คนรักรถใม่ควรพลาด! มหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 42 หรือ Thailand International Motor Expo 2025 เปิดฉากขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน - 10 ธันวาคม 2568 โดยปีนี้ถือเป็นเวทีสำคัญที่ตอกย้ำถึงการเปลี่ยนผ่านของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยอย่างชัดเจน ด้วยการเข้ามาของรถยนต์ไฟฟ้า (EV) จากจีนที่แข็งแกร่ง พร้อมกับการปรับตัวอย่างดุเดือดของค่ายรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) และไฮบริด (HEV/PHEV) เพื่อช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดส่งท้ายปี
งานนี้มีรถใหม่น่าสนใจที่เป็น ไฮไลท์เด่นในงาน Motor Expo 2025 โดยยังเป็นลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่เป็นดาวเด่น โดยเฉพาะกลุ่ม SUV และ MPV ที่เปิดตัวมาพร้อมเทคโนโลยีและราคาที่แข่งขันได้สูง ขณะที่รถเครื่องยนต์สันดาปและไฮบริดก็ไม่ยอมแพ้ พร้อมเปิดตัวรุ่นปรับโฉม และรุ่นใหม่เพื่อยืนยันว่ายังเป็นตัวเลือกที่สำคัญ
กลุ่มรถนต์ไฟฟ้า (EV) และปลั๊กอินไฮบริด (PHEV)
ตลาด EV ยังคงเป็นสนามรบที่ร้อนแรง โดยเฉพาะแบรนด์จีนที่ขนทัพมาเปิดตัวและประกาศราคาที่เร้าใจ
- DFSK E5 Plus: เปิดตัวในฐานะรถยนต์พลังงานใหม่ (New Energy Vehicle) รุ่นแรกของแบรนด์ SUV ขนาดกลาง (Mid-size SUV) ที่เน้นความคุ้มค่าและความเข้าถึงง่ายสำหรับครอบครัว ด้วยราคาเริ่มต้นที่น่าสนใจ 799,999 บาท (รุ่น Comfort) คาดว่าจะสร้างปรากฏการณ์ในตลาด SUV ระดับเริ่มต้นได้เป็นอย่างดี
- BYD Ti7: SUV สไตล์ Adventure ที่มาพร้อมขุมพลัง PHEV แบบ DM 5.0 platform 4WD และแบตเตอรี่ Blade Battery ขนาด 35.6 kWh เน้นการขับขี่แบบลุยๆ และมีระยะทางวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนถึง 155 กม. (NEDC) เป็นการเพิ่มตัวเลือกให้ตลาด SUV พลังงานทางเลือกพรีเมียม
- Avatr 07: พรีเมียมเอสยูวีไฟฟ้าที่มาพร้อมดีไซน์ล้ำยุคและเทคโนโลยีสุดไฮเทค มีให้เลือกทั้งมอเตอร์เดี่ยวและมอเตอร์คู่ ชูจุดเด่นที่แบตเตอรี่พัฒนาร่วมกับ CATL เป็นคู่แข่งสำคัญในตลาด SUV ไฟฟ้าระดับพรีเมียม
- Mazda 6e: คาดว่าจะเป็นการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของ Mazda ในประเทศไทย มาในรูปทรงรถเก๋งซีดานที่ยังคงดีไซน์ KODO อันเป็นเอกลักษณ์ แต่เปลี่ยนมาใช้ขุมพลังไฟฟ้า 100% ตอบโจทย์ผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่สไตล์สปอร์ตแต่ต้องการเปลี่ยนมาใช้ EV
ขณะที่กลุ่มรถยนต์เครื่องยนต์สันดาป/ไฮบริด โดยค่ายรถญี่ปุ่นและยุโรปยังคงมีบทบาทสำคัญ เน้นที่การนำเสนอเทคโนโลยีไฮบริดที่ประหยัดน้ำมันและความอเนกประสงค์ของรถกระบะและ SUV
- Nissan X-Trail e-POWER e-4ORCE: นำเข้าจากญี่ปุ่น พร้อมระบบขับเคลื่อน e-POWER และเทคโนโลยีขับเคลื่อนสี่ล้อไฟฟ้า e-4ORCE ที่ให้การขับขี่ที่ทรงพลังและเกาะถนน เป็นการอัพเกรดครั้งใหญ่ในตลาด SUV ไฮบริด
- Toyota Hilux Travo e: การโชว์โฉมรถกระบะไฟฟ้าที่แสดงให้เห็นถึงความพร้อมของโตโยต้าในการเข้าสู่ตลาด EV เชิงพาณิชย์ แม้จะเป็นการโชว์ต้นแบบหรือรุ่นนำเข้า แต่ก็เป็นจุดสนใจอย่างมาก
- Isuzu D-MAX "The One & Only" / MU-X "The Next Peak": คาดว่ามีการนำเสนอรถกระบะและรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ (PPV) รุ่นพิเศษหรือรุ่นปรับปรุงใหม่ เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาดรถเพื่อการพาณิชย์และครอบครัว
นาย ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธานจัดงาน MOTOR EXPO 2025 กล่าวว่า Motor Expo 2025 ได้รับการตอบรับจากผู้ประกอบการในระดับสูงต่อเนื่อง มีค่ายรถยนต์ 42 แบรนด์ จาก 8 ประเทศ ค่ายรถจักรยานยนต์ 16 แบรนด์ จาก 7 ประเทศ รถยนต์มือสอง 3 แบรนด์ รวมทั้งหมด 60 แบรนด์ โดยเป้าหมายยอดจองรวมในงานจะอยู่ในระดับใกล้เคียงหรือสูงกว่าปีก่อนเล็กน้อย โดยมีปัจจัยบวกจากรถยนต์รุ่นใหม่ที่เปิดตัวจำนวนมาก และโปรโมชั่นที่ดุเดือด แบ่งเป็น
การเติบโตของ EV: คาดว่ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้าจะยังคงเติบโตอย่างก้าวกระโดด อาจคิดเป็นสัดส่วน 25% - 30% ของยอดจองรถยนต์ทั้งหมดในงาน เนื่องจากผู้บริโภคมีความมั่นใจในแบรนด์จีนมากขึ้น และมีตัวเลือกราคาที่เข้าถึงง่ายในกลุ่มล้านต้นๆ
ตลาดรถ ICE/HEV: ยังคงแข็งแกร่งในกลุ่มรถกระบะและ PPV ที่เน้นการใช้งานเชิงพาณิชย์และครอบครัว รวมถึงรถยนต์ไฮบริดที่ยังเป็นตัวเลือกหลักสำหรับผู้ที่กังวลเรื่องสถานีชาร์จ EV
ส่วนมูลค่าการจำหน่ายรถยนต์ใหม่ในงานจะอยู่ที่ประมาณ 40,000 - 45,000 ล้านบาท โดยมีปัจจัยหนุนจากราคารถยนต์ EV ที่มีรุ่นราคาเข้าถึงง่าย รวมถึงการนำเข้ารถยนต์พรีเมียม/ซูเปอร์คาร์ที่มีราคาสูงมาจัดแสดง และหากรวมม็ดเงินจากรถจักรยานยนต์ อุปกรณ์เกี่ยวเนื่อง และเงินสะพัดอื่นๆ คาดว่าจะสูงถึง 50,000 ล้านบาท
Motor Expo 2025 จึงเป็นมากกว่าแค่งานแสดงรถยนต์ แต่เป็นภาพสะท้อนของการเปลี่ยนผ่านยุคสมัยของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ที่กำลังก้าวเข้าสู่ยุคพลังงานไฟฟ้าอย่างเต็มตัว ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือดและเร้าใจ!








