รองศาสตราจารย์ ดร.ณกมล ปุญชเขตต์ทิกุลในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สังคมไทยต้องเผชิญคำถามที่แหลมคมขึ้นทุกวัน เหตุใดประชาชนจำนวนมากจึงเริ่มไม่เชื่อในความดีของนักการเมือง ทั้งที่เรามีการเลือกตั้งตามครรลองประชาธิปไตย มีรัฐบาลที่เกิดจากเสียงข้างมากและมีระบบตรวจสอบตามรัฐธรรมนูญครบถ้วน แต่สิ่งหนึ่งที่กลับไม่เติบโตไปพร้อมกันคือ “ศรัทธา”
ความศรัทธาในผู้นำทางการเมืองไม่ใช่เรื่องของภาพลักษณ์หรือคำพูด แต่คือเรื่องของ “จิตสำนึก” เมื่อการแสวงหาอำนาจกลายเป็นศูนย์กลางของระบบการเมือง การรับใช้ประชาชนก็อาจเหลือเพียงถ้อยคำที่ถูกใช้ในช่วงหาเสียง เราจึงพบว่าความเบื่อหน่ายทางการเมืองในสังคมไทย ไม่ได้มาจากความเบื่อ “ตัวการเมือง” แต่จากความเหนื่อยล้าในการเห็น “การเมืองที่ขาดจริยธรรม” นี่คือวิกฤติทางศีลธรรมที่ลึกยิ่งกว่าวิกฤติทางอำนาจ เป็นการเมืองที่ขาดการพึ่งพิงร่มเงาของความดี
ในทางปรัชญา อิมมานูเอล คานท์ (Immanuel Kant) เคยกล่าวว่า“ความดีแท้ต้องเกิดจากเจตนาดี มิใช่เพียงผลลัพธ์ที่น่าพอใจ” เจตนาดีในที่นี้หมายถึงการกระทำสิ่งที่ถูกต้อง เพราะมันถูกต้องไม่ใช่เพราะมันให้ผลลัพธ์ที่เป็นประโยชน์ต่อฝ่ายตน เมื่อมองผ่านแว่นของคานท์ เราอาจเห็นชัดว่าการเมืองไทยยังคงติดอยู่ในกับดักของ “ผลลัพธ์นิยม” หลายครั้งเราพบการอ้าง “ผลประโยชน์ของประชาชน” เพื่อรองรับการตัดสินใจทางการเมือง แต่เมื่อมองลึกลงไป กลับเห็นแรงขับเคลื่อนของผลประโยชน์เฉพาะกลุ่ม ความดีจึงกลายเป็นเพียงฉากหน้า ขณะที่อำนาจกลายเป็นเป้าหมายสุดท้าย
เพลโต (Plato) กล่าวไว้ใน The Republic ว่า ผู้ปกครองที่แท้คือผู้เข้าใจ “ความดีสูงสุด” แต่ในสังคมสมัยใหม่ ผู้ครองอำนาจจำนวนไม่น้อยอาจเข้าใจเพียง “เทคนิคของอำนาจ” มากกว่าความหมายของ “ความดี”
เมื่ออำนาจขาดคุณธรรม อำนาจก็กลายเป็นเพียงเครื่องมือที่อาจถูกใช้ผิดจุดหมาย ตรงกันข้าม หากอำนาจตั้งอยู่บนความดี มันจะกลายเป็นพลังที่สร้างความไว้วางใจ และหล่อเลี้ยงความสงบในระบอบประชาธิปไตยได้อย่างแท้จริง
ในพุทธจริยธรรม “ธรรม” หมายถึงความถูกต้องอันเป็นสากล ผู้นำที่มีธรรม คือผู้ที่รู้จักยับยั้งตนเองในยามที่อำนาจอยู่ในมือ หลักทศพิธราชธรรม ได้กล่าวถึงคุณธรรมของผู้ปกครองไว้ชัดเจน ได้แก่ ทาน (การให้), ศีล (ความสุจริต), ปริจาคะ (การเสียสละ), อักโกธะ (ไม่โกรธ), และอวิหิงสา (ไม่เบียดเบียน) หลักธรรมเหล่านี้มิได้จำกัดอยู่เพียงในหมู่ผู้มีอำนาจ หากแต่เป็น “แบบจำลองของผู้นำในทุกระดับ” เมื่อผู้นำใช้ธรรมเป็นกรอบ อำนาจก็จะกลายเป็นเครื่องมือแห่งความสุขส่วนรวม แต่เมื่อธรรมถูกละเลย อำนาจก็กลายเป็นเพียงการบังคับโดยขาดความชอบธรรม พุทธจริยธรรมจึงมิใช่เพียงคำสอนทางศาสนา หากแต่เป็นแนวทางของการบริหารอำนาจอย่างมีสติ
ในสังคมไทยปัจจุบัน เรามักได้ยินคำพูดที่ว่า “การเมืองก็เป็นแบบนี้แหละ”
ประโยคสั้น ๆ ที่ฟังดูเหมือนการยอมจำนนนี้ แท้จริงแล้วสะท้อนสิ่งที่นักคิดหญิงชื่อดัง ฮันนาห์ อาเรนท์ (Hannah Arendt) เรียกว่า “the banality of evil” ความชั่วร้ายที่เกิดจากความเฉยชา ไม่ใช่จากความเกลียดชัง
เมื่อผู้คนในสังคมเริ่มยอมรับว่าความไม่โปร่งใส การซื้อเสียง หรือการเอื้อประโยชน์เป็นเรื่องธรรมดา เราก็กำลังทำให้ “ความผิดปกติ” กลายเป็น “บรรทัดฐานใหม่” นี่คือภาวะที่เรียกว่า “ความชินชาเชิงศีลธรรม” ซึ่งเป็นจุดเปราะบางที่สุดของประชาธิปไตย เพราะมันทำให้สังคมหยุดตั้งคำถามกับความถูกต้อง อย่างไรก็ตาม ความเสื่อมของจริยธรรมทางการเมืองไม่ใช่ความผิดของนักการเมืองฝ่ายเดียว ประชาชนเองก็มีส่วนในความเงียบและความยินยอม ในระบอบประชาธิปไตย อำนาจสูงสุดอยู่ที่ประชาชน หากเรายังเลือกผู้นำโดยไม่คำนึงถึงคุณธรรม หรือยอมรับการซื้อเสียงโดยไม่รู้สึกผิด เราก็เท่ากับมอบอำนาจโดยไม่รับผิดชอบต่อศีลธรรมของบ้านเมือง การฟื้นฟูจริยธรรมทางการเมืองจึงต้องเริ่มจากการฟื้นฟูจิตสำนึกของประชาชนด้วย ความรับผิดชอบร่วมระหว่างผู้นำกับประชาชนคือหัวใจของการเมืองที่ยั่งยืน
อริสโตเติล (Aristotle) เคยกล่าวไว้ว่า “ความดีคือความพอดีระหว่างสุดโต่งสองด้าน” การเมืองไทยจำเป็นต้องค้นหาความพอดีนั้นให้พบ ระหว่างความทะเยอทะยานกับความรับผิดชอบ ระหว่างผลประโยชน์ของพรรคกับผลประโยชน์ของชาติและระหว่างการใช้กฎหมายกับการรักษาคุณธรรม
อำนาจที่ยั่งยืน ไม่ใช่อำนาจที่แข็งแกร่งที่สุด แต่คืออำนาจที่ได้รับความไว้วางใจมากที่สุด และความไว้วางใจนั้นไม่ได้เกิดจากคำสัญญาในเวทีหาเสียง แต่เกิดจาก “ความดีที่สังคมมองเห็นได้โดยไม่ต้องประกาศ”
จริยธรรมไม่ใช่ของตกแต่งในทางการเมือง หากแต่เป็นหัวใจของความเป็นมนุษย์ในระบบการปกครอง เมื่ออำนาจเดินคู่กับความดี การเมืองย่อมมั่นคงโดยไม่ต้องพึ่งพากฎหมายที่ซับซ้อน ถึงเวลาแล้วที่เราจะเลิกตั้งคำถามว่า “ใครจะได้อำนาจ” แต่ควรถามว่า “ใครจะใช้อำนาจด้วยความรับผิดชอบ” หากศีลธรรมกลับมาเป็นแนวทางของการเมือง เราจะได้เห็นประชาธิปไตยที่ไม่เพียงแค่มีอยู่ในกระดาษ แต่หยั่งรากลึกอยู่ในหัวใจของคนทั้งชาติ ประชาธิปไตยที่มีจิตวิญญาณแห่งความดีเป็นรากฐาน
โดย รองศาสตราจารย์ ดร.ณกมล ปุญชเขตต์ทิกุล
#อำนาจกับความดี #การเมืองไทย #วิกฤตศีลธรรม #จริยธรรม #ImmanuelKant #Plato #ประชาธิปไตย








