เมื่อวันที่ 10 พ.ย.68 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานสถานการณ์สาธารณภัยประจำวัน ล่าสุดยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยอันเนื่องมาจากฝนตกหนักและน้ำล้นตลิ่งในพื้นที่ 15 จังหวัด ครอบคลุม 65 อำเภอ 478 ตำบล 3,106 หมู่บ้าน โดยมีบ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบรวมทั้งสิ้น 140,082 ครัวเรือน หรือคิดเป็น 497,419 คน และมีรายงานผู้เสียชีวิตสะสมรวม 13 ราย ซึ่งแบ่งเป็น จังหวัดพิษณุโลก 1 ราย, จังหวัดพิจิตร 1 ราย และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา 11 ราย รายละเอียดสถานการณ์ในแต่ละจังหวัดมีดังนี้
1.จังหวัดพิษณุโลก: เกิดฝนตกหนักทำให้น้ำไหลหลากในพื้นที่ 1 อำเภอ 9 ตำบล 76 หมู่บ้าน ปัจจุบันปริมาณน้ำท่าแม่น้ำยม ณ สถานีวัด Y.16 ตำบลบางระกำ อำเภอบางระกำ มีระดับน้ำ 8.59 เมตร ซึ่งสูงกว่าระดับตลิ่งที่ 7.30 เมตร อยู่ 1.29 เมตร แนวโน้มระดับน้ำทรงตัว โดยมีปริมาณฝนสะสม 24 ชั่วโมงในอำเภอนครไทยวัดได้ 22.5 มิลลิเมตร
2.จังหวัดพิจิตร: แม่น้ำยมและแม่น้ำน่านล้นตลิ่งเข้าท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ 26 ตำบล 218 หมู่บ้าน ปริมาณน้ำท่าแม่น้ำยม ณ สถานีวัด Y.52 อำเภอโพธิ์ประทับช้าง มีระดับน้ำ 6.89 เมตร ต่ำกว่าระดับตลิ่งที่ 6.91 เมตร อยู่ 0.02 เมตร แนวโน้มระดับน้ำทรงตัว ปริมาณฝนสะสม 24 ชั่วโมงในอำเภอโพทะเลวัดได้ 4.8 มิลลิเมตร
3.จังหวัดนครสวรรค์: แม่น้ำยมและแม่น้ำน่านเอ่อล้นเข้าท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ 20 ตำบล 268 หมู่บ้าน 8 ชุมชน ปริมาณน้ำท่าแม่น้ำน่าน ณ สถานีวัด N.67 วัดเกยไชยเหนือ อำเภอชุมแสง มีระดับน้ำ 27.31 เมตร ต่ำกว่าระดับตลิ่งที่ 28.30 เมตร อยู่ 0.99 เมตร แนวโน้มระดับน้ำทรงตัว ปริมาณฝนสะสม 24 ชั่วโมงในอำเภอแม่วงก์วัดได้ 57.8 มิลลิเมตร
4.จังหวัดสุโขทัย: เกิดฝนตกหนักทำให้น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมในพื้นที่ 7 อำเภอ 40 ตำบล 247 หมู่บ้าน 10 ชุมชน ปริมาณน้ำท่าลุ่มน้ำยม ณ สถานีวัด Y.14B บ้านป่างิ้ว อำเภอศรีสัชนาลัย มีระดับน้ำ 3.80 เมตร ต่ำกว่าระดับตลิ่งที่ 11.30 เมตร อยู่ 8.00 เมตร แนวโน้มระดับน้ำทรงตัว ปริมาณฝนสะสม 24 ชั่วโมงในอำเภอศรีสัชนาลัยวัดได้ 25.8 มิลลิเมตร
5.จังหวัดกำแพงเพชร: เกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องทำให้น้ำไหลหลากเข้าท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ 12 ตำบล 90 หมู่บ้าน ปริมาณน้ำท่าแม่น้ำปิง ณ สถานีวัด P.16 อำเภอขาณุวรลักษบุรี มีระดับน้ำ 4.66 เมตร ต่ำกว่าระดับตลิ่งที่ 6.67 เมตร อยู่ 2.01 เมตร แนวโน้มระดับน้ำ เพิ่มขึ้น ปริมาณฝนสะสม 24 ชั่วโมงในอำเภอคลองลานวัดได้ 30.4 มิลลิเมตร
6.จังหวัดอุทัยธานี: เกิดฝนตกหนักทำให้น้ำเอ่อล้นตลิ่งและน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ 7 อำเภอ 39 ตำบล 209 หมู่บ้าน 1 ชุมชน ปริมาณน้ำท่าลุ่มแม่น้ำสะแกกรัง ณ สถานีวัด Ct.25 ท้ายเขื่อนวังร่มเกล้า อำเภอเมืองฯ มีระดับน้ำ 26.52 เมตร ต่ำกว่าระดับตลิ่งที่ 30.20 เมตร อยู่ 3.68 เมตร แนวโน้มระดับน้ำ เพิ่มขึ้น ปริมาณฝนสะสม 24 ชั่วโมงในอำเภอลานสักวัดได้ 128.5 มิลลิเมตร
7.จังหวัดสิงห์บุรี: ได้รับผลกระทบจากการระบายน้ำของเขื่อนเจ้าพระยา ทำให้น้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ 12 ตำบล 60 หมู่บ้าน ปริมาณน้ำท่าแม่น้ำเจ้าพระยา ณ สถานีวัด C.3 บ้านบางพุทรา อำเภอเมืองฯ มีระดับน้ำ 13.05 เมตร ต่ำกว่าระดับตลิ่งที่ 13.40 เมตร อยู่ 0.35 เมตร แนวโน้มระดับน้ำ เพิ่มขึ้น ปริมาณฝนสะสม 24 ชั่วโมงในอำเภอบางระจันวัดได้ 0.4 มิลลิเมตร
8.จังหวัดชัยนาท: เกิดฝนตกหนักทำให้น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาและคลองมะขามสูงขึ้นจนเอ่อล้นเข้าท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ 17 ตำบล 62 หมู่บ้าน ปริมาณน้ำท่าแม่น้ำเจ้าพระยา ณ สถานีวัด C.13 ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา อำเภอสรรพยา มีระดับน้ำ 16.49 เมตร ซึ่งสูงกว่าระดับตลิ่งที่ 16.34 เมตร อยู่ 0.15 เมตร แนวโน้มระดับน้ำทรงตัว ปริมาณฝนสะสม 24 ชั่วโมงในอำเภอเนินขามวัดได้ 0.1 มิลลิเมตร
9.จังหวัดอ่างทอง: ได้รับผลกระทบจากการระบายน้ำของเขื่อนเจ้าพระยา ทำให้น้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ 31 ตำบล 147 หมู่บ้าน 11 ชุมชน ปริมาณน้ำท่าแม่น้ำเจ้าพระยา ณ สถานีวัด C.7A บ้านบางแก้ว อำเภอเมืองฯ มีระดับน้ำ 9.50 เมตร ต่ำกว่าระดับตลิ่งที่ 10.00 เมตร อยู่ 0.50 เมตร แนวโน้มระดับน้ำทรงตัว ปริมาณฝนสะสม 24 ชั่วโมงในอำเภอวิเศษชัยชาญวัดได้ 0.2 มิลลิเมตร
10.จังหวัดสุพรรณบุรี: น้ำจากแม่น้ำท่าจีนเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ 47 ตำบล 343 หมู่บ้าน 38 ชุมชน ปริมาณน้ำท่าแม่น้ำท่าจีน ณ สถานีวัด T.10 บ้านวัดพระรูป อำเภอเมืองฯ มีระดับน้ำ 7.51 เมตร ซึ่งสูงกว่าระดับตลิ่งที่ 6.00 เมตร อยู่ 1.51 เมตร แนวโน้มระดับน้ำทรงตัว ปริมาณฝนสะสม 24 ชั่วโมงในอำเภอด่านช้างวัดได้ 3.0 มิลลิเมตร
11.จังหวัดพระนครศรีอยุธยา: ได้รับผลกระทบจากการระบายน้ำของเขื่อนเจ้าพระยา ทำให้น้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมในพื้นที่ 8 อำเภอ 124 ตำบล 848 หมู่บ้าน 39 ชุมชน ปริมาณน้ำท่าแม่น้ำเจ้าพระยา ณ สถานีวัด C.35 บ้านป้อม อำเภอพระนครศรีอยุธยา มีระดับน้ำ 5.56 เมตร ซึ่งสูงกว่าระดับตลิ่งที่ 4.35 เมตร อยู่ 1.21 เมตร แนวโน้มระดับน้ำทรงตัว ปริมาณฝนสะสม 24 ชั่วโมงในอำเภอเสนาวัดได้ 0.8 มิลลิเมตร
12.จังหวัดปทุมธานี: ได้รับผลกระทบจากการระบายน้ำของเขื่อนเจ้าพระยา ทำให้น้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ 22 ตำบล 65 หมู่บ้าน 10 ชุมชน ปริมาณน้ำท่าแม่น้ำเจ้าพระยา ณ สถานีวัด C.29B วัดกร่าง อำเภอสามโคก มีระดับน้ำ 2.79 เมตร ต่ำกว่าระดับตลิ่งที่ 3.00 เมตร อยู่ 0.21 เมตร แนวโน้มระดับน้ำ ลดลง ปริมาณฝนสะสม 24 ชั่วโมงในอำเภอเมืองฯ วัดได้ 0.6 มิลลิเมตร
13.จังหวัดนนทบุรี: ได้รับผลกระทบจากการระบายน้ำของเขื่อนเจ้าพระยา ทำให้น้ำเอ่อล้นตลิ่งและเกิดฝนตกหนักจนมีน้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ 21 ตำบล 101 หมู่บ้าน 28 ชุมชน ปริมาณน้ำท่าแม่น้ำเจ้าพระยา ณ สถานีวัด C.22A กรมชลประทานปากเกร็ด อำเภอปากเกร็ด มีระดับน้ำ 1.68 เมตร ต่ำกว่าระดับตลิ่งที่ 2.90 เมตร อยู่ 1.22 เมตร แนวโน้มระดับน้ำ ลดลง ไม่พบปริมาณฝนสะสม 24 ชั่วโมง
14.จังหวัดนครปฐม: แม่น้ำท่าจีนเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ 40 ตำบล 298 หมู่บ้าน ปริมาณน้ำท่าแม่น้ำท่าจีน ณ สถานีวัด T.15 วัดบางไผ่นารถ อำเภอบางเลน มีระดับน้ำ 8.97 เมตร ซึ่งสูงกว่าระดับตลิ่งที่ 7.80 เมตร อยู่ 1.17 เมตร แนวโน้มระดับน้ำทรงตัว ปริมาณฝนสะสม 24 ชั่วโมงในอำเภอพุทธมณฑลวัดได้ 2.5 มิลลิเมตร
15.จังหวัดอุบลราชธานี: เกิดฝนตกหนักทำให้น้ำเอ่อล้นเข้าท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ 18 ตำบล 74 หมู่บ้าน ปริมาณน้ำท่าลุ่มน้ำมูล ณ สถานีวัด M.7 สะพานเสรีประชาธิปไตย อำเภอวารินชำราบ มีระดับน้ำ 6.43 เมตร ต่ำกว่าระดับตลิ่งที่ 7.00 เมตร อยู่ 0.57 เมตร แนวโน้มระดับน้ำทรงตัว ปริมาณฝนสะสม 24 ชั่วโมงในอำเภอโขงเจียมวัดได้ 3.6 มิลลิเมตร
#น้ำท่วมล่าสุด #สถานการณ์น้ำท่วม #ปภ #กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย #น้ำล้นตลิ่ง #ภัยพิบัติ #ระดับน้ำเจ้าพระยา








