สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวกรณีกลุ่มบริษัทปรินซ์กรุ๊ปออกมาปฏิเสธ ยืนยันว่าบริษัทไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับสแกมเมอร์ โดยอ้างอิงข่าวจากสำนักข่าว The Edge ของมาเลเซีย เนื้อหาว่า
กลุ่มบริษัทปรินซ์กรุ๊ป ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทที่มีฐานอยู่ในกัมพูชา ปฏิเสธข้อกล่าวหาในแง่ลบที่เชื่อมโยงกลุ่มบริษัท รวมถึงเชื่อมโยงกับนายเฉิน จื้อ (Chen Zhi) ผู้ก่อตั้งและประธานบริษัท กับเครือข่ายหลอกลวงด้านการลงทุนสกุลเงินดิจิทัลระดับโลก
เมื่อเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ) ได้ตั้งข้อหานายเฉินในข้อหาฉ้อโกงทางและสมคบคิดฟอกเงิน โดยถูกกล่าวหาว่าควบคุมการหลอกลวงแรงงานบังคับทั่วกัมพูชา ซึ่งหลอกลวงเหยื่อทั่วโลก รวมถึงในสหรัฐอเมริกา ทางการสหรัฐฯ ยังได้ยึดบิตคอยน์มูลค่าประมาณ 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (486,735,000,000 บาท) ซึ่งเชื่อว่าเป็นรายได้จากการหลอกลวงดังกล่าว
ในการตอบสนองต่อข้อกล่าวหา บริษัทปรินซ์กรุ๊ปกล่าวในแถลงการณ์ที่โพสต์บนเว็บไซต์เมื่อวันอังคาร (11 พ.ย.) ว่า บริษัท "ปฏิเสธอย่างสิ้นเชิงต่อแนวคิดที่ว่าบริษัทหรือประธานเฉินมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย" และอธิบายว่าข้อกล่าวหาดังกล่าว "ไม่มีมูลความจริงและมุ่งเป้าอย่างผิดกฎหมายเพื่อยึดทรัพย์สินมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์" แถลงการณ์บริษัทระบุ
บริษัทระบุต่อไปว่า อย่างไรก็ตาม ข้อกล่าวหาที่ไม่มีมูลความจริงเหล่านี้ ซึ่งถูกขยายความโดยรายงานข่าวที่กล่าวซ้ำๆและข้อกล่าวหาอื่นๆ ที่ไม่ได้รับการยืนยัน ได้ก่อให้เกิดอันตรายที่ไม่เหมาะสมแก่พนักงานผู้บริสุทธิ์ พันธมิตร และชุมชนที่กลุ่มนี้ให้บริการจำนวนหลายพันคน
กลุ่มบริษัทยังกล่าวเสริมอีกว่า ยังคงมุ่งมั่นที่จะ "มีความซื่อสัตย์ การลงทุนอย่างรับผิดชอบ และการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนทั่วทั้งภูมิภาค"
“เป็นเวลากว่าทศวรรษที่กลุ่มบริษัทดำเนินงานอย่างโปร่งใสและปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ซึ่งจะชัดเจนเมื่อมีการนำเสนอหลักฐานทั้งหมด”
“เราได้ว่าจ้างทีมงานชั้นนำ นำโดยทนายความจาก Boies Schiller Flexner LLP และเรามั่นใจว่าเมื่อข้อเท็จจริงถูกเปิดเผยปรินซ์กรุ๊ปและประธานบริษัทจะพ้นผิดอย่างสมบูรณ์
กลุ่มบริษัทปรินซ๊กรุ๊ปมีธุรกิจครอบคลุมถึงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ บริการทางการเงิน และบริการผู้บริโภค มี Prince Real Estate Group, Prince Huan Yu Real Estate Group และ Prince Bank เป็นธุรกิจหลักในกัมพูชา
ย้อนไปในช่วงสัปดาห์ระหว่างวันที่ 27 ต.ค.–2 พ.ย. The Edge Weekly รายงานว่าชาวมาเลเซียหลายคนเคยดำรงตำแหน่งกรรมการของธนาคาร Prince Bank รวมถึงอดีตผู้ว่าการธนาคารกลางมาเลเซียได้แก่นายตันศรี มูฮัมหมัด อิบราฮิม และนายเลียง ไค ซิม ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งอาวุโสด้านการเงินที่ Maybank Group มาก่อน
ทั้งตัวบุคคลและธนาคารไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับอาชญากรรมใดๆ อย่างไรก็ตาม กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ระบุเมื่อวันที่ 14 ตุลาคมว่า รายได้จากการก่ออาชญากรรมของ ปรินซ์กรุ๊ปได้ช่วยสนับสนุนธุรกิจที่ดูเหมือนถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งรวมถึง Prince Bank ด้วย Chen เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของธนาคาร








