"ห้วยตามาเรีย" ชื่อของลำห้วยเล็ก ๆ ที่ทอดตัวคั่นกลางระหว่างความสงบกับความตึงเครียด บริเวณอำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ตรงข้ามกับปราสาทเขาพระวิหาร และภูมะเขือ ชื่อนี้อาจไม่ได้โด่งดังในหน้าประวัติศาสตร์หลัก แต่สำหรับผู้ที่เฝ้าติดตามสถานการณ์ความมั่นคงบริเวณชายแดนดงรัก ชื่อนี้คือสัญลักษณ์ของพื้นที่พิพาทที่เต็มไปด้วยบาดแผลและกับระเบิดที่ฝังรอวันปะทุ
แผนที่ตามการอ้างสิทธิ์ของกัมพูชามักจะลากเส้นเขตแดนที่กินพื้นที่ ห้วยตามาเรีย และ ภูมะเขือ เข้าไปด้วยทั้งหมด ทำให้พื้นที่นี้กลายเป็นพื้นที่ความตึงเครียดทางทหารมาอย่างต่อเนื่อง แม้ศาลโลกจะไม่ได้รับคำร้องตีความทั้งหมดของกัมพูชาในประเด็นนี้ แต่สถานะของเขตแดนที่ยังไม่ชัดเจนก็ยังคงเป็นสาเหตุหลักของปัญหาในพื้นที่นี้
"ห้วยตามาเรีย" ไม่ได้เป็นเพียงแค่พื้นที่ภูมิศาสตร์ แต่เป็นเหมือนม่านที่กั้นแบ่งอดีตอันขมขื่นของสองชาติจากอนาคตอันไม่แน่นอน และล่าสุด ความดราม่าที่พัวพันกับดินแดนแห่งนี้ได้กลับมาทิ่มแทงหัวใจคนไทยอีกครั้ง เมื่อมีรายงานด่วนจากกองทัพบกว่า "กำลังพลทหารไทยเหยียบกับระเบิด" ขณะปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนเส้นทางในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณนี้
เป็นเหตุให้ 1."จ่าสิบเอก เทิดศักดิ์ สมาพงษ์" สังกัดกองร้อย ร.1611 อาการบาดเจ็บรุนแรง ข้อเท้าขวาขาด 2."พลทหาร วชิระ พันธนา" สังกัดเดียวกัน ได้รับบาดเจ็บมีอาการแน่นหน้าอกจากแรงอัดของระเบิด 3."พลทหาร อภิรักษ์ ศรีชมไชย" พลยิง M203 ได้รับบาดเจ็บ โดนสะเก็ดระเบิดเข้าที่น่องขาขวา จำนวน 2 รู และ4."พลทหาร อนุชา สุจารี" พลปืนเล็ก ได้รับบาดเจ็บ ฝุ่นหรือสารเคมีจากระเบิดเข้าตา
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นอย่างฉับพลันราวกับระเบิดเวลาที่ถูกตั้งไว้ตั้งแต่ยุคสงครามเย็น เป็นการตอกย้ำถึงอันตรายที่มองไม่เห็นซึ่งแฝงตัวอยู่ในทุกตารางนิ้วของดินแดนแห่งความขัดแย้งนี้
หากย้อนกลับไปในห้วงประวัติศาสตร์ "ห้วยตามาเรีย" คือหนึ่งในหมุดหมายสำคัญที่ต้องจับตา เพราะเป็นเขตแดนที่หลายฝ่ายเชื่อว่ามีร่องรอยของการฝังทุ่นระเบิดสังหารบุคคลไว้มากมายตั้งแต่ช่วงสงครามในกัมพูชาและความขัดแย้งชายแดนที่ยาวนาน
ระเบิดเหล่านี้ไม่ใช่เพียงแค่เศษเหล็กเก่า ๆ แต่เป็นมรดกเลือดที่ถูกทิ้งไว้จากความขัดแย้งในอดีต ซึ่งยังคงคุกคามชีวิตของทหารหาญที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างต่อเนื่อง ความตื่นเต้นที่น่าขนลุกคือการที่ทุ่นระเบิดบางส่วนถูกสันนิษฐานว่าอาจเป็น "ระเบิดใหม่" ที่เพิ่งถูกนำมาวาง ซึ่งทำให้สถานการณ์จากที่เป็นเพียงความเสี่ยงทางประวัติศาสตร์กลับกลายเป็นการเผชิญหน้ากับกลยุทธ์ทางทหารที่ไม่อาจคาดเดาได้ในปัจจุบัน
เหตุการณ์ล่าสุดนี้ส่งผลให้ "นายกรัฐมนตรี" ได้สั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงกลาโหมพิจารณา ประท้วงไปยังคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว (IOT) อย่างถึงที่สุด พร้อมทั้งสั่งการให้มีการเลื่อนการส่งตัวเชลยศึกกัมพูชาออกไปก่อน แสดงให้เห็นถึงระดับความตึงเครียดที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
"ห้วยตามาเรีย" จึงไม่ใช่แค่ที่หมายในการลาดตระเวน แต่เป็นฉากของดราม่าทางการเมืองระหว่างประเทศและสมรภูมิเงียบที่ทหารไทยต้องเดิมพันด้วยชีวิตในทุกย่างก้าวที่ก้าวเดิน
สถานที่แห่งนี้ยังคงเป็นเสมือน "หลุมดำ" ที่กลืนกินความหวัง และส่งเสียงเตือนอย่างน่าสะพรึงกลัวว่า ตราบใดที่ยังไม่มีการเก็บกู้ทุ่นระเบิดทั้งหมด และยังไม่มีข้อสรุปเขตแดนที่ชัดเจน ดินแดนแห่งความตายนี้ก็ยังคงพร้อมที่จะสังหารผู้ที่ก้าวล้ำเข้าไปได้ทุกเมื่อ
#ห้วยตามาเรีย #กับระเบิด #ทหายไทยเหยียบกับระเบิด #ทหารไทย #เขาพระวิหาร #ชายแดนไทยกัมพูชา #ประวัติศาสตร์สงคราม #ข่าวทหาร #ศรีสะเกษ #ไทยกัมพูชา








