กองทัพบกเร่งดำเนินการก่อสร้างหลุมหลบภัยและหลุมบุคคลคู่ สนับสนุน “กองทุนหทัยทิพย์” ตามพระดำริสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี
วันที่ 8 พ.ย.68 พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2568 สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี พระราชทานพระวโรกาสให้ พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก และคณะ เข้าเฝ้าทูลละอองพระบาทถวายรายงานความคืบหน้าโครงการสนับสนุน “กองทุนหทัยทิพย์” กองทัพบก พร้อมรับพระราชทานพระนโยบายเกี่ยวกับแนวทางการสนับสนุนและการขับเคลื่อนการดำเนินงานของกองทุนฯ
ในการนี้ ทรงมีพระกระแสรับสั่งให้กองทัพบกเร่งดำเนินการจัดสร้าง หลุมบุคคลคู่ (บังเกอร์) สำหรับเป็นที่มั่นกำบังของกำลังพลผู้ปฏิบัติหน้าที่ และ หลุมหลบภัยสำหรับประชาชน เพื่อใช้เป็นที่พักพิงในยามเกิดเหตุฉุกเฉินหรือภัยพิบัติ โดยให้ดำเนินการอย่างเร่งด่วน เพื่อใช้เป็นต้นแบบการพัฒนาในพื้นที่ชายแดน ขณะเดียวกัน ยังมีพระกระแสรับสั่งให้กองบัญชาการกองทัพไทยดำเนินการก่อสร้างรั้วชายแดนไทย–กัมพูชา เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงของประเทศ
พระดำริดังกล่าวเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของ “กองทุนหทัยทิพย์” ที่ทรงมีพระประสงค์ให้เป็นกองทุนสำคัญในการคุ้มครองความปลอดภัยของกำลังพลและประชาชน รวมถึงการส่งเสริมความมั่นคงและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดียิ่งขึ้น โดยเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนได้มีส่วนร่วมบริจาคสมทบทุน เพื่อร่วมกันสร้างความมั่นคงและความปลอดภัยให้กับประเทศชาติ
ทั้งนี้ กองทัพบกเป็นหนึ่งในหน่วยงานหลักที่ให้การสนับสนุนการดำเนินงานของ “กองทุนหทัยทิพย์” ในการก่อสร้างหลุมบุคคลคู่สำหรับกำลังพลผู้ปฏิบัติงาน และหลุมหลบภัยสำหรับประชาชน ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของกองทุนฯ
ปัจจุบัน กองทัพบกได้จัดกำลังพล เครื่องมือ และยุทโธปกรณ์ เข้าดำเนินการออกแบบ ก่อสร้าง และติดตั้ง หลุมบุคคลคู่จำนวน 328 แห่ง และ หลุมหลบภัยสำหรับประชาชน (ขนาดรองรับได้ 40 คน) จำนวน 10 แห่ง โดยแบ่งพื้นที่ดำเนินการ ดังนี้
- กองทัพภาคที่ 1 (กองกำลังบูรพา) พื้นที่จังหวัดสระแก้ว ดำเนินการก่อสร้างหลุมบุคคลคู่จำนวน 72 แห่ง และหลุมหลบภัยสำหรับประชาชนจำนวน 3 แห่ง
- กองทัพภาคที่ 2 (กองกำลังสุรนารี) ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์ ดำเนินการก่อสร้างหลุมบุคคลคู่จำนวน 256 แห่ง และหลุมหลบภัยสำหรับประชาชนจำนวน 7 แห่ง
โครงการได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2568 โดยกำหนดกรอบระยะเวลาดำเนินงานเป็น 2 ระยะ ได้แก่ ระยะเร่งด่วนที่ 1 ให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน และ ระยะที่ 2 ภายใน 90 วัน โดยจะดำเนินการเข้าก่อสร้างในแต่ละจุดตามลำดับและตามแผนงานที่กำหนด ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้ กรมการทหารช่าง เป็นหน่วยรับผิดชอบหลักในการออกแบบและควบคุมการก่อสร้าง ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ในการนี้ พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการดำเนินงานให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของกองทุนฯ ภายใต้กรอบเวลาที่กำหนด เพื่อให้การดำเนินงานทุกขั้นตอนมีความสมบูรณ์สูงสุดและเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
กองทัพบกน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ต่อพระดำริอันเปี่ยมด้วยพระเมตตาและน้ำพระทัยที่ทรงมีต่อพี่น้องประชาชนและกำลังพลผู้ปฏิบัติหน้าที่ โดยกองทัพบกจะมุ่งมั่นดำเนินงานสนองพระดำริให้เกิดผลเป็นรูปธรรม ด้วยความรอบคอบ มีมาตรฐาน และมีประสิทธิภาพ เพื่อเสริมสร้างความมั่นคง ความปลอดภัย และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนและกำลังพลให้ดียิ่งขึ้น








