เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 11 พ.ย. 68 ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว. เกษตรและสหกรณ์กล่าวถึงสถานการณ์น้ำในขณะนี้ว่า ช่วงเช้าตนได้ประชุมที่กรมชลประทาน โดยมีผู้อำนวยการกรมชลประทานทุกจังหวัด ผู้อำนวยการสำนักทั้ง 17 สำนักภาพโดยรวมสถานการณ์ขณะนี้ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์ ร่องมรสุม ปริมาณฝนทางภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือลดน้อยลงเข้าสู่ฤดูหนาว ซึ่งฤดูฝนก็จะเริ่มที่ภาคใต้ตั้งแต่จังหวัดชุมพรจนถึงจังหวัดนราธิวาส โดยตนได้สั่งการเตรียมพร้อมไว้แล้ว
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า สำหรับปริมาณน้ำในเขื่อนภูมิพลปริ่ม แต่มีการควบคุมการระบายน้ำให้เหลือเพียง 45-48 ล้านลูกบาศก์คิวต่อวัน ปริมาณน้ำเขื่อนกิ่วลม 6 ล้านลูกบาศก์คิว สรุปแล้วน้ำจากเขื่อนทั้งสองที่จะไหลลงเขื่อนเจ้าพระยา 54 ล้านลูกบาศก์คิวต่อวัน ดังนั้นหน้าเขื่อนทั้งฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตกมีการระบายน้ำสู่ลำน้ำสาขาทั้งซ้ายและขวาทำให้ปริมาณน้ำหน้าเขื่อนเวลานี้ เรามีความจำเป็นต้องระบายน้ำออกอัตราไหล 2,900 ลูกบาศก์คิวต่อวินาทีและจะคงสภาพนี้ประมาณนี้ 1 สัปดาห์ โดยเมื่อเข้าสู่สัปดาห์ที่ 2-3 ของเดือน ธ.ค.จะเข้าสู่ภาวะใกล้ปกติ และจะระบายน้ำประมาณ 1,000 ลูกบาศก์คิวต่อวินาที และจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติต้นเดือน ม.ค. คือ 700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งเป็นแผนที่เราทำกัน
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เวลานี้ประชาชนที่รับผลกระทบหน้าเขื่อน ท้ายเขื่อน โดยเฉพาะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดอ่างทองจังหวัดใกล้เคียงก็ได้รับผลกระทบ แต่จะเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 1 สัปดาห์ ซึ่งเราจะลดปริมาณการระบายน้ำ ทั้งนี้ปริมาณน้ำหนุนจากทะเลตั้งแต่เมื่อวันที่ 10 พ.ย. เวลา 18.00 น. น้ำก็จะลดลงจนถึงวันที่ 20 พ.ย. โดยฝั่งตะวันออกจะระบายน้ำลงสู่ลำน้ำสาขาและระบายออกอ่าวไทย ซึ่งได้เตรียมเครื่องสูบน้ำ เครื่องดันน้ำแล้ว ดังนั้นทั้งฝั่งตะวันออก และตะวันตก หน้าเขื่อน ท้ายเขื่อนมีการระบายน้ำตามระบบและระเบียบ
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า สำหรับประชาชนในพื้นที่ จ.นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ และกรุงเทพมหานคร ตนขอยืนยันว่าสามารถควบคุมน้ำได้และไม่กระทบประชาชน อาจจะกระทบบ้างแต่ไม่ร้ายแรงเหมือนปี 54 แน่นอน
เมื่อถามว่า หากมีพายุเข้ามาในประเทศไทยจะมีการบริหารจัดการน้ำอย่างไร ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เราเตรียมพร้อมแผนไม่ใช่รายวัน แต่เราเตรียมพร้อมมานานแล้ว ซึ่งความแปรปรวนของสภาพพูมิอากาศบางครั้ง การพยากรณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยาหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่สามารถพยากรณ์ได้แม่นยำ เพราะเกิดพายุโดยกระทันหันประเทศต่างๆ ทั้งประเทศฟิลิปปินส์ อินโดนีเซียและเวียดนามได้รับผลกระทบ ซึ่งเราก็ต้องเตรียมพร้อม
เมื่อถามว่า สามารถให้ความมั่นใจกับประชาชนได้ใช่หรือไม่ว่า สถานการณ์น้ำจะไม่เป็นแบบปี 54 แน่นอน ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า หมายถึงจ.ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ และกรุงเทพฯ
เมื่อถามว่า การระบายน้ำออก 2,900 ลูกบาศก์คิวต่อวินาทีค่อยข้างที่จะปริมาณจำนวนมาก ซึ่งจะส่งผลกระทบกับประชาชนที่อยู่บริเวณนั้น ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ประชาชนที่อยู่บริเวณหน้าเขื่อน ทั้งจ. พระนครศรีอยุธยา สิงห์บุรี และอ่างทองที่ได้รับผลกระทบทางภาครัฐจะมีมาตรการเยียวยาต่อไป โดยบ้านเรือนประชาชนที่จมน้ำเป็นเวลาหลายเดือน ภาครัฐจะมีมาตรการเยียวยาฟื้นฟูเป็นกรณีพิเศษ
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงประเด็นทางการเมือง โดยร.อ.ธรรมนัส กล่าวเพียงสั้น ๆ ว่า “ไม่ตอบเรื่องการเมือง เอาเรื่องการบ้านก่อน” จากนั้นได้เดินออกจากวงสัมภาษณ์ทันที








