การเมืองทั่วไป

"โฆษกเพื่อไทย" สวนแรง! ชี้สัมพันธ์ “อนุทิน-เอกนิติ-เบน สมิธ” มีมากกว่าภาพถ่าย แซะพ้น มท.1 เพราะ “ทำงานไม่เป็น”

แชร์ข่าว

โฆษกเพื่อไทย ชี้ภาพ อนุทิน-เอกนิติ ร่วมเบน​ สมิธ มีความสัมพันธ์มากกว่านั้น ระบุตอนพ้น มท.1 เพราะ ทำงานไม่เป็น

วันที่ 4 ธ.ค.68 ที่สำนักงานใหญ่พรรคเพื่อไทย กรุงเทพฯ นายศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงข่าวกรณีที่มีภาพปรากฏ นายเบน​ สมิธ ร่วมกันกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ออกมาในสื่อต่างๆ โดยพรรคเพื่อไทยขอตั้งข้อสังเกต ดังนี้

ประการแรก ถึงแม้จะเป็นรูปเก่าตามที่ได้มีการชี้แจงออกมา แต่รูปที่ออกมา เกิดขึ้นในหลายเวลา หลายสถานที่ พร้อมกับการชี้แจงจากนายอนุทิน ที่ระบุว่าเคยพบกัน 5-6 ครั้ง แสดงให้เห็นว่า คนในรูปมีความสัมพันธ์กันมากกว่าแค่การเจอกันในงานทั่วๆไป

ประการต่อมา มีการตั้งคำถามเกี่ยวกับบุคคลในรูปหลายครั้ง ว่ามีความเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซนเตอร์หรือไม่ และมีคำถามไปยังบุคคลในรัฐบาล โดยเฉพาะกับตัวนายกฯ เองหลายครั้ง แต่ทำไมนายกฯ หรือรัฐมนตรี ไม่เคยมีความโปร่งใส หรือมีการชี้แจงก่อนหน้านี้เลย จนกระทั่งมีรูปหลุดออกมา

นายศึกษิษฏ์กล่าวว่า เรื่องนี้มีความเกี่ยวโยงกับความล่าช้าในการปราบปรามแก๊งคอลเซนเตอร์ของรัฐบาลหรือไม่ และเกี่ยวกับการจัดการกับบุคคลในรัฐบาลที่มีข่าวว่ามีความเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซนเตอร์หรือไม่ ยกตัวอย่างกรณีที่มีคนมาเสนอสินบน 40 ล้านบาท ให้นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ทุกวันนี้ก็ยังไม่มีคำตอบว่าคนๆ นั้นคือใคร

ส่วนกรณีการพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในสมัยรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร ก็ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องการตัดสินใจให้หรือไม่ให้สัญชาติอะไร แต่เหตุผลข้อเดียวที่ต้องออกจากตำแหน่ง เพราะนายอนุทินทำงานไม่เป็น ตั้งแต่การตัดน้ำตัดไฟกับประเทศเมียนมาร์ล่าช้า และการทำงานไม่เป็นนั้นก็เป็นที่ประจักษ์กับประชาชนทั่วประเทศในการบริหารจัดการน้ำในหลายพื้นที่ ประชาชนกว่าหลายแสนคนยังจมน้ำอยู่ บางที่ก็นานกว่า 4 เดือน และความเสียหายน้ำท่วมในภาคใต้ก็น่าจะชัดเจนว่า นายอนุทินน่าจะเป็นนายกฯ ที่ใช้เวลาสั้นที่สุดในการพิสูจน์ตัวเองว่าทำงานไม่เป็นมา ตลอดประวัติศาสตร์การเมืองไทย ดูจากการบริหาร และการสื่อสารของรัฐบาล ตนคิดว่า ‘You have no idea what you doing’

นายศึกษิษฏ์กล่าวว่า สำหรับพรรคเพื่อไทยข้อมูลเหล่านี้ ยิ่งตอกย้ำว่า ในฐานะพรรคฝ่ายค้าน ต้องใช้กลไกในสภาฯ ในการทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาล และขอย้ำว่าพรรคเพื่อไทยไม่มีดีลใดๆทั้งสิ้น การอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นสิทธิและหน้าที่ของฝ่ายค้าน ส่วนการตัดสินใจจะยุบสภาหนีการตรวจสอบ เป็นการตัดสินใจของรัฐบาล

“สุดท้ายนี้ก็ขอตั้งคำถามไปยังพรรคฝ่ายค้านอื่นๆว่า รัฐบาลบริหารแบบนี้ ความเสียหายยิ่งใหญ่ที่เกิดขึ้นกับประเทศเพียงพอหรือยังที่จะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ”

#เพื่อไทย #อนุทิน #เบนสมิธ #เอกนิติ #ข่าวการเมือง

ข่าวแนะนำ