นายศรัณยู คงสวัสดิ์เกียรติ นายทะเบียนสมาชิกพรรคไทยสร้างไทย พร้อมด้วยนางสาวตรัยฉัตร ธนสารไตรภพ กรรมการบริหารพรรคไทยสร้างไทย ลงพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อตรวจสอบและรับเรื่องร้องเรียนกรณีหญิงสาววัย 22 ปี ซึ่งถูกหลอกลวงให้เดินทางไปทำงานในประเทศกัมพูชา โดยขบวนการค้ามนุษย์ข้ามชาติที่มีลักษณะเป็นเครือข่ายสแกมเมอร์
กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากพรรคไทยสร้างไทยได้รับการประสานงานผ่านช่องทางเฟซบุ๊กของพรรค โดยทีมงานได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและพบว่า หญิงสาววัย 22 ปีรายนี้มีภาวะบกพร่องทางสติปัญญา ถูกกลุ่มคนร้ายหลอกลวงว่าจะพาไปทำงานในกรุงเทพมหานคร แต่กลับถูกพาเดินทางตระเวนเปิดบัญชีธนาคารหลายแห่ง ก่อนที่จะพาเดินทางผ่านช่องทางธรรมชาติไปยังประเทศกัมพูชา
จากข้อมูลที่ได้รับ หญิงสาวถูกหลอกให้เดินทางถึงสองครั้ง โดยครั้งแรกถูกเจ้าหน้าที่ทหารจับกุมได้ในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว และถูกส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่กลุ่มผู้หลอกลวงกลับสามารถนำเหยื่อเดินทางกลับไปยังจุดเดิมและพาเดินข้ามชายแดนเข้าสู่ประเทศกัมพูชาอีกครั้ง
เมื่อข้ามแดนได้สำเร็จ หญิงสาวถูกจัดให้อยู่ในอาคารแห่งหนึ่งในเมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา โดยในระยะแรกถูกบังคับให้ทำงานลักษณะคอลเซ็นเตอร์ แต่เมื่อไม่สามารถทำงานได้ตามที่กลุ่มคนร้ายต้องการ ก็ถูกส่งไปทำงานเป็นแม่บ้านในอาคารเดียวกัน และในเวลาต่อมาถูกบังคับให้ติดต่อกลับบ้านเพื่อให้ครอบครัวโอนเงินเป็นค่าไถ่ตัวจำนวน 9,000 บาท เพื่อแลกกับการเดินทางกลับประเทศไทย
หลังครอบครัวโอนเงินตามที่ถูกเรียกร้อง หญิงสาวจึงได้รับการปล่อยตัวและสามารถเดินทางกลับมายังประเทศไทยได้อย่างปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากกลับมา พบว่าบัญชีธนาคารที่หญิงสาวถูกบังคับให้เปิดก่อนถูกพาออกนอกประเทศ ถูกนำไปใช้ในลักษณะ “บัญชีม้า” เพื่อทำธุรกรรมทางการเงินให้กับขบวนการสแกมเมอร์ และมีมูลค่าความเสียหายรวมกว่า 1 ล้านบาท ขณะนี้ชื่อของหญิงสาวปรากฏอยู่ในระบบตำรวจถึง 8 คดี ซึ่งล้วนเป็นคดีอาชญากรรมทางออนไลน์ที่เธอไม่มีส่วนรู้เห็น
พรรคไทยสร้างไทยได้ประสานไปยังผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อขอให้หญิงสาวผู้เสียหายเข้าพบและขอคำปรึกษาทางคดี รวมถึงแนวทางการดำเนินการทางกฎหมายเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของผู้เสียหาย โดยนายศรัณยูเปิดเผยว่าผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรสนามชัยเขตได้ให้ความร่วมมือและคำแนะนำเป็นอย่างดี พร้อมขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ที่ให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่
อย่างไรก็ตาม นายศรัณยูระบุว่า ระหว่างการลงพื้นที่รับเรื่องร้องเรียน พรรคไทยสร้างไทยได้รับข้อมูลเพิ่มเติมว่ามีประชาชนในพื้นที่เดียวกันอีกหลายรายตกเป็นเหยื่อของขบวนการลักษณะเดียวกัน โดยบางรายมีอายุเพียง 17 ปี ยังไม่บรรลุนิติภาวะ แต่กลับถูกหลอกให้ไปทำงานในประเทศกัมพูชา ทั้งนี้จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้รับแจ้งความในกรณีดังกล่าวอย่างเป็นทางการ จึงจำเป็นต้องรอการยืนยันข้อมูลจากครอบครัวและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้งก่อนดำเนินการต่อไป
จึงขอเรียกร้องให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติและผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว เข้ามาตรวจสอบและดูแลกรณีเหล่านี้อย่างจริงจัง เนื่องจากมีรายงานว่าบางสถานีตำรวจในจังหวัดสระแก้วไม่ยอมรับแจ้งความคนหายจากครอบครัวผู้เสียหาย โดยให้ลงเพียงบันทึกประจำวันเท่านั้น ซึ่งเป็นการดำเนินการที่ไม่เพียงพอต่อการช่วยเหลือประชาชนที่กำลังตกอยู่ในอันตราย
นายศรัณยูกล่าวเพิ่มเติมว่า จังหวัดสระแก้วถือเป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการถูกล่อลวงจากแก๊งค้ามนุษย์และแก๊งสแกมเมอร์ที่มีเครือข่ายอยู่ในประเทศกัมพูชา ดังนั้น เจ้าหน้าที่ของรัฐทุกฝ่ายต้องเพิ่มความเข้มงวดและทำงานอย่างรอบคอบเพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชน โดยเฉพาะเยาวชน ถูกหลอกลวงซ้ำอีก หากพบเจ้าหน้าที่ผู้ใดละเลยหน้าที่หรือไม่สามารถช่วยเหลือประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควรได้รับการพิจารณาโยกย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ในส่วนงานอื่นที่เหมาะสมกว่า
พรรคไทยสร้างไทยยืนยันว่าจะเดินหน้าติดตามและประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ความช่วยเหลือหญิงสาวผู้เสียหายรายนี้ รวมถึงกรณีอื่น ๆ ที่มีลักษณะเดียวกัน เพื่อให้ประชาชนทุกคนได้รับความเป็นธรรม และเพื่อให้ปัญหาการหลอกลวงคนไทยไปทำงานในต่างประเทศได้รับการแก้ไขอย่างยั่งยืน








