันอยู่ในเมือง อยู่ในบ้าน เอามนุษย์เป็นโล่ มีประชาชน สิ่งที่เขาทำทั่วโลกไม่ยอมรับ เราเอาภาพมาให้เห็น อธิบายด้วยภาพ ไม่ได้ปรักปรำ อาวุธคือเป้าหมายทางทหารทั้งสิ้น เราจำเป็นต้องทำลาย

เรื่องเนิน 350 เราเองตีตาควายได้คืนมา ฝั่งเขมรไม่ยอม พยายามตีตาควายคืน โดยการใช้เนิน 350 ซึ่งชัยภูมิเขาดีมาก มันใช้วิธีเหมือนกองโจรขึ้นมาทางด้านล่าง สร้างบังเกอร์ ขุดรู ขุดหลุม เข้าไปอยู่ข้างในต่างๆ นานา หลายคนถามว่าทำไมไม่ใช่เอฟ 16 ไปทิ้งล่ะ เพราะไม่มีข่าวเลย สุดท้ายวันนี้ไทยยึด 350 ได้แล้ว ผมเพิ่งจะทราบเมื่อกี้ว่าทิ้ง?

พล.อ.อ.ประภาส : เป้าหมายทางยุทธวิธีพื้นที่เนิน 350 เป็นการพิจารณาเป้าหมายร่วมระหว่างกองทัพบกและกองทัพอากาศ เรามีชุดวางแผนร่วมไปอยู่ในพื้นที่ พิจารณาว่ามันเหมาะสมหรือไม่อย่างไร ภัยคุกคามเป็นตรงไหน ภาพเป็นยังไงบ้าง เราก็กำหนดเป้าหมาย หลักการง่ายๆ คือโดดเดี่ยวเนิน แปลว่าเส้นทางทิ้งระเบิด อาคารโดยรอบ หรือทิ้งกดดันไม่ให้เขาใช้อาวุธเราได้ สักพักนึง จนกำลังภาคพื้นสามารถเดินทางไปในยุทธบริเวณได้ เราก็ไม่ทิ้ง สิ่งสำคัญคือต้องไม่ทำให้ฝ่ายเดียวกันได้รับอันตรายจากเครื่องบินเรา ต้องไม่สูญเสีย นี่คือหลักยึดของเรา ถ้าเราลงไปแล้ว พี่น้องของเรากำลังภาคพื้นได้รับอันตราย เราไม่ทำเด็ดขาด เราต้องระมัดระวัง เราถึงใช้ความแม่นยำสูง รูปแบบการใช้ทุกเนินเราตัดตอน ลิดรอนการส่งกำลังบำรุง เป้าหมายที่เป็นคลังอาวุธ ไม่ให้เขามาหนุนได้ โดดเดี่ยวเนิน ให้อดอาหาร ไม่มีอาวุธ และยอมแพ้ออกมา นี่คือหลักคิด ฉะนั้นเป้าหมายถูกพิจารณาจากกองทัพบกและกองทัพอากาศ ไม่ต้อง 350 ก็ได้ ที่ไหนก็ทำแบบนี้

เขาทิ้งตัดกำลังรอบข้าง เพื่อให้เนินนี้เขมรอยู่โดดเดี่ยว หลังจากนั้นมันไม่มีอาวุธ ไม่มีอาหารเข้ามา มันจะตาย สุดท้ายไทยก็ตีมาได้?

พล.อ.อ.ประภาส : นี่เป็นหลักคิด และเป้าหมายก็ตามนี้

ก่อนหน้านี้เขาเก็บไว้หมดเลย ไม่บอกใครเลย?

พล.อ.อ.ประภาส : เป็นความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติ เราระมัดระวังมาก เป็นการประสานสอดคล้อง การรบครั้งนี้เปิดสามแนว บก เรือ อากาศ และประสานงานกันใกล้ชิด เราฝึกร่วมกันมาตลอด จนมาใช้จริงๆ เราเข้าใจธรรมชาติซึ่งกันและกัน ระเบิด 500 ปอนด์ลูกนึงถ้าลงไปตรงเขา อำนาจการทำลายเท่ากับหนึ่งสนามฟุตบอล ถ้าไปลงใกล้ๆ มันกระทบแน่ๆ เราถึงระมัดระวัง ถ้าลงไป 6 ลูกล่ะ ก็ให้ตระหนักว่าสิ่งเหล่านี้คืออำนาจการทำลายของระเบิด ฉะนั้นการใช้ การวางแผน ต้องประสานกันอย่างใกล้ชิด เพื่อความปลอดภัยของฝ่ายเรา

สิ้นสงสัยตรงนี้ เพราะเป็นคำถามที่หลายคนพูด บางคนถึงขั้นบอกทำไมไม่เอาระเบิดไปทิ้งเนินตรงนั้นเลย หลายคนคงทราบแล้วนะว่าด้วยอานุภาพระเบิดที่ทิ้งลงไป หลายปอนด์ขนาดนี้ รัศมีแผ่วงกว้างขนาดนี้ อาจกระทบทหารไทยได้เพราะทหารไทยเป็นแนวระนาบอยู่ข้างๆ เขาอาจบาดเจ็บล้มตายได้ เขาเลยไม่เลือกทิ้งตรงนั้น แต่เขาเลือกทิ้งตรงจุดอื่น ที่ตัดกำลังข้าวกำลังน้ำ ทหารบอกจะบอกว่าตรงจุดนี้ๆ ทัพอากาศก็สนับสนุนไป ซึ่งตัดอาวุธ ตัดอาหารต่างๆ นานา?

พล.อ.อ.ประภาส : นี่คือคำตอบว่าทำไมต้องช้า ต้องใจเย็นๆ รอสัก 1 - 2 วัน เพื่อให้เขาอาวุธหมด อาหารไม่มีกิน แล้วรู้สึกว่าติดต่อสื่อสารกับใครก็ไม่ได้เลย ถึงได้เกิดภาพตรงนี้ขึ้น

วันนี้งวดกันมาก หลายคนบอกว่าต่อให้รบยังไง สุดท้ายก็จบที่โต๊ะเจรจา GBC ที่กำลังจะเกิดขึ้น เขายอมมาที่จันทบุรี แปลกมั้ย?

วันวิชิต :   ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ไม่มาก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เข้าใจได้ ต้องอ่านไพ่ทุกหน้าที่เขาตัดสิน มาก็ดี แต่ทุกครั้งการปะทะหรือการเจรจาควบคู่กันเสมอ ไม่สามารถยุติการหยุดยิงได้ทันทีทันควัน จนกว่าจะได้บทสรุป เขาต้องการอยู่ อธิบายโลกว่าเขาต้องการสร้างสันติภาพนะ เขามา ที่สำคัญเราอยู่ในกติกา ที่อาเซียนอยากให้เราพูดคุยแบบทวิภาคี สองชาติได้ดำเนินการแล้ว จากนี้เป็นเรื่องสองประเทศเท่านั้น ป้องปรามไม่ให้กัมพูชาเลือกชาติที่สาม หรือชาติมหาอำนาจมาแทรกแซง เพราะทุกครั้งกัมพูชาดำเนินการกลยุทธ์เพื่อความได้เปรียบ คือพึ่งพิงอำนาจชาติอื่นมาช่วยเสมอ เขาเดินเองตามลำพัง บางทีรู้สึกเสียเปรียบ เขาจะวิ่งรอกไปหาคนนั้นคนนี้ และทุกครั้งในการนำไปสู่เจรจา เขาชอบดูท่าทีว่า ช่วงเจรจา ท่าทีของฝ่ายทางการไทย กองทัพ จะลดความเข้มงวด รอสัญญาณการหยุดยิง หรือบรรยากาศกลับมาคลี่คลาย ตรงนี้เขาจะลักลอบแอบเติมกำลังอยู่ตลอดเวลา เป็นช่วงพักศึก รอจับตาดูสถานการณ์ ผมว่าตรงนี้เราก็คิดรอบคอบ ที่ผ่านมาที่ใครปรามาสกองทัพไทยคิดช้า ผมบอกเลยกลับไปดูที่สารตั้นต้น เดือนสองเดือน ผมคิดว่าเป็นการบูรณาการทั้ง 3 เหล่าทัพ ไม่ใช่ปุบปับ มีการเตรียมแผนจัดการเรียบเรียง อพยพย้ายพี่น้องประชาชน ภายใน 36 ชม. หายแสนคนมันไม่ง่ายนะแต่ได้รับความร่วมมือ แสดงว่านั่นมีการซักซ้อม เมื่อประชาชนอยู่ระยะห่างจากพิสัยการยิงของกัมพูชาเราก็โล่งใจแล้ว ปฏิบัติการทางทหารเราก็จะสะดวกใจมากยิ่งขึ้น ประการต่อมา เรื่องการเก็บชั้นความลับ ผมขอบคุณมากๆ ที่พี่น้องโลกโซเชียลตำหนิค่อนขอดว่าทำไมไม่ทำ ทำไมกลัวเรื่องกรณีปราสาทตาควาย ยิ่งเราเผลอไผลดำเนินการเขาจะอ่านยุทธวิธีได้ง่าย อย่างเขารู้ว่าโบราณสถาน ทหารไทยไม่กล้าบอมพ์แน่นอน เขาถึงเติมกำลังเข้ามาในพื้นที่ปราสาทตาควายมากเป็นพิเศษ หลายๆ จุด เรื่องBM21 ที่ทำไมเราจัดการไม่ได้สักที มันเคลื่อนย้ายตลอด และมันไปจอดชุมชนเคหสถาน วัด จอดข้างเมรุเลย พูดไปก็ขำ แต่พื้นที่จุดต่างๆ เขาก็เล่นเรื่องเปราะบาง คิดว่าทหารไทยไม่กล้า เราก็แยกแยะว่าจุดไหนดำเนินการได้ เราสามารถจัดการเส้นทางลำเลียง กลับมาที่การพูดคุย GBC เป็นของคณะทำงาน ทีมเลขาฯ ทีมโต๊ะเล็ก มี ท่านพลเอกณัฐพงษ์ เพราแก้ว รองเสนาธิการทหาร ท่านเป็นอดีตเจ้ากรมกิจการชายแดนทหาร ท่านเป็นคณะผู้แทน เป็นหัวหน้าทีมไทยแลนด์ คนรู้เรื่องปัญหาตั้งแต่ต้นจนจบ เราเกาะติด เราไม่เพลี้ยงพล้ำ ท่านณัฐพงษ์มีบทบาทเป็นอย่างมาก ในการลากกัมพูชาให้มาสู่การเจรจา เขมรเวลามาประชุม มามือเปล่า มาเพื่อประวิงเวลา สองมาเพื่อให้เห็นภาพว่าเขามาครบตามขั้นตอน แต่อำนาจตัดสินใจอยู่ที่คนที่พนมเปญ คนที่ชอบนั่งเล่นมือถือถ่ายรูป ไม่กล้าสบตา อาจมีปมอะไรบางอย่าง รู้มั้ยทำไมเขานั่งแบบนั้น ด้วยอุบัติเหตุจากศึกสงคราม ตาเขาเสีย การมองอะไรออกมา มันจะดูไม่มีบารมีเท่าที่ควร ให้เป็นภาพว่าคนแก่ใช้โซเชียลเป็นดีกว่า พยายามทำคอนเทนต์ให้รู้ว่าเขาอยู่ในสายบัญชาการหรือเกาะติด เราต้องอ่านเกมทุกยุทธวิธีทุกแนวทางของเขา ว่าผู้มีอำนาจตัดสินใจที่นั่งบนโต๊ะว่าเขาจะดำเนินการอะไร ท้ายสุด GBC รอบก่อนที่ลากเขาไปได้ ต้องใช้ชาติสังเกตการณ์บีบเขา ถ้าโดนัล ทรัมป์ มาเป็นสักขีพยาน แล้วไทยไม่ลงนาม โทษไทยไม่ได้นะ เพราะกัมพูชาไม่เตรียมตัว ไม่รับข้อเสนออะไรเลย ครั้งนี้พอเราตัดตอนว่าไม่มีชาติที่สามเข้ามา เป็นเรื่องไทยกัมพูชา ตอนแรกเขากลัวความไม่ปลอดภัย แต่รอบเกาะกง เราก็ไป แต่เราเชื่อมั่นทหาร ใจต่อใจ เสร็จศึกก็ไม่มีอะไรต่อกัน เขามาที่เรา เราก็รับประกันความปลอดภัย

4 โมงเย็นนี้จะเห็นเขาหรือเปล่า?

วันวิชิต : ถ้ามาก็ดำเนินการนี้ไป 3 วัน เราก็ดูความคืบหน้าแต่ละวัน เขามีผลตอบรับเป็นอย่างไร ถ้าเจรจากันไป พูดคุยกันไป มีการปะทะ ยิงกันตลอดเวลา มันก็จะยากที่จะนำไปสู่วันที่ 4 ที่รัฐมนตรีกลาโหมจะพบกัน แต่ถ้าเขามีท่าทีเบาบาง การหน่วงทางการบ การยิงประวิงเวลา เพื่อรอการเสริมกำลัง เสริมอาวุธ เราก็มองได้ทุกฉาก สิ่งที่กัมพูชาจะเล่นหว่าน คือข่าวสารเขาไม่เคยแผ่วเลย พร้อมประดิษฐ์วาทกรรมประณามไทยตลอดเวลา ภาวะความเป็นเหยื่ออย่างสมบูรณ์ต่อเนื่องเขาไม่เคยแผ่ว

ถ้าเขาไม่มาก็ไม่แปลกใจ จะเหมือนเขาแพ้มั้ย?

วันวิชิต : เขาจะเสียโอกาสของเขาเอง เขาไม่เคยคำนึงหรอกครับว่าแพ้หรือไม่แพ้ เขาก็ต้องบอกว่าไทยมีท่าทีอย่างโน้นอย่างนี้อย่างนั้น เขาสุ่มเสี่ยงจะถูกจับตัวเป็นตัวประกัน คิดทางหนีทีไล่ให้ตัวเองตลอด

เราเรียกร้องกัมพูชาต้องประกาศหยุดยิงก่อน สองหยุดยิงต้องเกิดขึ้นจริง สามฝ่ายกัมพูชาต้องร่วมมือเก็บกู้ทุ่นระเบิดกับฝ่ายไทยอย่างจริงจัง?

วันวิชิต : ที่เราต้องเน้นแบบนี้ เพราะคณะ AOT ของสองประเทศที่ประธานเป็นมาเลเซีย เขาให้ข้อมูลไปยังหน่วยแม่ที่กัวลาลัมเปอร์ ปรากฏว่าข้อมูลอย่างนึงที่เขาเห็นในกัมพูชาแล้วเขาปวดหัวมาก คือช่วงการถอนอาวุธหนัก เหมือนย้ายที่จอดรถ จากเอ 1 ไป เอ 3 ไม่ได้ย้ายไปที่ตั้ง ตัวเองพร้อมสตาร์ทพุ่งชนตลอดเวลา เขาไม่ได้ถอนจริง นี่คือความปวดเศียรเวียนเกล้าที่ตัวแทนมาเลเซียบอกว่ากัมพูชาทำให้เขารู้สึกว่าเขาเป็นองค์ประกอบให้ดำเนินการตามขั้นตอน กัมพูชาบอกว่าถอนแต่ไม่ได้ถอน ถ้าข้อเสนอ 4 ข้อ ข้อเดียวยังทำไม่ได้ แถมทำเงื่อนไขงอกพิเศษขึ้นมา คือเสริมกำลังตลอดเวลา ไม่เคยแผ่วเลย มันเป็นไปไม่ได้หรอก คนเจอหน้าคอยยั่วยุตลอดเวลา แล้ววันนึงจะไม่เกิดการปะทะกัน นี่คือวิธีการของเขา

ถ้าไม่มาไม่แปลก แต่ถ้ามา ก็จงรู้ไว้ว่า เขาเหมือนเสือกำลังเลียแผล รอแผลหายมันก็เอาอีก?

วันวิชิต : ใช่ ไม่สิ้นสภาพ ต้องการใช้โต๊ะเจรจาให้ทุกคนดูท่าทีว่าโลกกำลังจับตา เชื่อว่ามีสัญญาณเป็นบวก แต่นี่เห็นความใจร้าย ความอำมหิตของเขา ประเทศต่างๆ ที่เขาต้องรักษาสมดุลท่าที แต่บีฮายเดอะซีนนะ นักการทูตเขามาขอบคุณประเทศไทยเยอะที่ช่วยจัดการพาพลเมืองเขาที่ถูกหล่อหลอกไปเป็นสแกมเมอร์ให้กลับประเทศอย่างปลอดภัย มีหลายประเทศ ประเทศใกล้ๆ ไม่ใช่แค่เพื่อนบ้านอย่างเดียว ห่างออกไปหน่อยเขาชื่นชมมาก เขารับรู้ แต่เขาไม่ระบุว่าประเทศไทยเป็นรังของสแกมเมอร์ แต่เขาบอกว่าคนของเขาได้กลับบ้านอย่างปลอดภัยนับพันคน เรารู้อยู่แล้วเรื่องบางอย่างเขาขอบคุณในทางนี้ แต่การทูตเขาต้องระมัดระวัง ถ้าบอกว่าใครเป็นฝ่ายเริ่มก่อนเขาจะอยู่ยาก ก็ต้องเข้าใจเขาด้วย เขาปล่อยให้ข่าวสารในประเทศเขาเองดำเนินการเคียงข้างประเทศไทย

คนบอกอย่าบอกเสือเจ็บได้มั้ย สงสารเสือ จะบอกว่าหมาเจ็บก็สงสารหมา?

พล.อ.อ.ประภาส : ถ้าท่านฮุนเซนดูอยู่ ท่านต้องตัดสินใจและยุติความขัดแย้งในครั้งนี้ ถ้าทำแบบนี้ท่านจะเป็นวีรบุรุษ ทำให้กัมพูชาปลอดภัย กัมพูชาตอนนี้ผู้นำจิตวิญญาณคือท่านฮุนเซน ถ้าผู้นำให้สัญญาณว่าต้องการลดความขัดแย้ง ต้องการสันติภาพอย่างยั่งยืน มาคุยกับประเทศไทย มันจะนำไปสู่ตรงนั้นได้ ทีมพบปะเจรจาที่จันทบุรี เขาก็แบกความหนักใจ ความคาดหวังของคนไทย ทุกคนรักประเทศ อยากได้เงื่อนไขที่ดีที่สุด แต่มีปัจจัยที่มากมาย มันไม่สามารถจบได้วันนี้หรอก อาจมีสองสามวันหรือมากกว่านี้ ก็ต้องให้กำลังใจเขา

สื่อเขมรชอบเอาคำพูดทรัมป์มาแปลผิดๆ ถูกๆ แล้วตบตาชาวโลก?

พล.อ.อ.ประภาส : ถึงย้ำตลอดว่าต้องระมัดระวังข้อมูลข่าวสารมาจากที่ไหน ถ้ามาจากฝั่งกัมพูชาก็คิดไว้ก่อนว่าเขาพยายามบิดเบือนให้เกิดประโยชน์กับฝั่งเขา เราไม่อยากยั่วยุ เราต้องการสันติภาพ สิ่งที่ดี อยากบอกว่าข่าวพวกนี้ ต้องระมัดระวัง ต้องดูอย่างใจเย็น ใคร่ครวญ อย่างเคสโดนัล ทรัมป์ พอมีสื่อถาม ผมก็ถามว่าต้องถามว่าประธานาธิบดี พูดกับฝ่ายไหน ใครเป็นคนแปล แล้วแปลถูกหรือไม่ ซึ่งมันตรงข้ามกับกระทรวงต่างประเทศสหรัฐออกเลยนะ ต้องไปดูว่าออริจินัลมาจากไหน มันสำคัญมากๆ ในยุคที่ฝ่นตลบแบบนี้ ต้องระมัดระวังจริงๆ เราไม่มีเจตนาสร้างความขัดแย้ง อย่าให้ประชาชนทะเลาะกันเลย ส่งคนมาประชุมกับเราเถอะ หาข้อตกลงร่วมกัน ค่อยพูดค่อยจา และหยุดยิงซะ แต่ถ้าคุณยังไม่หยุด ทำร้ายประชาชน และยังยิงเข้ามา เราก็จะไม่หยุด และจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

วันวิชิต : ศึกนี้ใช้เวลาไม่นานครับ

พล.อ.อ.ประภาส : พวกเราไม่มีวันหยุด เตรียมพร้อมตลอดเวลา น้องๆ ทหารชายแดนเสียสละอยู่ต่อ ถ้าทุกอย่างยังไม่นิ่ง เพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน เราพร้อมปฏิบัติ นี่เป็นสิ่งที่เรายึดมั่น

วันวิชิต : อาจมีพี่น้องประชาชน ชอบตั้งทัศนคติ ข้อความบางประเภทว่าทำไมมีแต่พลทหารตาย ทำไมไม่มีนายพล ผมว่ามันกระทบจิตใจเรื่องการทำหน้าที่ฝ่ายทหารทุกคน เพราะทุกระดับชั้นยศเขาลงพื้นที่ คลุกคลีตีโมงนอนกินกับทหาร ตั้งแต่การปะทะแรกๆ ในเดือนก.ค. หลายคนทำหน้าที่ปิดทองหลังพระไปให้กำลังใจพี่น้องทหาร สิ่งเจ็บปวดที่สุดความเป็นผู้บังคับบัญชา คือการไปบอกความจริงพ่อแม่ของพี่น้องทหารที่พลีชีพในสนามรบ น้ำตาตกใจ นี่คือความเศร้า น้องๆ เหล่านี้ หรือครอบครัวทหารไม่เคยตำหนิ เขายินดีพลีชีพให้ประเทศ เพราะการเป็นทหารในชีวิต เป็นแล้วก็เป็นตลอดไป  กองทัพไทย กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ เวลาเกิดความสูญเสีย เขาไม่เคยยุติการเยียวยา  ไม่เคยละเลยญาติพี่น้อง รอบนี้มีการเร่งบรรจุทดแทน ทหารที่พลีชีพ เอาคุณแม่ เอาภรรยา เอาน้องสาวหรือต่างๆ มาบรรจุรับราชการทันที เพื่อให้เขามีสวัสดิการอย่างยั่งยืน ผมห่วงใยตรงนี้ว่าเรารบกันเองเป็นสิ่งที่น่ากลัวที่สุด สิ่งบั่นทอนจิตใจไม่มีอะไรมากไปกว่าคนไทยทำกันเอง ขออย่างเดียว ถ้าอยากให้ทุกอย่างสันติ สงบสุข เรามีแต่ให้กำลังใจ ห่วงใยพี่น้องชายแดน พี่น้องทหารที่กำลังทำหน้าที่ ทหารอยากกลับบ้าน อยากไปโอบกอดกราบเท้าคุณพ่อคุณแม่ การสูญเสียมันเลี่ยงไม่ได้ ที่บอกว่าไม่เห็นมีสงคราม ทำไมต้องซื้ออาวุธ การเลี้ยงทหารพันวันเพื่อการศึกครั้งเดียว นี่คือคำตอบว่าการมีประเทศให้เกิดความภาคภูมิใจคืออะไร

พล.อ.อ.ประภาส : ผมย้ำตลอดว่าให้ระมัดระวังเรื่องการสื่อสาร ไม่แชร์ข้อมูลที่อ่อนไหว ไม่ขยายข่าวปลอม มีข่าวจากกัมพูชาให้ระมัดระวัง ว่าเขากำลังบิดเบือน สำคัญที่สุด เรายึดหลักกฎหมายระหว่างประเทศ ใช้อาวุธตามที่จำเป็น แยกแยะเป็นเป้าหมายทางทหารเท่านั้น ที่สำคัญ และสุดท้ายอยากบอกว่าข้อมูลบางเรื่องที่นำมาเรียน ไม่ได้มีเจตนานำไปเป็นยุทธวิธีในการรบใดๆ ทั้งสิ้น มันต้องปลอดภัย  แล้วที่บอกว่าเราประเทศใหญ่ ทำไมไปโจมตีประเทศเล็ก เปรียบเทียบง่ายๆ คนนึงมีปืน อีกคนมีมีด เขาเอามีดมาทำร้าย แล้วจะปล่อยให้เขาทำร้ายก่อนมั้ย คงไม่ เราคงจำเป็นต้องใช้ปืน แต่อาจไม่ได้ยิงให้เขาตาย ความใหญ่ความเล็ก ไม่ได้บอกว่ารังแก อยากสื่อสารว่าคำว่าใหญ่คำว่าเล็ก เป็นเรื่องต้องระมัดระวังเหมือนกัน ถ้ามีปืนแล้วไม่ป้องกันตัวเอง มันก็คงไม่คุ้มมั้ง ยืนยันเราไม่ทำ ถ้าไม่เริ่มต้นก่อน ไม่เกิดลักษณะแบบนี้เกิดขึ้น เราพูดลักษณะนี้เพื่อให้ท่านคิดได้ แต่ถ้าท่านคิดไม่ได้เราก็ดำเนินการเหมือนเดิม

วันวิชิต : ไม่น่าคิดได้ ล่าสุดแก้ไขวันเดือนปีเกิดของตัวเอง เลื่อนเป็นเดือนส.ค.2495 เขากลัว เพราะพี่ชายเขาสองคนตายตอนอายุ 74 เขา 74 แล้วก็เลยเลื่อนการเกิดช้าไปปีนึง เขาลือกันแซดมานานแล้ว ผมคิดว่าเขาคงคิดไม่ได้

พล.อ.อ.ประภาส : ก็ฟังหูไว้หู