“โจ๊ก หมาล่า” ร้อง ตร.บุกบ้านไร้หมายค้น ด้านตำรวจแจงมีหมายจับคดียา แถมหนีศาล 2 ปี “ทนายเจมส์” ชี้ทำได้แม้จะเป็นเวลากลางคืน หากหมายจับตรงตัวเจ้าของบ้าน
จากกรณีโลกออนไลน์มีการนำเสนอข่าวกรณี “โจ๊ก หมาล่า” หรือ นายชนพร (ขอสงวนนามสกุล) เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.บางสะพาน เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติดจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (ปส.) ในข้อหาบุกรุกบ้านพักในยามวิกาล หลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจนำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านพัก เมื่อคืนวันที่ 7 พ.ย.68 โดยอ้างว่าไม่มีการแสดงหมายค้น จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์อย่างกว้างขวางนั้น
ต่อมาเมื่อวันที่ 12 พ.ย.68 ที่ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ “โจ๊ก หมาล่า” หรือ นายชนพร (ขอสงวนนามสกุล) เล่าถึงเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ตำรวจบุกเข้าตรวจค้นบ้านพักว่า วันเกิดเหตุตนกำลังขายของอยู่หน้าบ้าน จู่ ๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนายกรูกันเข้าไปในบ้าน พร้อมถามหาแม่ของตน ขณะนั้นในบ้านมีแม่ พี่ชาย และหลานสาวอยู่ ส่วน “นายจรัญ” น้าชาย อยู่บริเวณกองมะพร้าวข้างบ้าน
นายชนพร กล่าวว่า ด้วยความตกใจจึงรีบวิ่งเข้าไปในบ้านและถามเจ้าหน้าที่ว่ามาทำอะไร พร้อมขอถ่ายคลิปเหตุการณ์ไว้ด้วยโทรศัพท์มือถือ ซึ่งในขณะนั้นเจ้าหน้าที่ไม่ได้แสดงหมายค้นแต่อย่างใด โดยตำรวจได้ตรวจค้นร่างกายแม่ และสิ่งของภายในบ้าน ใช้เวลาประมาณ 40 นาที ก่อนจะตรวจปัสสาวะของพี่ชายและน้าชาย พบว่าน้าชายมีผล “ฉี่สีม่วง” จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงคุมตัวไป
“ผมสังเกตว่า ตอนเข้ามา ตำรวจเรียกแต่ชื่อแม่ ไม่ได้ถามหาน้าชายเลย ถ้ามีหมายจับจริงก็ควรต้องแสดงให้ดูชัดเจน เพราะเท่าที่เห็นไม่มีการแสดงหมายจับแต่อย่างใด” นายชนพร กล่าว พร้อมเผยว่า เพิ่งทราบภายหลังว่าน้าชายมีหมายจับ และยอมรับว่าบ้านหลังดังกล่าวมีชื่อน้าชายเป็นเจ้าของบ้านจริง แต่เจ้าตัวไม่ได้พักอยู่หลังนี้ โดยไปอยู่อีกหลังถัดไปแทน
ขณะเดียวกันที่ สภ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พ.ต.ท.ธนศักดิ์ ลีลานุช รอง ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ และหัวหน้าชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดและชุดปฏิบัติการสืบสวนสอบสวนขยายผลและยึดทรัพย์ยาเสพติด ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อให้ข้อมูลและหลักฐาน หลังทราบว่า เจ้าหน้าชุดจับกุมฯ ที่บุกค้นบ้านเพื่อจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับของศาล ถูก “โจ๊ก หมาล่า” แจ้งความดำเนินคดี และได้เข้าพบ พ.ต.อ.พศิษฐ์ ก้อนสิน รรท.ผกก.สภ.บางสะพาน เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง ก่อนเดินทางกลับ
พ.ต.อ.พศิษฐ์ ก้อนสิน เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเวลาประมาณ 21.00 น. ของคืนวันที่ 7 พ.ย.68 โดยชุดตำรวจ ปส. จาก ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ ได้เข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่งริมถนนเพชรเกษม–ชายทะเล พื้นที่ ต.กำเนิดนพคุณ อ.บางสะพาน ซึ่งต่อมาได้มีการเผยแพร่คลิปเหตุการณ์ในสื่อออนไลน์ พร้อมข้อความว่าเจ้าหน้าที่กระทำเกินกว่าเหตุ บุกบ้านในยามวิกาลโดยไม่มีหมายค้น
“ข้อเท็จจริงคือ การปฏิบัติของเจ้าหน้าที่เป็นไปตามหมายจับของศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ไม่ใช่การค้นโดยพลการอย่างที่มีการนำเสนอ ซึ่งข่าวที่ออกไปมีความคลาดเคลื่อนและส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์องค์กรอย่างมาก”พ.ต.อ.พศิษฐ์ ก้อนสิน รรท.ผกก.สภ.บางสะพาน กล่าว
เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ ระบุว่า การเข้าตรวจค้นในวันเกิดเหตุมีเป้าหมายเพื่อจับกุม นายจรัญ (ขอสงวนนามสกุล) เจ้าของบ้าน ซึ่งมีหมายจับศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ที่ 136/2566 ในข้อหาคดียาเสพติด และหลบหนีการจับกุมมานานกว่า 2 ปี โดยได้รับรายงานว่านายจรัญมักมาพักอาศัยในบ้านหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงส่งสายลับเข้าตรวจสอบก่อนยืนยันว่าผู้ต้องหาอยู่ในบ้าน จึงนำกำลังเข้าจับกุมโดยอาศัยอำนาจของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. และอำนาจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 92 (4) และ (5) เข้าทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบผู้ต้องหา ซึ่งเป็นบุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ อยู่ในบ้านหลังดังกล่าว พร้อมทั้งตรวจสอบพบว่า ผู้ต้องหามีสารเสพติดในร่างกาย พ.ต.ท.ธนศักดิ์ และชุดจับกุมฯ จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหานำส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางสะพาน ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้สอบถามความเห็นทางกฎหมายจาก นายนิติธร แก้วโต หรือ “ทนายเจมส์” ทนายชื่อดัง ซึ่งอธิบายว่า การเข้าจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับศาล สามารถกระทำได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่จำกัดเวลา แม้จะเป็นเวลากลางคืนก็ตาม
“แต่มีเงื่อนไขสำคัญคือ ผู้ต้องหาต้องเป็นเจ้าของบ้านหรือผู้อยู่อาศัยในบ้านตามหมายจับเท่านั้น หากเป็นบ้านของผู้อื่น เจ้าหน้าที่ไม่สามารถบุกเข้าไปโดยพลการได้ เว้นแต่เจ้าของบ้านยินยอม” ทนายเจมส์ กล่าว
เหตุการณ์นี้จากที่หลายคนเข้าใจว่าเป็นการบุกค้นบ้านโดยไม่มีการแสดงหมายค้นธรรมดา กลับกลายเป็นปฏิบัติการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับศาลฯ คดียาเสพติด ที่หลบหนีคดีมานานกว่า 2 ปี และเพิ่มคดีเสพยาเสพติดอีก 1 คดี ที่ซ่อนตัวอยู่ในบ้านนั่นเอง
#ภูมิภาค-








