รัฐบาลภายใต้การนำของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล กำลังเดินเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของวาระ 4 เดือน ตามข้อตกลง (MOA) อย่างระทึกใจ แม้จะอยู่ภายใต้ข้อจำกัดของเวลาและแรงเสียดทานทางการเมืองจากหลายด้าน แต่รัฐบาลชุดนี้มี “ตัวช่วย” ในระบบการเมืองไทย ทั้งจากสมาชิกวุฒิสภาและองค์กรอิสระ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้หลายฝ่ายเชื่อว่า อนุทินจะไม่ยอม “จบเกมอำนาจ” ไปอย่างเงียบ ๆ
ตรงกันข้าม เขาต้องการเป็น “ผู้กำหนดเกมเลือกตั้งครั้งใหม่” และเดินหมากอำนาจด้วยยุทธศาสตร์ที่วางไว้อย่างแยบยลในชื่อว่า “Quick Win” หรือ “ควิกวิน” กลยุทธ์การเร่งสร้างผลงานเชิงรูปธรรมในระยะเวลาอันสั้น เพื่อเปลี่ยนผลลัพธ์ทางเศรษฐกิจเป็นแรงส่งทางการเมืองในระยะยาว
หัวใจของเกมนี้คือการ “เร่งฉีดเงิน” เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจผ่านสองนโยบายสำคัญ ได้แก่
บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ – การเพิ่มวงเงินช่วยเหลือในช่วงปลายปี ไม่เพียงพยุงค่าครองชีพ แต่ยังสร้าง “ความรู้สึกได้รับจริง” ในกลุ่มฐานเสียงระดับรากหญ้า โดยเฉพาะหากมีการเปิดลงทะเบียนรอบใหม่ภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ จะยิ่งตอกย้ำความพยายามที่จะขยับไทม์ไลน์ยุบสภาหรือไม่
คนละครึ่งพลัส เฟส 2 – การขยับเวลาประกาศให้เร็วขึ้นในเดือนธันวาคม เป็นจังหวะทางการเมืองที่มีนัยชัดเจน เพราะแม้ผลลัพธ์ทางเศรษฐกิจจะยังไม่สะท้อนในตัวเลขทันที แต่จะส่งผลต่อ “อารมณ์ความรู้สึก” ของประชาชน ซึ่งสำคัญต่อการตัดสินใจในวันลงคะแนน
การเดินเกมอัดเม็ดเงินแบบรวดเร็วเช่นนี้ ทำให้เกิดการจับตาว่า รัฐบาลอาจไม่รอครบ 4 เดือนตามข้อตกลง MOA แต่จะ “ชิงยุบสภา” ก่อนสิ้นเดือนมกราคม เพื่อหวังขี่กระแสความนิยมจากสองนโยบายดังกล่าวเข้าสู่สนามเลือกตั้ง
เพราะในอีกด้านหนึ่ง ฝ่ายค้านก็เริ่ม “วางหมากซักฟอก” เตรียมเปิดศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจในช่วงสมัยประชุม 12 ธันวาคมนี้ เพื่อพยายามตัดแต้มรัฐบาลก่อนถึงวันยุบสภา
พรรคเพื่อไทย ภายใต้การนำของ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ได้เปิดเจรจากับ พรรคประชาชน ของ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ เพื่อร่วมกันตรวจสอบรัฐบาล โดยพรรคประชาชนได้วาง 3 เงื่อนไขสำคัญในการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ได้แก่
หากรัฐบาลไม่ยุบสภาหลังครบ 4 เดือน (สิ้น ม.ค. 2569) ตามข้อตกลง
ความล้มเหลวในการผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เสร็จสิ้นภายในสิ้นปี
ความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อประชาชน หรือกรณีแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม
ฝ่ายค้านเตรียมใช้ข้อมูลเหล่านี้ประกอบการตรวจสอบอย่างเข้มข้น ซึ่งหมายความว่า หากรัฐบาลยังอยู่ครบวาระโดยไม่ชิงยุบสภา อาจต้องเผชิญแรงเสียดทานทางการเมืองรอบใหม่
ท่ามกลางแรงกดดันจากทั้งในและนอกสภา การ “ชิงยุบสภาก่อนวันอภิปราย” จึงอาจกลายเป็นทางเลือกเชิงยุทธศาสตร์ของ “อนุทิน” เพื่อปิดเกมซักฟอก ตัดไฟแต่ต้นลม และหันไปควบคุมจังหวะการเมืองด้วยตนเอง
เพราะสำหรับรัฐบาลนี้ “ควิกวิน” ไม่ได้หมายถึงแค่การเร่งสร้างผลงานเท่านั้น
แต่ยังหมายถึง “ควิกยุบสภา” เพื่อเร่งรีเซ็ตสนามการเมืองใหม่
ในแบบที่ “อนุทิน” จะเป็นผู้กำหนดกติกา และพร้อมกลับมาในฐานะผู้นำอีกครั้งในศึกเลือกตั้งปี 2569
#ควิกวินควิกยุบสภา #อนุทินชาญวีรกูล #QuickWin #ยุบสภา #เลือกตั้ง2569 #การเมืองไทย #บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ #คนละครึ่ง #อภิปรายไม่ไว้วางใจ #รัฐบาลอนุทิน







