การเมืองทั่วไป

คนดังร่วมพรึ่บ! กมธ.พัฒนาการเมือง–สิทธิมนุษยชน สว. ตั้งคณะทำงานจัดการมลพิษลุ่มน้ำข้ามแดน เน้นวิกฤติ “ลุ่มน้ำกก”

แชร์ข่าว

วันที่ 2 ธันวาคม 2568 นางสาว มณีรัฐ เขมะวงค์ สมาชิกวุฒิสภา จังหวัดเชียงราย ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การมีส่วนร่วมของประชาชน สิทธิมนุษยชน สิทธิ เสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภาได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่าที่ประชุมคณะกรรมาธิการฯ มีมติสำคัญให้ตั้ง คณะทำงานพิจารณาศึกษาการจัดการมลพิษลุ่มน้ำข้ามแดนตามหลักธรรมาภิบาลและสิทธิมนุษยชน โดยมุ่งเน้นพื้นที่ลุ่มน้ำกก ในเขตลุ่มน้ำโขงเหนือ ซึ่งกำลังเผชิญปัญหาสิ่งแวดล้อมหนักขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

ลุ่มน้ำกกถือเป็นเส้นเลือดใหญ่ของเชียงราย ไหลผ่านเขตเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว ชุมชนเก่าแก่ และพื้นที่เกษตรสำคัญ ก่อนวกเข้าสู่ชายแดนพม่า–ลาว ปัญหามลพิษจึงไม่ได้จำกัดอยู่ภายในประเทศ แต่มีที่มาจากกิจกรรมบนพื้นที่สูง การชะล้างตะกอนโลหะหนักจากบางพื้นที่ต้นน้ำฝั่งเมียนมา ทำให้เกิดการปนเปื้อนโลหะหนักในลุ่มน้ำสาขา

จากผลตรวจของหน่วยงานด้านสาธารณสุขเคยพบค่าสารบางชนิดเกินค่ามาตรฐานในบางช่วงฤดู นอกจากนี้ยังมีปัญหาน้ำท่วมปนตะกอนโคลนที่เกิดจากการใช้พื้นที่ต้นน้ำผิดประเภท ทำให้ลุ่มน้ำกกถูกจัดเป็นหนึ่งในลุ่มน้ำที่ “น่ากังวลที่สุด” ทางภาคเหนือในมิติสิ่งแวดล้อมและสิทธิมนุษยชน

ทั้งนี้ ส.ว.มณีรัฐ ได้ผลักดันตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจ เนื่องจากเห็นว่าจากสถานการณ์ที่เรื้อรังยาวนาน คณะกรรมาธิการฯ จึงมีมติจัดตั้งคณะทำงานดังกล่าว เพื่อศึกษาปัญหาเชิงลึก ในประเด็นมลพิษข้ามแดนของการปนเปื้อนตะกอนโลหะหนัก รวมถึงผลกระทบด้านสิทธิประชาชน เช่น สุขภาพ ความมั่นคงทางอาหาร และผลกระทบต่อเศรษฐกิจชุมชน โดยเน้นให้ลุ่มน้ำกกเป็นกรณีศึกษาหลัก ก่อนจะขยายผลไปสู่ลุ่มน้ำโขง ลุ่มน้ำสาย และลุ่มน้ำสาละวิน

คณะทำงานประกอบด้วย หน่วยงานภาครัฐ ผู้เชี่ยวชาญหลากหลายสาขา นักกฎหมายระหว่างประเทศ นักวิชาการแม่น้ำ การจัดการสิ่งแวดล้อมชายแดน ผู้เชี่ยวชาญ Big Data สิ่งแวดล้อม รวมถึงภาคประชาชนจากพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจริง ถือเป็น “ทีมคุณภาพ” ที่รวมคนเด่นคนดังในแวดวงสิ่งแวดล้อม สิทธิมนุษยชน และความมั่นคงชายแดนไว้พร้อมหน้า

โดยมีแผนงานการทำงาน จากการเก็บข้อมูลทั้งจากการชี้แจงในกรรมาธิการ การลงพื้นที่จริง เพื่อนำมาวิเคราะห์และผลักดันในระดับนโยบายโดยคณะทำงานมีหน้าที่จัดทำฐานข้อมูลคุณภาพน้ำและดิน จากต้นน้ำถึงปลายน้ำ ตรวจสอบจุดเสี่ยงต่อการปนเปื้อน ติดตามแหล่งกำเนิดมลพิษทั้งในและต่างประเทศ พร้อมทั้งประเมินผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนอย่างเป็นระบบ ได้แก่ สิทธิในการมีสุขภาพดี สิทธิในสิ่งแวดล้อมที่ปลอดภัย และสิทธิในความมั่นคงทางอาหาร เพื่อนำไปสู่ข้อเสนอเชิงนโยบายที่รัฐบาลสามารถนำไปใช้ได้ทันที

การตั้งคณะทำงานครั้งนี้จะเป็น “จุดเปลี่ยนของลุ่มน้ำโขงเหนือ” สู่การฟื้นฟูอย่างยั่งยืน พร้อมเชื่อมการทำงานทวิภาคี–พหุภาคี เพื่อจัดการปัญหามลพิษข้ามแดนอย่างจริงจังเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ผ่านมา

แชร์ข่าว