“โฆษก ภท.” ตอบโต้เดือด กรณี พรรคเพื่อไทยรุมถล่มนายกฯ “อนุทิน” เรื่องภาษีสหรัฐฯ ชี้เป็นการโจมตีที่เร็วเกินไป ขอให้รอดูสถานการณ์ เพราะ ‘ไทย-อเมริกา’ อยู่คนละไทม์โซน การสื่อสารและการส่งข้อมูลต้องใช้เวลา! พร้อมยืนยันมั่นใจในฝีมือการเจรจา ทั้งเรื่องเศรษฐกิจและอธิปไตย สยบข่าว Joint Declaration ไทย-กัมพูชา ที่ถูกมองกระทบเศรษฐกิจ ลั่นไม่จริง! ย้ำ รมว.พาณิชย์เดินหน้าคุยการค้าต่อ มั่นใจเสถียรภาพเศรษฐกิจในประเทศและระหว่างประเทศยังเดินหน้า ยืนยันนายกฯไร้ข้อกังวล เตรียมรับมือศึกซักฟอกเต็มที่ ชี้ผลงานบริหารประเทศแค่เดือนครึ่ง ทิศทางดี โดยเฉพาะ ‘คนละครึ่งพลัส’ เตรียมต่อเฟส 2
วันที่ 16 พ.ย.2568 เวลา 10.45 น. ที่พรรคภูมิใจไทย(ภท.) น.ส.แนน บุญธิดา สมชัย สส.อุบลราชธานี โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการประชุมพรรคร่วมรัฐบาลวันนี้ว่า เป็นการประชุมเพื่อเตรียมความพร้อมเปิดประชุมสภาฯสมัยสามัญ ซึ่งทางพรรคเพื่อไทยจะเตรียมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ พรรคภูมิใจไทยเองก็มีความพร้อม รวมถึงตัวนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทยด้วย ซึ่งจากการพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีไม่ได้มีข้อกังวลใด และมองว่าเป็นสิทธิ์ของพรรคเพื่อไทยที่จะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ส่วนจะยื่นหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่หากถามกลับว่าเป็นประเด็นอะไร ในมุมของนายกรัฐมนตรีมองว่าตนเพิ่งเข้ามาบริหารราชการแผ่นดินได้เพียงหนึ่งเดือนครึ่ง ซึ่งในการบริหารงานที่ผ่านมาไม่ได้สร้างความเสียหาย กลับกันกลับมีทิศทางดีโดยเฉพาะในมุมเศรษฐกิจ ที่ได้รับการชื่นชมจากผู้ประกอบการ พ่อค้าแม่ค้า โดยเฉพาะกลุ่มที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งพลัส ที่ไปกระตุ้นเศรษฐกิจ มียอดเงินเข้ามาหมุนเวียนพอสมควร จนมีกระแสเรียกร้องอยากให้ทำเฟส 2 ซึ่งจะออกมาเร็วๆนี้ และสิ่งที่นายกรัฐมนตรีรับปากไว้ก็ยังทำได้อย่างเต็มที่ จึงมองว่าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องรีบยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่สุดท้ายก็เป็นสิทธิ์ของพรรคเพื่อไทย เราไปห้ามไม่ได้ ซึ่งเราก็เตรียมความพร้อมในเรื่องข้อมูล รวมถึงตัวรัฐมนตรีที่จะตอบคำถามและชี้แจง
น.ส.แนน บุณย์ธิดา กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องภาษีสหรัฐอเมริกา ที่น่าจะถูกหยิบยกมาโจมตีในศึกซักฟอกนั้น ได้มีการส่งข้อมูลอัพเดตสถานการณ์แทบจะรายชั่วโมง ว่าสถานการณ์ตอนนี้เป็นอย่างไร ซึ่งในบางครั้ง มีเรื่องของเอกสารออกมาก่อนที่จะมีการเจรจากัน ระหว่างผู้นำของ 2 ประเทศ คือนายอนุทิน และนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จึงอยากฝากถึงพรรคเพื่อไทยที่เห็นข่าวออกมาหนึ่งข่าว และออกมาโจมตีเลย อยากให้รอดูระยะเวลาด้วย
“ต้องยอมรับว่าไทยกับสหรัฐอเมริกาอยู่คนละไทม์โซน การสื่อสารพูดคุย การส่งเอกสาร และการให้ข้อมูลอาจต้องรอเวลา แต่นายกรัฐมนตรียังมั่นใจในการทำงาน ทั้งเรื่องเศรษฐกิจและเรื่องอธิปไตย” โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าว
เมื่อถามถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยออกมารุมถล่ม นายอนุทิน เรื่องภาษีสหรัฐฯ ว่าบริหารสถานการณ์บ้านเมืองผิดพลาด ไร้เดียงสา น.ส.แนน บุณย์ธิดา กล่าวว่า ช่วงนี้ใช้คำค่อนข้างแรงกับการทำงานของนายกฯที่ทำงานมา 1 เดือนครึ่ง เวลาที่ผ่านมาผลงานที่ท่านรับปาก ก็ออกดอกออกผล ไม่ว่าจะเรื่อง สแกมเมอร์ การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจเบื้องต้น
“ประเด็นที่เกิดขึ้นในช่วง 2-3 วันนี้ อยากจะบอกฝ่ายแค้นว่า ใจเย็นๆ ให้ทำหน้าที่ตรวจสอบแบบฝ่ายค้านไม่ใช่แบบฝ่ายค้าน ให้ดูดีๆ ว่าสิ่งที่นายกฯ พยายามจะสื่อและทำอยู่ อย่างแรก คือ อธิปไตยของชาติ ประเทศไทย คือหัวใจหลักที่นายกฯ ต้องปกป้องให้มากที่สุด เห็นได้ชัดว่านายกฯ และทีมคณะรัฐมนตรี พยายามอย่างที่สุด ในการเจรจาปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชา คุยระดับทวิภาคีอยู่แล้ว ในส่วนอื่นเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องรับทราบและทำงานไปก่อน ไม่ใช่เห็นข่าวอะไรแค่ 1 นาที ก็ออกมาตอบโต้กล่าวหา เกินไปนิด อย่าให้ถึงขั้นเป็นฝ่ายแค้น เราเข้าใจบริบทว่าฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาลก็ต้องทำหน้าที่ของตน แต่ก็ควรจะอยู่ในกรอบที่คำนึงถึงว่า บทบาทของนายกฯ ในการทำเพื่ออธิปไตยของชาติ“ โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าว
เมื่อถามว่า การที่พรรคเพื่อไทย บอกว่า นายกฯ พูดไม่สนใจสหรัฐ เหมือนไม่มีความรู้หรือความสามารถทางการทูต น.ส.แนน บุณย์ธิดา กล่าวว่า ถ้าให้ตอบแบบแรงๆ ก็คงไม่มีอะไรร้ายแรงไปกว่าการมีอังเคิลในบริบทของการเมืองไทยที่ผ่านมา ที่นายกได้ปฏิบัติ ให้ดูที่บริบท ไม่ใช่แค่ยกเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่งขึ้นมา ที่ผ่านมานายกฯ ได้ลงไปเยี่ยมทหารที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบทุนระเบิดล่าสุด คนไทยด้วยกันไม่เห็นข่าวนี้ควรจะมีใจเป็นหนึ่งเดียวกัน ใครก็ตามที่ไม่ได้อยู่ในตำแหน่งบริหารประเทศก็มีความห่วงประเทศอยู่แล้ว สิ่งที่นายกฯ ได้ทำ ไม่ใช่เพียงประโยชน์ของประเทศและอธิปไตยของประเทศอย่างเดียว แต่ยังมีความเป็นห่วงความปลอดภัยของชีวิตทหารแนวหน้า ส่วนที่พรรคเพื่อไทยออกมาโจมตีว่าการรักษาอธิปไตยต้องเดินหน้าควบคู่ไปกับเศรษฐกิจด้วยนั้น นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รมว.พาณิชย์ ก็เจรจาการค้า ไม่ใช่แค่เฉพาะภาษีสหรัฐ แต่มีการเจรจาการค้ากับประเทศอื่นด้วย เราเดินหน้าในทุกด้านและพูดคุยทุกประเทศ
น.ส.แนน บุณย์ธิดา กล่าวด้วยว่า ขณะที่การยุติ Joint Declaration ไทย–กัมพูชา ไม่ได้กระทบกับเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจไทยหรือทั่วโลก ก็ประสบปัญหาคล้ายคลึงกัน ตนยังมั่นใจว่า การเดินหน้าเศรษฐกิจยังดำเนินต่อไป ไม่ว่าการค้าในประเทศหรือระหว่างประเทศ เมื่อวานที่นายกฯ ได้โพสต์ Facebook ก็ชัดเจนว่า Joint Declaration ยังมีความชัดเจนในเรื่องการทหารและเขตแดน แต่ประเด็นการค้าและเศรษฐกิจ รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องก็ยังทำหน้าที่อยู่








