เมื่อวันที่ 17 พ.ย. 2568 สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ ประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 2568 ว่าจะขยายตัว 2.0% ขณะที่ปี 2569 คาดว่าจะเติบโต 1.7% (กรอบ 1.2–2.2%) โดยระบุว่าแรงขับเคลื่อนสำคัญในปีหน้า จะมาจากการเร่งลงทุนของภาครัฐ โดยเฉพาะงบประมาณปี 2570 ซึ่งถือเป็นปัจจัยหลักที่จะผลักดันเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ โดยเฉพาะภาคก่อสร้าง หากการจัดงบล่าช้า อาจกระทบต่อการเบิกจ่ายอย่างมีนัยสำคัญ
เลขาธิการสภาพัฒน์กล่าวว่า การเร่งจัดทำงบประมาณปีหน้าเป็นเรื่องจำเป็น และการเพิ่มกรอบงบลงทุน จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างเด่นชัด พร้อมระบุว่าการส่งออกในปี 2569 ยังมีความเสี่ยงจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ ที่จะชัดเจนขึ้น ทำให้การเจรจาการค้ากลายเป็นประเด็นสำคัญต่อเศรษฐกิจไทย โดยตลาดที่ยังมีศักยภาพสูง เช่น เอเชียใต้ และแอฟริกา ควรถูกผลักดันให้มากขึ้น
สำหรับเศรษฐกิจไตรมาส 4/68 สภาพัฒน์ประเมินว่าอาจขยายตัวเพียงราว 0.6% เนื่องจากช่วง 9 เดือนแรกของปี เศรษฐกิจขยายตัวเฉลี่ย 2.4% และเพื่อให้ทั้งปีโตได้ตามคาดที่ 2% ไตรมาสสุดท้ายจึงมีโอกาสโตไม่ถึง 1% อย่างไรก็ตาม เลขาธิการสภาพัฒน์ระบุว่าเศรษฐกิจยังมีโอกาสขยายตัวสูงกว่า 0.6% หากมาตรการกระตุ้นที่รัฐบาลทยอยออกมาในช่วงปลายปีเริ่มส่งผลจริง
เขาระบุว่า ปัจจัยสำคัญอยู่ที่ประสิทธิภาพของมาตรการต่าง ๆ รวมถึง sentiment ความเชื่อมั่นของประชาชน โดยมาตรการคนละครึ่งพลัสเป็นตัวอย่างที่ช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายได้ดี หากรัฐบาลเดินหน้านโยบายเพิ่มเติมในไตรมาสสุดท้าย อาจส่งแรงส่งสำคัญต่อเศรษฐกิจปีหน้า พร้อมย้ำว่ายังไม่ปิดประตูว่า GDP ไตรมาส 4 จะจำกัดอยู่ที่ 0.6% เพราะยังต้องรอดูตัวแปรสำคัญ เช่น การเจรจาการค้า และมาตรการใหม่ของรัฐบาลที่จะทยอยเปิดตัว
#สภาพัฒน์ #GDPไทย #เศรษฐกิจไทย #จีดีพีปีนี้ #จีดีพีปีหน้า #นโยบายเศรษฐกิจ #การลงทุนรัฐ #ส่งออกไทย








