"นักวิชาการ" ฟันธงจากพื้นที่น้ำท่วมประชาชนเอือมระอาความขัดแย้งทางการเมือง ชี้วิกฤตนี้ทุกฝ่ายต้อง "อยู่เหนือการเมือง" เร่งคืนระบบสาธารณูปโภค และเยียวยาด้วยความรวดเร็ว หวั่นการเมืองแทรกแซงซ้ำเติมความเสียหาย
วันที่ 1 ธ.ค.2568 ผศ.ดร.เชษฐา ทรัพย์เย็น อาจารย์ประจำภาควิชาการบริหารและจัดการการเมือง วิทยาลัยพัฒนามหานคร มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช เปิดเผยว่า จากการติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้สะท้อนออกมาอย่างชัดเจนจากกลุ่มผู้ประสบภัยคือ ความต้องการให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันอย่างเต็มที่ โดยไม่มีสิ่งอื่นใดเข้ามาบดบังภารกิจช่วยเหลือประชาชน ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ไม่ต้องการเห็นประเด็นการเมืองเข้ามาแทรกแซงในช่วงเวลาที่ทุกคนกำลังเผชิญความยากลำบาก “ใครช่วย ลงมาช่วยเลย คนพื้นที่สนับสนุนหมด”
“หลายคนบอกอย่างตรงไปตรงมาว่า ตอนนี้ทุกคนเดือดร้อนเหมือนกัน จึงอยากให้ทุกฝ่ายมองไปในทิศทางของการช่วยเหลือ มากกว่าเอาปัญหาของพวกเขามาโจมตีทางการเมือง ช่วงนี้เป็นช่วงที่ชาวหาดใหญ่ต้องการนักการเมืองทุกสีทุกค่ายมาช่วยฟื้นฟู จึงอยากเห็น ความร่วมมือกัน มากกว่าที่จะมุ่ง ดิสเครดิตทางการเมือง เพราะบ้านเมืองควรอยู่เหนือการเมืองในช่วงวิกฤตประเทศ ประชาชนต้องการให้การบริหารจัดการในภาวะฉุกเฉินเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง รวดเร็ว ไม่ถูกเบี่ยงเบนความสนใจ หรือสะดุดจากความขัดแย้ง และไม่ถูกทำให้เป็นประเด็นที่ทำให้สังคมขยายความแตกแยกมากขึ้น ขณะที่รัฐบาลเองต้องมีความเข้มแข็งและรวดเร็วในการจัดการ ซึ่งชาวหาดใหญ่ยังคงให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกหน่วย”ผศ.ดร.เชษฐา กล่าว
ผศ.ดร.เชษฐา กล่าวต่อว่า แม้ประชาชนจำนวนมากจะประสบความเสียหายรุนแรง ทั้งด้านทรัพย์สิน การทำมาหากิน และสภาพจิตใจ แต่ในอีกด้านหนึ่ง ชาวบ้านได้สะท้อน ความขอบคุณและกำลังใจ ต่อเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ยังทำงานต่อเนื่องตลอดหลายวัน ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง กู้ภัย ทหาร ตำรวจ อปพร. อสม. รวมถึงอาสาสมัครจากหลายจังหวัดประชาชนส่วนใหญ่เข้าใจว่าเจ้าหน้าที่ทุกคนกำลังทำงานเต็มความสามารถ จึงอยากเห็นบรรยากาศที่เอื้อให้การทำงานเป็นไปโดยราบรื่น ไม่ถูกดึงไปเป็นประเด็นอื่นจนวุ่นวายไปหมด เพราะการสื่อสารและความร่วมมือจากทุกภาคส่วนมีผลอย่างมากต่อการฟื้นฟู ทั้งในระยะฉุกเฉินและระยะยาว
ผศ.ดร.เชษฐา กล่าวว่า เสียงสะท้อนจากชาวบ้านจำนวนมากยังรวมถึงความคาดหวังต่อการฟื้นฟู เช่น การเร่งคืนระบบไฟฟ้า–ประปา การเก็บขยะและทำความสะอาดเมือง การซ่อมแซมระบบสาธารณูปโภค รวมไปถึงมาตรการเยียวยาและสนับสนุนทางเศรษฐกิจหลังน้ำลด ประชาชนส่วนใหญ่ต้องการให้การฟื้นฟูเป็นไปอย่าง รวดเร็ว เป็นระบบ และโปร่งใส โดยหวังว่าการเมืองจะไม่เข้ามาแทรกแซงในระดับที่ทำให้การช่วยเหลือประชาชนล่าช้ากว่าที่ควร







