ที่ประชุม 4 หน่วยงานเศรษฐกิจเห็นชอบกรอบงบประมาณประจำปี 2570 ชี้เป้าเร่งรัดงบฯ ให้ทันใช้ 1 ต.ค. 69 พร้อมเดินหน้าใช้ "งบกลาง" ที่เหลืออยู่ 7 หมื่นล้านบาท เตรียมดันโครงการคนละครึ่ง พลัส เฟส 2 เริ่ม ม.ค. 69 สานต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างเร่งด่วน
วันที่ 19 พ.ย.2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมพิจารณากำหนดวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2570 โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นประธาน ร่วมกับ 4 หน่วยงานเศรษฐกิจ ประกอบด้วย กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงบประมาณ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ซึ่งที่ประชุมได้เห็นชอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2570 วงเงิน 3.788 ล้านล้านบาท รายได้ 3 ล้านล้านบาท งบขาดดุล 7.88 แสนล้านบาท หรือ 3.9% ต่อจีดีพี ซึ่งลดน้อยกว่าปีงบประมาณ 2569 โดยมั่นใจจะพยายามเร่งรัดให้งบประมาณปี 2570 ออกทันใช้ในวันที่ 1 ต.ค.2569 แต่ถ้าล่าช้าที่สุดอาจไม่เกินครึ่งเดือน หรือ 1 เดือน
ทั้งนี้ นายกฯอนุทิน เป็นห่วงการทำงบประมาณอาจมีความล่าช้า จึงได้เร่งรัดขยับปฏิทินการทำงบประมาณให้เร็วขึ้น จากปกติการจัดทำงบประมาณจะผ่านการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในเดือน ก.พ.-มี.ค. แต่ในครั้งนี้ยืนยันจะทำให้เสร็จและผ่านมติครม.ภายในรัฐบาลนี้ ให้เสร็จสิ้นในเดือน ม.ค.2569 ก่อนยุบสภา
"ปกติงบฯผ่านครม.ในเดือน ก.พ.-มี.ค. แต่ครั้งนี้จะให้เสร็จสิ้นเดือน ม.ค. ก่อนยุบสภา เพื่อที่จะเผื่อเวลาช่วงสุญญากาศ เพราะกว่าจะเลือกตั้งวันที่ 29 มี.ค.2569 กว่าจะได้รับรองการเลือกตั้งและกว่าจะตั้ง ครม.ใหม่ได้ อาจทำให้ปฏิทินงบฯล่าช้านิดหน่อย จึงพยายามเข็นให้ผ่านมติครม.ภายในรัฐบาลนี้ และไม่ให้ล่าช้าเหมือนอย่างตอนเลือกตั้งปี 2566 กว่าจะได้ใช้งบประมาณจริงเข้าไตรมาสสองของปีงบประมาณ ทำให้ความล่าช้าได้มีปัญหาในกระบวนการผ่านงบประมาณ และปัญหาจีดีพี"
นายภราดร กล่าวถึงการเร่งรัดงบกระตุ้นเศรษฐกิจ ว่า ได้หารือกับสำนักงบประมาณ โดยเฉพาะงบกระตุ้นเศรษฐกิจที่ได้อนุมัติในรัฐบาลที่ผ่านมาวงเงิน 157,000 ล้านบาท แต่ใช้ไปจริงกว่า 110,000 ล้านบาท โดยพยายามเร่งรัดหน่วยงานที่ได้รับจัดสรร เร่งดำเนินการให้ได้เร็วที่สุด เพราะเป็นงบกระตุ้นเศรษฐกิจ จำเป็นต้องดำเนินการให้เร็วที่สุด งบกระตุ้นเศรษฐกิจได้อนุมัติโครงการรัฐบาลที่แล้ว ส่วนรัฐบาลนี้มีหน้าที่ไปผลักดันให้เงินก้อนที่ตั้งใจเอามากระตุ้นเศรษฐกิจลงสู่เศรษฐกิจ มีการหมุนเวียนเศรษฐกิจให้ได้เร็วที่สุด" นายภารดรกล่าว ส่วนงบกลางส่วนที่เหลือ นายอนุทิน และนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ได้มีแนวทางทำโครงการคนละครึ่งพลัสพลัสเฟส 2 คาดว่าเริ่มเดือน ม.ค.2569 ทำให้ในช่วงเดือน ธ.ค.นี้ จะต้องมีการสำรวจและดูเงินว่าใช้วงเงินเท่าไร
ทั้งนี้ ในปัจจุบันมีงบกลางเหลือ 70,000 ล้านบาท แต่คงไม่ได้ใช้ส่วนนี้ทั้งหมด คงใช้บางส่วน ต้องดูว่าในคนละครึ่งพลัสเฟสแรกมีผู้ที่มาใช้ 20 ล้านคน เหลือจำนวนและเงินเท่าไร ซึ่งในเวลานี้เห็นบางส่วนแล้ว เช่น ในส่วนคนที่ลงทะเบียนไว้และไม่ได้ใช้ภายในวันที่ 11 พ.ย.2568 เหลืออยู่ 6,000 ล้านบาท และได้นำไปทำคนละครึ่งพลัส 1.5 ในการอบรมพัฒนาร้านค้า 800 ล้านบาท สูงสุดรายละ 2,000 บาท ทำให้ในส่วนนี้เหลือ 5,200 ล้านบาท จะไปรวมกับเฟสใหม่ที่จะอนุมัติเพิ่ม เชื่อว่าขนาดโครงการไม่หนีกัน แต่ดูความเป็นไปได้และรอดูตัวเลขชัดๆอีกครั้ง








