ชายแดนไทย-กัมพูชาตึงเครียด ชาวบ้านเร่งเกี่ยวข้าว หวั่นสงครามลามพื้นที่ แต่อยากให้ยิงให้จบโดยเร็ว
วันที่ 13 พ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ทหารไทยเหยียบกับระเบิดขาขาดเป็นรายที่ 7 ในพื้นที่ห้วยตามาเรีย จ.ศรีสะเกษ จากนั้น นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีประธานการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ก่อนจะระบุว่า ได้ระงับปฏิญญาสันติภาพ และสั่งยุติส่งเชลยศึกแล้ว ทำให้สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา กลับมาตึงเครียดอีกครั้ง ก่อนที่ช่วงบ่ายวานนี้ (12 พ.ย.) เวลา 16.00 น.พบว่าเกิดเหตุทหารกัมพูชาใช้อาวุธปืนยิงเข้ามายังฝั่งไทยในพื้นที่ชายแดนบ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง จ.สระแก้ว หลังจากนั้น ฝ่ายไทยได้เข้าแนวกำบังและได้ยิงแจ้งเตือนไปยังจุดที่มีการยิงเข้ามา ตามกฎการใช้กำลัง เหตุการณ์ทั้งหมดกินเวลาประมาณ 10 นาทีจึงสงบลง โดยฝ่ายไทยไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ตามที่เป็นข่าวไปแล้วนั้น
สถานการณ์ความตึงเครียดในหลายพื้นที่ชายแดนดังกล่าว ส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่ชายแดน เริ่มหวาดระแวงมากขึ้น หวั่นว่าสถานการณ์จะบายปลายเกิดสงครามในเร็วๆนี้ แต่ยังคงดำเนินชีวิตออกไปไร่นาปกติอยู่ โดยเฉพาะการเก็บเกี่ยวข้าวที่กำลังมีการเก็บเกี่ยวกันในหลายพื้นที่ รวมทั้งการตากข้าวของชาวบ้านที่กำลังเร่งทำให้เสร็จโดยเร็ว ท่ามกลางสถานการณ์ที่ตึงเครียด แต่ยังไม่พบว่ามีคำสั่งให้มีการอพยพแต่อย่างใด มีเพียงผู้นำชุมชนที่คอยประกาศเตือนให้ชาวบ้านอย่าตื่นตระหนกและให้เตรียมพร้อมตลอดเวลาเท่านั้น
นายสมพาน แหล่งเจริญ อายุ 64 ปีชาวบ้านใหม่พัฒนา ตำบลโคกกลาง อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า ตน ก็อยากให้ลามมายิงกันถึงบ้านเรา จะได้จบๆ มันคาราคาซังหลายเดือนแล้ว เขมรเชื่อใจไม่ได้ เจรจายังไงก็ไม่ได้เรื่องได้ผล อยากให้จบๆเร็วๆปะทะไปเลย ใหญ่ยังไงก้เอาไปเลย ข้าวก็เกี่ยวมาตากแล้ว ยังมีนาอีกแห่งที่ยังไม่เกี่ยว แต่ก็อยากให้จัดการให้จบไปเลย ตนก็เตรียมพร้อมอพยพตลอดเวลา ส่วนโดยเฉพาะคนเฒ่าคนแก่ ส่วนพวกเราผู้ชายก็อยู่ ไปช่วยแนวหน้าก็ยังได้ มันเหลืออดแล้ว ส่วนการเก็บเกี่ยวข้าวก็กังวลนิดหน่อย บางรายก็ยังไม่ได้เกี่ยว ใจจริงก็อยากทำให้จบๆไปจะได้ทำมาหากินสะดวกสบายขึ้น กังวลและลำบากหลายอย่าง
#ภูมิภาค-62








