เมื่อวันที่ 13 พ.ย.68 กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์เมื่อวันพุธ (12 พ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น ระบุว่า ได้ใช้มาตรการคว่ำบาตรบุคคล 5 ราย และนิติบุคคล 3 แห่ง ที่มีฐานปฏิบัติการในเมียนมาและไทย ซึ่งทั้งหมดถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการบังคับใช้แรงงานเพื่อหลอกลวงลงทุนออนไลน์
พร้อมกันนี้ รัฐบาลสหรัฐฯ ยังประกาศตั้งหน่วยเฉพาะกิจ “Scam Center Strike Force” มุ่งปราบปรามศูนย์หลอกลวงออนไลน์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมอบหมายเจ้าหน้าที่และอัยการจากหลายหน่วยงานทั่วประเทศร่วมกันสืบสวน ขัดขวาง และดำเนินคดีกับศูนย์หลอกลวง รวมถึงผู้นำของขบวนการเหล่านี้ โดยเมียนมา กัมพูชา และลาว ถูกระบุว่าเป็นพื้นที่เป้าหมายหลักของปฏิบัติการ
หน่วยเฉพาะกิจดังกล่าวจะใช้วิธีการทุกรูปแบบที่รัฐบาลมีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการคว่ำบาตร การยึดทรัพย์ และการดำเนินคดีอาญา เพื่อสกัดกั้นศูนย์หลอกลวงในระดับสูงสุด พร้อมย้ำว่า สหรัฐฯ จะให้ความสำคัญกับการป้องกันไม่ให้โครงสร้างพื้นฐานภายในประเทศถูกใช้เป็นเครื่องมือของมิจฉาชีพ และจะสนับสนุนเหยื่อชาวอเมริกันผ่านมาตรการชดเชยและการให้ความรู้ป้องกันภัยออนไลน์
สำหรับบุคคลและองค์กรในเมียนมาที่ถูกคว่ำบาตรครั้งนี้ ได้แก่ กองกำลังกะเหรี่ยงคุณธรรมเพื่อประชาธิปไตย (DKBA) กลุ่มติดอาวุธในเมียนมา รวมถึงผู้นำระดับสูงอีก 4 ราย ซึ่งถูกกล่าวหาว่าให้การสนับสนุนศูนย์หลอกลวงทางไซเบอร์ในเมียนมาที่มุ่งหลอกลงทุนฉ้อโกงชาวอเมริกัน ขณะที่บริษัทเมียนมาอีกแห่งคือ Troth Star Company Limited (Troth Star) ถูกระบุว่าพัวพันด้วยเช่นกัน
ด้านบุคคลและบริษัทในไทยที่ถูกคว่ำบาตร ได้แก่ บริษัท ทรานส์-เอเชีย อินเตอร์เนชั่นแนล โฮลดิ้ง กรุ๊ป (ไทยแลนด์) จำกัด ตั้งอยู่ในอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก พร้อมด้วยกรรมการบริษัท นาย Chamu Sawang (จะมู สว่าง) หรือที่รู้จักในชื่อ Yu Jianjun หรือ Moosawan Naija สัญชาติไทย โดยรัฐบาลสหรัฐฯ ระบุว่า นายจะมู สว่าง มีความเชื่อมโยงกับองค์กรอาชญากรรมจีน และทำงานร่วมกับ DKBA รวมถึงกลุ่มติดอาวุธอื่น ๆ ในการดำเนินงานศูนย์หลอกลวงเหล่านี้
#คว่ำบาตร #แก๊งคอลเซ็นเตอร์ #ข่าวต่างประเทศ #สหรัฐเมียนมาไทย #ScamCenter #DKBA #อาชญากรรมไซเบอร์ #แม่สอด #ข่าวด่วนโลก #ออนไลน์สแกม #สแกมเมอร์








