วันที่ 20 พ.ย.68 นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก Jatuporn Prompan - จตุพร พรหมพันธุ์ ระบุว่า...
กระทุ้งฝ่ายค้านยื่นอภิปรายทั่วไปไม่ลงมติ เชื่อสมประโยชน์ทุกฝ่าย ทั้งได้พูดแล้วยุบสภา ชี้ดันทุรังเปิดซักฟอก ม.151 นายกฯ ขู่ยุบสภาทันที บี้รื้อปรับเปลี่ยนโครงสร้างตำรวจใหม่ โละซื้อตำแหน่งไปเก็บส่วยหากินเองประเทศเสียหาย มีนแต่งเต็มยศตะโกนตำรวจของ ปชช. ไม่ใช่องค์กรอาชญากรรม แนะเลิกเถอะ
เมื่อ 19 พ.ย. 2568 นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์รายการประเทศไทยต้องมาก่อน โดยเชื่อว่า ถ้าจัดจังหวะการเมืองให้เหมาะสมกับการยื่นอภิปรายทั่วไปไม่ลงมติตาม รธน. มาตรา 152 จะทำให้ฝ่ายค้านและรัฐบาลสมประโยชน์ทางการเมืองมากกว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจตามมาตรา 151
อีกทั้งกล่าวว่า จุดประสงค์ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตามมาตรา 151 คงมีเหตุผลเดียวคือ ฝ่ายค้านต้องการปิดปากรัฐบาล แต่นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ ขู่จะยุบสภาทันที ซึ่งฝ่ายค้านไม่ได้พูดอภิปรายเลย
“เมื่อนายกฯ กำหนดยุบสภาวันที่ 31 ม.ค. 69 ไว้แล้ว ฝ่ายค้านต้องถามใจตัวเองก่อนว่า ต้องการอะไรกับเกมการเมืองยื่นอภิปรายฯ ถ้าต้องการพูดและได้ยุบสภา ต้องยื่นตามมาตรา 152 ซึ่งทุกฝ่ายจะสมประโยชน์ทางการเมืองมากกว่า”
พร้อมทั้งกล่าวว่า สิ่งสำคัญ ถ้ายื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ แล้วนายกฯ ยุบสภา เกิดมีเหตุการณ์ไทย-กัมพูชาปะทะกันที่ชายแดนจะทำอย่างไร เพราะ ครม.รักษาการไม่มีสิทธิ์อนุมัติงบให้ทหารไปสู้รบ อีกอย่างการแต่งตั้งแม่ทัพนายกองไปเสริม หรือโยกย้าย ขรก. ต้องส่งเรื่องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พิจารณาอนุมัติ ซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะชุลมุนและการบริหารประเทศมีกับดักเต็มไปหมด
เมื่อเกิดช่องว่างทางอำนาจเช่นนี้ หากสถานการณ์บีบให้ ผบ.ทบ.ประกาศกฎอัยการศึกทั้งประเทศ โดยกฎหมายใดขัดกฎอัยการศึกให้ยึดถือตามกฎอัยการศึก ด้วยสภาพแบบนี้ คือบ้านเมืองมีการสู้รบและมีประกาศกฎอัยการศึก จึงมีคำถามว่า จะได้เลือกตั้งหรือไม่ และจะเลยเถิดให้กองทัพบริหารประเทศอย่างเบ็ดเสร็จหรือไม่
"ผมเสนอว่า ฝ่ายค้านอยากพูดใช่ไหม ก็ให้ รธน.ผ่านก่อน ประมาณก่อนปีใหม่ หลังจากนั้นสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมกราคม (ก่อนยุบสภา) จึงยื่นอภิปรายทั่วไป ซึ่งฝ่ายค้านจะได้พูด แล้วยุบสภา ทางการเมืองวิธีนี้ทุกฝ่ายได้ตามต้องการ"
นายจตุพร กล่าวว่า รัฐบาลควรจัดการสแกมเมอร์ให้เด็ดขาด และขณะนี้ตนมึนงงกับตำรวจแต่งเครื่องแบบเต็มยศยืนตะโกนประกาศพวกเราเป็นตำรวจประชาชน ไม่ใช่องค์กรอาชญากรรม ซึ่งไม่รู้ทำไปทำไม ขอให้ ผบ.ตร.ควรสั่งยกเลิก
อย่างไรก็ตาม เมื่อองค์กรตำรวจเป็นต้นน้ำกระบวนการยุติธรรม ถ้าจัดระบบโครงสร้างการเติบโตในหน้าที่โดยไม่ต้องวิ่งเต้น พร้อมกับกำหนดเงินเดือนให้เพียงพอเพื่อตัดปัญหาส่วยหรือการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ รวมทั้งตั้งองค์กรตรวจสอบภายในอย่างแข็งแรง ดังนั้น เมื่อระบบดีการซื้อตำแหน่งแล้วไปหากินควรยกเลิกไป ซึ่งจะทำให้บ้านเมืองมีความโปร่งใสยิ่งขึ้น
“ความจริงแล้ว แม้ตำรวจดีมีมากอยู่แล้ว แต่เมื่อระบบเป็นปัญหา เกิดการวิ่งเต้น ซื้อขายตำแหน่ง หากินกับส่วย ทำให้การทำหน้าที่ทุกอย่างมีต้นทุนหมดจนลุกลามทำเศรษฐกิจพัง สังคมเต็มไปด้วยสิ่งผิดกฎหมาย เงินเทาเงินดำและยาเสพติด”
ส่วนปรากฎการณ์เปิดโปงองค์กรตำรวจขณะนี้ เป็นเพราะตำรวจต้องหากินกันเอง ดังนั้น ต้องจัดการคนและวางระบบให้แน่นหนาก่อน แล้วให้คนผ่านมาตรฐานการประเมินหน้าที่ ถ้าทำเช่นนี้ประเทศชาติได้ประโยชน์ ดังนั้น เมื่อนายกฯ มีเวลาน้อย ควรวางแนวทางให้เห็นเป็นด้านหลักไว้ก่อน
กรณีมีคนไทยเสียชีวิตในกัมพูชานั้น หวังว่า รัฐบาลและฝ่ายความมั่นคง จะมีมาตรการช่วยเหลือเหมือนปฏิบัติการของเกาหลีใต้ เพราะหากปล่อยไว้ ไม่ใส่ใจจะทำอะไรแล้ว อาจมีคนไทยเสียชีวิตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
#จตุพร #ฝ่ายค้าน #รัฐบาล #มาตรา152 #อภิปรายไม่ไว้วางใจ #สภาไทย #ยุบสภา #การเมืองไทย #ข่าวการเมือง #วิเคราะห์การเมือง








