ผลงานจากการวิจัย พัฒนาของสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สทน. สร้างชื่อ คว้า 7 รางวัล จากการประกวดงานวิจัย สิ่งประดิษฐ์และวัตกรรมปี 2569 ของสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ชี้เป็นงานวิจัยที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม บางผลงานพร้อมนำไปต่อยอดทางอุตสาหกรรม
วันที่ 17 ธ.ค.68 รศ.ดร.ธวัชชัย อ่อนจันทร์ ผู้อำนวยการสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สทน. เปิดเผยว่า นอกเหนือจากภารกิจการให้บริการเทคโนโลยีนิวเคลียร์ในด้านต่างๆ (เกษตรกรรม อุตสาหกรรม การแพทย์ สิ่งแวดล้อม) เพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจและสังคม สทน. ยังมีการวิจัยพัฒนาวิชาการและนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีนิวเคลียร์เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ให้สอดคล้องกับการพัฒนาประเทศ ในแต่ละปี สทน. ได้ส่งผลงานการวิจัยเข้าร่วมประกวดในเวทีระดับประเทศและต่างประเทศจนได้รับรางวัลมากมาย
สำหรับในปีงบประมาณ 2569 มีผลงานการประดิษฐ์คิดค้นและการวิจัยของ สทน. ได้รับรางวัลการประกวดจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) จำนวน 7 รางวัล ดังนี้
1) รางวัลผลงานประดิษฐ์คิดค้น ระดับดี จำนวน 1 รางวัล เรื่อง “โอ้ซีลีนอร์แคนเซอร์ : นาโนเทคโนโลยีอุบัติใหม่ของซีลีเนียมนาโนไฮบริดที่ทำงานหลากหลายฟังก์ชั่น เป็นตัวนำส่งนาโนอัจฉริยะสำหรับระบบนำส่งยาต้านมะเร็งอย่างทรงประสิทธิภาพ” ผลงานของ ดร.ศักด์ชัย หลักสี และคณะวิจัย
2) ผลงานประดิษฐ์คิดค้น รางวัลเกียรติคุณ จำนวน 1 รางวัล คือ “นวัตกรรมหุ่นยนต์อัจฉริยะต้นทุนต่ำ สำหรับตรวจวัดรังสีและเก็บกู้วัสดุกัมมันตรังสี เพื่อการจัดการภาวะฉุกเฉินอย่างมีประสิทธิภาพ” ผลงานของ ดร.กนกรัชต์ ตียพันธ์ และคณะวิจัย
3) ผลงานวิจัยรางวัลผลงานคุณภาพ จำนวน 5 รางวัล คือ
3.1 “Zeolite Molecular Sieve (ZMS : นวัตกรรมวัสดุดูดซับสำหรับเทคโนโลยีดักจับและกักเก็บคาร์บอน” ( Zeolite Molecular Sieve (ZMS) : An Innovative Adsorbent Material for Carbon Capture and Storage Technologies) ผลงานของ ดร.วิลาสินี กิ่งก้ำ และคณะวิจัย
3.2 ผลงานเรื่อง “บรรจุภัณฑ์สำหรับบรรจุแคปซูลวัสดุกัมมันตรังสีหลังการปรับสภาพกากกัมมันตรังสี ประเภท DC12CAP “ ( Packaging for Radioactive Material Capsules After Conditioning of Disused Sealed Radioactive Source (DSRS) Type DC12CAP) ผลงานของ นางอัจฉรา พัฒนทรัพย์ และคณะวิจัย
3.3 ผลงานเรื่อง “ชวาดอท : คาร์บอนดอทจากกระบวนการรังสีไอออไนซ์สะอาด”(Chawa Dots : Carbon Dots from Water Hyacinth Via Clean Ionizing Radiation) ผลงานของ ผศ.ดร.(พิเศษ) ธนกร แสงทวีสิน และคณะวิจัย
3.4 ผลงานเรื่อง “ ระบบตรวจวัดค่าตัวแปรจากภาพ ( Image Processing) เพื่อการประมวลผล และแจ้งเตือนการทำงานที่มีแนวโน้มผิดปกติ (Intelligent Image Processing System for Real-Time Monitoring and Early Anomaly Detection) ผลงานของ นายกิติศักดิ์ โคมน้อย และคณะวิจัย
3.5 ผลงานเรื่อง “เครื่องสร้างพลาสมาที่สภาวะบรรยากาศแบบทำงานได้สองฟังก์ชั่น ( Dual-Function Atmospheric Pressure Plasma Generator) ผลงานของนายพสิษฐ์ วงษ์หาบุศย์ และคณะวิจัย
รศ.ดร.ธวัชชัย กล่าวว่า ผลงานการวิจัยดังกล่าว สามารถนำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ในด้านต่างๆ ได้หลากหลาย ทั้งด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม และสิ่งแวดล้อม บางผลงานเป็นเทคโนโลยีที่มีความพร้อมในการนำไปพัฒนาต่อยอดในระดับอุตสาหกรรม สามารถปรับขนาดการผลิต (scalability) ได้ง่าย ใช้วัตถุดิบที่มีราคาประหยัด และถูกออกแบบเพื่อรองรับระบบแยกก๊าซในโรงงานอุตสาหกรรม โรงไฟฟ้า และภาคพลังงานหมุนเวียน








