กกต.แจงข่าวอดีตพนักงานถูกกล่าวหาเกี่ยวข้องรับโอนเงินคดีฮั๊วเลือก สว. เกิดก่อนตั้งคณะสืบสวนฯ ชุด 26 ไม่เกี่ยวกัน และสั่งให้ออกและตั้งกรรมการสอบแล้ว พร้อมตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อความโปร่งใส
กกต. วันนี้ ( 15 พ.ย.) สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ออกเอกสารชี้แจงตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลบนสื่อสังคมออนไลน์เกี่ยวกับการนำเอกสาร ไปยื่นต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อให้รับเป็นคดีพิเศษ ในประเด็นที่มีการกล่าวหาว่า พนักงานของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งรายหนึ่ง มีพฤติการณ์รับโอนเงิน ในช่วงเดือนเมษายนถึงมิถุนายน พ.ศ. 2567 ที่เชื่อมโยงกับการเรียกรับผลประโยชน์เกี่ยวกับคดีฮั้ว สว. นั้น
สำนักงาน กกต. ขอชี้แจงข้อเท็จจริงว่าพฤติการณ์รับโอนเงินเกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2567 ส่วนคณะกรรมการสืบสวน และไต่สวน ส่วนกลาง คณะที่ 26 ซึ่งถูกแต่งตั้งมาปฏิบัติหน้าที่ในการเลือก สว. ตามที่ถูกอ้างถึงในข่าว ได้รับการแต่งตั้งให้เริ่มปฏิบัติหน้าที่เมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2568 จึงไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าวตามที่ถูกเผยแพร่
เมื่อสำนักงาน กกต. ทราบเรื่องพฤติการณ์ที่พาดพิงถึงพนักงานรายดังกล่าว ได้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่โดยทันที โดยมีคำสั่งให้ออกจากงานไว้ก่อน ในระหว่างการดำเนินการ เพื่อความโปร่งใสและป้องกันมิให้เกิดผลกระทบต่อกระบวนการตรวจสอบ พร้อมทั้งได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ และแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนดำเนินการทางวินัย ซึ่งการดำเนินการทั้งหมดนี้ได้เริ่มขึ้นก่อนมีการเผยแพร่ข้อมูลบนสื่อสังคมออนไลน์แล้ว
สำนักงาน กกต. ขอยืนยันว่า ให้ความสำคัญสูงสุดต่อความโปร่งใส ความสุจริต และความถูกต้องในการปฏิบัติหน้าที่ทุกขั้นตอน และพร้อมให้ความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ครบถ้วนต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับกรณีที่ กกต.รีบออกเอกสารชี้แจงนี้เกิดการที่ นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือ ทนายอั๋น บุรีรัมย์ เปิดเผยแผนผังเส้นทางการเงินที่อ้างว่าเป็นหลักฐาน ซึ่งเชื่อมโยงโดยตรงกับขบวนการฮั้วเลือกตั้ง สว. ในพื้นที่จังหวัดอำนาจเจริญ โดยหลักฐานดังกล่าวพุ่งเป้าไปที่เจ้าหน้าที่ กกต. รายหนึ่งชื่อย่อ ส. ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นพนักงานสืบสวนและไต่สวนประจำ กกต. โดยถูกกล่าวหาว่าได้รับเงินโอนจากบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายฮั้วเลือก สว. ในพื้นที่








