การเมืองทั่วไป

"เทพไท" ชี้สูตร “win-win” หยุดศึก 3 พรรค เสนอเปิดประชุมวิสามัญ ดันแก้รัฐธรรมนูญก่อนยุบสภา

แชร์ข่าว

วันที่ 25 พ.ย.68 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เทพไท - คุยการเมือง ระบุว่า...

แนะทางออก win-win ทั้ง3พรรค

ถ้าพูดถึงกระแสข่าวการยุบสภา ของรัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล ได้ประกาศไว้ว่า จะยุบสภาภายในวันที่ 31 มกราคม 2569 แต่ได้มีกระแสกดดันจนรัฐบาลอาจจะต้องยุบสภาเร็วขึ้น ล่าสุดนายอนุทินประกาศว่า ถ้ารอกันไม่ไหว ก็จะยุบสภาให้ในวันที่ 12 ธันวาคม 2568 หลังจากนั้นนางสาวแนน บุณย์ธิดา สมชัย โฆษกพรรคภูมิใจไทย ก็ออกมาให้ข่าวว่า นายอนุทินได้ส่งสัญญาณไปยังพรรคร่วมรัฐบาลว่า รอฟังความเคลื่อนไหวทางการเมือง หรือความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในวันที่ 12 ธันวาคม 2568 นั่นแสดงว่าวันที่ 12 ธันวาคม 2568 เป็นวันที่มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองถึงขั้นยุบสภาก็ว่าได้ เพราะเป็นวันเปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันแรก และทุกฝ่ายก็คาดการณ์ว่า อาจจะมีการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันนั้นด้วย

ถ้าหากพรรคฝ่ายค้านยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลจริง นายอนุทินก็จะประกาศยุบสภาในทันที ความเคลื่อนไหวทั้งหมดเป็นการชิงไหวชิงพริบกันระหว่างพรรคการเมือง3พรรค คือพรรคภูมิใจไทย พรรคเพื่อไทย และพรรคประชาชน ที่ต่างฝ่ายต่างก็มีเป้าหมายและความต้องการที่แตกต่างกัน

ในส่วนของพรรคภูมิใจไทย ซึ่งเป็นพรรคแกนนำรัฐบาล แม้ว่าจะเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย แต่ต้องการที่จะให้รัฐบาลบริหารประเทศครบตามที่ประกาศไว้ในMOA คือ ยุบสภาภายในวันที่ 31 มกราคม 2569

ในส่วนของพรรคเพื่อไทย ก็ประกาศชัดว่า จะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลชุดนี้แน่นอน เป็นการยื่นอภิปรายตามมาตรา 151 ซึ่งเป็นการอภิปรายแบบลงมติ ซึ่งนายอนุทินได้ประกาศแล้วว่า ถ้าจะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ขอยื่นญัตติตามมาตรา 152 รัฐบาลไม่หนีการตรวจสอบ พร้อมที่จะชี้แจงการอภิปราย

ในส่วนของพรรคประชาชน มีความต้องการจะให้ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญผ่านที่ประชุมร่วมรัฐสภา3วาระ แล้วค่อยยุบสภา ถ้าหากจะมีการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็อยากจะให้ยื่นเป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นรายบุคคล หรือเป็นการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตามมาตรา 152 เพราะเป้าหมายของพรรคประชาชน ต้องการที่จะอภิปรายรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับแก๊งสแกมเมอร์

ความเคลื่อนไหวทางการเมืองของ3พรรคการเมือง เป็นเรื่องเกมการเมืองล้วนๆ ไม่มีประชาชนอยู่ในสมการใดๆทั้งสิ้น ถ้าหากว่า3พรรคการเมืองได้มีการพูดคุยเจรจาหาทางออกให้กับบ้านเมือง โดยทุกฝ่ายไม่ต้องเสียหน้า หรือที่เรียกกันว่าwin-winกันทุกฝ่าย อยากเสนอให้ตัวแทนพรรคการเมืองได้พูดคุยกัน หาทางออกให้กับสถานการณ์ทางการเมือง เพื่อรักษาหน้าทั้ง3พรรค นั้นก็คือรัฐบาลควรจะเปิดสมัยประชุมวิสามัญ เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระสอง ในวันที่ 8-9 ธันวาคม หลังจากนั้นเว้นไป 15 วัน ลงมติในวาระสาม คือวันที่ 25 ธันวาคม 2568 เมื่อผ่านวาระสามไปแล้ว รัฐบาลก็ประกาศยุบสภาคืนอำนาจให้กับประชาชน เป็นของขวัญปีใหม่

ซึ่งถ้าหากมีการแก้ปัญหาในลักษณะเช่นนี้ จะเกิดผลก็คือ

1.รัฐบาลก็ไม่เสียหน้า ไม่ถูกข้อกล่าวหาว่าเป็นผู้รับเหมาที่ทิ้งงาน ได้ทำตามMOAคือแก้ไขรัฐธรรมนูญเสร็จแล้ว

2.พรรคเพื่อไทยก็ไม่เสียคำพูด ที่ประกาศว่า จะยืนยันติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ก็ได้ยื่นจริง แต่รัฐบาลก็ยุบสภาเสียก่อน

3.พรรคประชาชน ที่ต้องการจะให้แก้ไขรัฐธรรมนูญสำเร็จ เพื่อจะนำไปเป็นคำถามในประชามติ พร้อมกับการเลือกตั้งทั่วไปก็สำเร็จ

เพราะฉะนั้นเห็นว่าทางออกดังกล่าว เป็นทางออกที่ไม่มีใครเสียหน้า win-winกันทุกฝ่าย จึงเสนอไปยังตัวแทนรัฐบาลโดยเฉพาะอย่างยิ่ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ควรจะเป็นเจ้าภาพ เชิญตัวตัวแทนพรรคการเมือง3พรรคมาพูดคุย หาทางออกร่วมกัน เมื่อจบแล้วก็คืนอำนาจให้กับประชาชน ทุกพรรคไปแข่งขันในสนามเลือกตั้งต่อไป

#เทพไท #การเมืองไทย #ยุบสภา #อภิปรายไม่ไว้วางใจ #ภูมิใจไทย #เพื่อไทย #พรรคประชาชน #แก้รัฐธรรมนูญ #ข่าวการเมือง

แชร์ข่าว