เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2568 ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิด (CMAC) และองค์การเก็บกู้ทุ่นระเบิดและช่วยเหลือผู้ประสบภัย (CMAA) ของกัมพูชา ได้ออกแถลงการณ์โต้แย้งข้อกล่าวหาของฝ่ายไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ทุ่นระเบิดตามแนวชายแดน ต่อกรณีดังกล่าว พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงในประเด็นสำคัญ ดังนี้
1. ประเด็นการกล่าวหาเรื่อง “ทุ่นระเบิดใหม่” และกระบวนการตรวจสอบร่วม
กัมพูชาระบุว่า ไทยเผยแพร่ข่าวสารอ้างว่าเป็น “ทุ่นระเบิดใหม่” โดยขาดการตรวจสอบร่วม ไม่มีการหารือผ่านกลไกทวิภาคี และไม่ใช่ข้อมูลที่ผ่านกระบวนการพิสูจน์เชิงเทคนิค เช่น ภาพถ่ายที่รับรองความถูกต้อง รายงานการตรวจหลักฐาน หรือข้อมูล GIS ระบุพิกัดและเวลาอย่างเป็นทางการ
โฆษกกองทัพบกชี้แจงว่า “หากฝ่ายกัมพูชาหรือหน่วยงานใดต้องการข้อมูลเพิ่มเติมนอกเหนือจากรายงานที่ไทยได้ส่งให้คณะทำงาน AOT และองค์กรนานาชาติแล้ว ฝ่ายไทยยินดีเปิดเผยหลักฐานทั้งหมดอย่างโปร่งใส เพราะเป็นข้อมูลที่ได้จากการตรวจสอบในพื้นที่จริง โดยหน่วยงานด้านทุ่นระเบิด และหน่วยพิสูจน์หลักฐานตามมาตรฐานสากล พร้อมทั้งมีการเข้าตรวจโดย IOT และ AOT มาอย่างต่อเนื่อง”
โฆษกฯ ระบุเพิ่มเติมว่า ชนิดและสภาพของทุ่นระเบิด รวมถึงพยานบุคคลในพื้นที่ และทุ่นระเบิดที่ไทยเก็บกู้ในจุดเกิดเหตุ เป็นหลักฐานสำคัญชี้ชัดว่า บริเวณดังกล่าวผ่านการกวาดล้างทุ่นระเบิดไปแล้ว จึงยืนยันได้ว่าเป็นทุ่นระเบิดที่ถูกวางใหม่ ทั้งหมดนี้เป็นข้อเท็จจริงสำคัญบางประการเท่านั้น ซึ่งไทยเคยชี้แจงไปแล้วหลายครั้ง
2. ประเด็นภาพถ่ายและข้อมูลในโทรศัพท์ของทหารกัมพูชา
ฝ่ายกัมพูชาตั้งข้อกังวลถึงความถูกต้องของข้อมูลและภาพในโทรศัพท์ของทหารกัมพูชาที่ไทยตรวจยึดได้ โดยอ้างว่าไม่ได้รับหลักฐานดังกล่าวอย่างเป็นทางการ และมีความเป็นไปได้ว่าอาจถูกดัดแปลง จึงขอรับรองเฉพาะหลักฐานที่ผ่านการตรวจสอบร่วมโดยคณะผู้เชี่ยวชาญที่เป็นกลางเท่านั้น
โฆษกกองทัพบกชี้แจงว่า “ฝ่ายไทยได้ส่งมอบหลักฐานทั้งหมดให้คณะทำงาน AOT และเปิดให้สื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศตรวจสอบอย่างเปิดเผย เพราะไม่มีเหตุผลใดต้องปกปิดหลักฐานที่เป็นของจริงที่พิสูจน์ได้ชัดเจน หากฝ่ายกัมพูชาต้องการตรวจสอบร่วมก็ยินดีอย่างยิ่ง เช่น อาจมีการเชิญตัวทหารกัมพูชาที่ปรากฏในภาพถ่ายหลายภาพในโทรศัพท์ ที่ฝ่ายไทยรู้จักดีจากการที่เคยลาดตระเวนร่วมกัน มาพูดคุยสอบถามโดยคณะ AOT ซึ่งจะเป็นผู้ทำหน้าที่คนกลาง เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงอย่างตรงไปตรงมา ตามที่ฝ่ายกัมพูชาต้องการ”







