เกิดเหตุสะเทือนขวัญกลางกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา หลังเจ้าหน้าที่กองกำลังรักษาดินแดนแห่งชาติ 2 นาย ถูกยิงใกล้ทำเนียบขาวจนได้รับบาดเจ็บสาหัสและยังคงอยู่ในอาการวิกฤต โดยทางการกำลังสอบสวนเหตุการณ์นี้ในฐานะ “การยิงแบบเจาะจงเป้าหมาย”
มูเรียล โบว์เซอร์ นายกเทศมนตรีกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. โพสต์ข้อความผ่านแพลตฟอร์ม X ระบุว่า เหตุเกิดขึ้นขณะเจ้าหน้าที่จากกองกำลังรักษาดินแดนแห่งชาติเวอร์จิเนียตะวันตกกำลังออกลาดตระเวนบริเวณใจกลางเมือง ขณะที่ แคช พาเทล ผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ (FBI) ซึ่งร่วมแถลงข่าว ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ทั้งสองนายยังคงมีอาการสาหัส
ตำรวจนครบาลวอชิงตัน ดี.ซี. เปิดเผยว่า ในช่วงเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการลาดตระเวนในพื้นที่โล่ง ก่อนที่ผู้ต้องสงสัยจะเดินเข้ามาใกล้ ยกอาวุธปืนขึ้นยิงใส่เจ้าหน้าที่อย่างกะทันหัน ก่อนที่เจ้าหน้าที่อีกนายจะยิงตอบโต้เพื่อควบคุมสถานการณ์
ต่อมา เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ 1 ราย และยังไม่มีหลักฐานว่ามีผู้ร่วมก่อเหตุรายอื่น ทั้งผู้ต้องสงสัยและเจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บถูกนำส่งโรงพยาบาลในพื้นที่ทันที
แหล่งข่าวจากหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายเปิดเผยกับสำนักข่าว CNN ว่า ผู้ต้องสงสัยเข้าไปประชิดตัวเจ้าหน้าที่ในระยะใกล้ก่อนจะเปิดฉากยิง โดยยิงเจ้าหน้าที่นายแรก จากนั้นจึงยิงใส่อีกนายที่พยายามหลบอยู่หลังป้ายรถเมล์ ผู้ต้องสงสัยไม่มีเอกสารระบุตัวตนติดตัวขณะถูกจับกุม และให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในระดับจำกัด
FBI ระบุว่า หลังการสอบสวนเบื้องต้น เชื่อว่าสามารถระบุตัวผู้ต้องสงสัยได้แล้ว เป็นชายจากรัฐวอชิงตัน ซึ่งอพยพจากประเทศอัฟกานิสถานเข้าสหรัฐฯ ในปี 2021 ยื่นขอลี้ภัยในปี 2024 และเพิ่งได้รับอนุมัติเมื่อต้นปีนี้ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมผ่านการยืนยันลายนิ้วมือและฐานข้อมูลทางกฎหมาย
จากการตรวจค้นพื้นที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบอาวุธปืนพกที่เชื่อว่าใช้ก่อเหตุ และอยู่ระหว่างสอบสวนเส้นทางการได้มาของอาวุธ เนื่องจากกฎหมายสหรัฐฯ จำกัดการซื้อขายอาวุธปืนสำหรับผู้ที่ไม่ใช่พลเมืองหรือไม่ได้พำนักถาวร
เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายยังเปิดเผยเพิ่มเติมว่า ภาพจากกล้องวงจรปิดในพื้นที่ และวิดีโอจากสถานีรถไฟใต้ดินใกล้เคียง สามารถบันทึกช่วงเหตุการณ์ไว้ได้ทั้งหมด ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการวิเคราะห์เป็นหลักฐานสำคัญประกอบคดี
ล่าสุด แหล่งข่าวยืนยันว่า ไม่มีผู้เสียหายรายอื่นเพิ่มเติม นอกเหนือจากทหารรักษาดินแดน 2 นาย และผู้ต้องสงสัย
ก่อนหน้านี้ มีความสับสนเกี่ยวกับอาการของเจ้าหน้าที่ หลังแพทริก มอร์ริสซีย์ ผู้ว่าการรัฐเวสต์เวอร์จิเนีย โพสต์ข้อความในช่วงแรกว่าเจ้าหน้าที่เสียชีวิต ก่อนที่จะแก้ไขและยืนยันในเวลาต่อมาว่า ทั้งสองนายยังมีชีวิตอยู่แต่มีอาการสาหัส
ตำรวจนครบาลกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ได้ออกแถลงการณ์อีกครั้ง ยืนยันว่าขณะนี้สถานการณ์ในพื้นที่ปลอดภัยแล้ว พร้อมขอความร่วมมือประชาชนหลีกเลี่ยงบริเวณใกล้จุดเกิดเหตุ เพื่อความปลอดภัยและไม่กระทบต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่
ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับรายงานสรุปเหตุการณ์ดังกล่าว และโพสต์ผ่าน Truth Social แสดงความคิดเห็นต่อเหตุยิง พร้อมยืนยันว่า ผู้ต้องสงสัยได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการถูกเจ้าหน้าที่ยิงตอบโต้
นอกจากนี้ ทรัมป์ยังได้สั่งการให้ส่งกำลังทหารรักษาดินแดนเพิ่มเติมอีก 500 นาย เข้ามาประจำการในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เพื่อเสริมความมั่นคงในช่วงสถานการณ์ตึงเครียด โดยพีท เฮกเซธ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นผู้ยืนยันคำสั่งดังกล่าว
ขณะเดียวกัน รองประธานาธิบดี เจ.ดี. แวนซ์ กล่าวระหว่างการปราศรัยที่ค่ายทหารฟอร์ตแคมป์เบลล์ รัฐเคนทักกี ขอให้ประชาชนร่วมส่งกำลังใจและสวดภาวนาให้เจ้าหน้าที่ทั้งสองนาย พร้อมชี้ว่า เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความเสี่ยงที่กำลังพลต้องเผชิญในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อความปลอดภัยของประเทศ
ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา กองกำลังรักษาดินแดนแห่งชาติจากหลายรัฐ ถูกระดมเข้ามาประจำการในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เพื่อสนับสนุนมาตรการปราบปรามอาชญากรรม ก่อนที่จะขยายโมเดลไปยังเมืองใหญ่อื่นทั่วประเทศ
อย่างไรก็ตาม เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้พิพากษาศาลรัฐบาลกลางได้มีคำสั่งระงับการส่งกำลังดังกล่าว โดยให้เหตุผลว่าการระดมกำลังดำเนินการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และระบุว่ามีเจ้าหน้าที่กองกำลังรักษาดินแดนปฏิบัติหน้าที่ในเมืองหลวงมากกว่า 2,000 นายต่อวัน
แม้ศาลจะยังไม่สั่งถอนกำลังในทันที แต่รัฐบาลของทรัมป์ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์ พร้อมขอคำสั่งฉุกเฉินเพื่อระงับผลคำตัดสินดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
#ยิงวอชิงตัน #กระแสข่าวสหรัฐ #ทหารรักษาดินแดน #DonaldTrump #ข่าวต่างประเทศ #อาชญากรรมสหรัฐ #WashingtonDC #BreakNews #WorldNews #ข่าวรอบโลก








