วันที่ 22 ธันวาคม 2568 เวลา 13.00 น. ณ ที่ทำการพรรครวมไทยสร้างชาติ ซอยอารีย์ 5 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีและนโยบายชุดแรกของพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยได้ประกาศให้นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีลำดับที่ 1 นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรค ลำดับที่ 2 และนายนราพัฒน์ แก้วทอง รองหัวหน้าพรรค ลำดับที่ 3
นายพีระพันธุ์ ได้ย้ำจุดยืนในการเข้ามาทำงานการเมืองเพื่อแก้ไขปัญหาของประเทศด้วยความเอาจริงเเอาจริงและเด็ดขาด โดยระบุว่าปัญหาที่ประเทศไทยเผชิญอยู่ ทั้งเรื่องความมั่นคงตามชายแดน ค่าครองชีพที่สูงลิ่ว การทุจริตคอร์รัปชัน และความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจที่เกษตรกรและคนรากหญ้าต้องแบกรับภาระ ขณะที่กลุ่มทุนบางกลุ่มกลับมีกำไรมหาศาล เป็นปัญหาที่สะสมมานานและกลายเป็นวิกฤตเพราะขาดการแก้ไขอย่างเด็ดขาด พรรครวมไทยสร้างชาติจึงขอประกาศตัวเข้าสู่สนามเลือกตั้งปี 2569 ภายใต้สโลแกน "เด็ดขาด แก้ปัญหาวิกฤต พลิกโฉมประเทศไทย" เพื่อล้างบางความเสียหายและความชั่วร้ายให้หมดไปจากแผ่นดิน
โดยนโยบายสำคัญประการแรกคือการปกป้องอธิปไตยและผลประโยชน์ของชาติ ซึ่งพรรคมีนโยบายยกเลิก MOU 43 และ 44 ที่ไทยเสียเปรียบมาโดยตลอด พร้อมทั้งเดินหน้าสร้างรั้วชายแดนอย่างจริงจังเพื่อป้องกันปัญหายาเสพติดและการค้ามนุษย์
นอกจากนี้ พรรคยังมีนโยบายสร้างขวัญและกำลังใจให้กับรั้วของชาติ โดยเสนอให้ผู้ที่สมัครใจเกณฑ์ทหารได้รับเงินขวัญถุง 30,000 บาท และทหารเกณฑ์ทุกคนจะได้รับเงินเดือนรวมค่าครองชีพเดือนละ 15,000 บาท พร้อมเบี้ยออกรบครั้งละ 200,000 บาท สำหรับภารกิจสำคัญ ในส่วนของการปราบปรามการทุจริตและอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พรรคเสนอให้มีโทษประหารชีวิตสำหรับคนโกงชาติและพวกสแกมเมอร์ โดยต้องชดใช้เงินคืนแผ่นดินไปจนถึงรุ่นลูกหลาน
สำหรับประเด็นด้านพลังงาน นายพีระพันธุ์ในฐานะที่เคยกำกับดูแลกระทรวงพลังงาน ยืนยันว่าจะเดินหน้าทุบราคาพลังงานให้ต่ำลง โดยตั้งเป้าค่าไฟฟ้าอยู่ที่ 3.71 บาทต่อหน่วย และในระยะยาวจะลดลงเหลือ 3.3 บาท รวมถึงควบคุมราคาน้ำมันเบนซินและดีเซลให้อยู่ที่ 30 บาท โดยจะไม่ยอมอ่อนข้อให้กลุ่มนายทุนที่เอาเปรียบประชาชนอย่างเด็ดขาด
สำหรับด้านการศึกษา นายพีระพันธุ์ได้เน้นย้ำถึงหัวใจสำคัญของการปฏิรูปอนาคตของชาติผ่านระบบการศึกษาและภาระหนี้สินของเยาวชน โดยระบุว่า "นโยบายปฏิรูปการศึกษาคือเรื่องสำคัญ เราจะไม่เน้นแค่ใบปริญญา แต่จะเน้นที่ชีวิตจริง อนาคตของเด็กไทยต้องไม่ขึ้นอยู่กับสภาพจราจรหรือความเครียดจากการสอบเข้า ใครอยากเรียนอะไรต้องได้เรียน ไม่ต้องไปเครียดกับการติวอีกต่อไป ขอเพียงแค่สอบจบให้ได้ก็พอ นี่คือการปฏิรูปเพื่ออนาคตของชาติ
สำหรับเด็กที่มีหนี้ กยศ. แต่มีภาระต้องดูแลครอบครัวหรือไม่มีงานทำจนถูกฟ้องล้มละลาย นโยบายของพรรครวมไทยสร้างชาติคือจะเลิกฟ้องคดีเด็กกลุ่มนี้ โดยให้ใช้การทำงานดูแลสังคมให้แก่รัฐแทนการใช้หนี้ เพื่อยุติปัญหาและให้โอกาสอนาคตของชาติได้เดินต่อโดยไม่ต้องมีภาระติดตัว"
ในช่วงท้าย นายพีระพันธุ์ได้ประกาศความพร้อมของพรรคในการเข้าสู่สนามเลือกตั้งครบทุกเขต และเปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี 3 ลำดับ ได้แก่ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เป็นลำดับที่ 1 นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ลำดับที่ 2 และนายนราพัฒน์ แก้วทอง ลำดับที่ 3
"วันนี้พรรครวมไทยสร้างชาติพร้อมแล้วที่จะเข้าสู่สนามเลือกตั้งเพื่อเอาชนะวิกฤตชาติ โดยเราขอเสนอแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีทั้ง 3 คน เพื่อเข้ามาล้างบางความชั่วและคืนอำนาจให้ประชาชนเพื่อเดินหน้าประเทศไทยต่อไป เราจะทำทุกอย่างเพื่อประโยชน์ของชาติและประชาชนเหมือนที่ผมทำมาตลอด โดยจะไม่ยอมให้กลุ่มทุนไหนมาอยู่เหนือผลประโยชน์ของประเทศอย่างเด็ดขาด" นายพีระพันธุ์ กล่าว