ปอท.ปฏิบัติการ “Romance 114” ทลายแก๊งสแกมข้ามชาติ “ชาวไนจีเรีย” พร้อมเครือข่ายคนไทยรวม 6 ราย ยึดทรัพย์กว่า 2.5 ล้าน หลอกเหยื่อสูญ 114 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 7 พ.ย.68 พล.ต.ต.ชนันนัทธ์ สารถวัลย์แพศย์ ผบก.ปอท. พ.ต.อ.ชิษณุพงศ์ ไหวดี ผกก.3 บก.ปอท. นำกำลัง เปิดปฏิบัติการ “Romance 114”ทลายเครือข่ายแก๊งโรแมนซ์สแกมเข้าตรวจค้นหลายจุดในพื้นที่ กทม. และ จ.ชลบุรีจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 6 ราย ประกอบด้วย น.ส.วริศรา อายุ 20 ปี , นายเฉลิมชัยอายุ 23 ปี , น.ส.ผาณิตา อายุ 31 ปี , นายอึมมาดุอาบูชุ หรือ นายบอนซี อายุ 31 ปี สัญชาติไนจีเรีย ,น.ส.เกศินี อายุ 28 ปี และ น.ส.ศริยา อายุ 40 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น, ร่วมกันเป็นอั้งยี่, ทุจริต หรือ หลอกลวง โดยการร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ , สมคบฟอกเงินและ ร่วมกันฟอกเงิน” พร้อมยึดทรัพย์สินที่เชื่อว่าได้มาจากการกระทำผิดอีกหลายรายการรวมมูลค่ากว่า 2.5 ล้านบาท
สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ได้มีผู้เสียหายรายหนึ่งเข้าร้องขอความช่วยเหลือตำรวจ กก.3 บก.ปอท. หลังถูกแก๊ง Romance Scam สร้างแอคเคาท์ปลอมในสื่อสังคมออนไลน์ ด้วยการใช้รูปภาพชาวต่างชาติหน้าตาดีเข้ามาทำทีตีสนิท ก่อนหลอกลวงให้โอนเงินกว่า 114 ล้านบาท หลังรับเรื่องเจ้าหน้าที่จึงจัดกำลังลงพื้นที่สืบหาเบาะแส กระทั่งทราบว่ามีการทำกันเป็นขบวนการ และ แบ่งหน้าที่กันทำอย่างเป็นแบบแผน โดยมี บอสใหญ่ชาวไนจีเรีย คอยสั่งการจากต่างประเทศ ผ่านนายอึมมาดุอาบูชุ ชาวไนจีเรีย และ น.ส.ผาณิตา ภรรยาชาวไทย ที่คอยเป็นผู้ประสานกับกลุ่มผู้ร่วมขบวนการคนอื่น ๆ ในประเทศไทย และ คอยจัดหาบัญชีม้าสำหรับรับโอนเงิน
ต่อมาเมื่อเหยื่อหลงเชื่อโอนเงินมาให้แล้ว บอสใหญ่ จะสั่งการมายัง นายอึมมาดุอาบูชุ และ ภรรยา ให้ว่าจ้าง น.ส.วริศรา กับ นายเฉลิมชัย ตระเวนถอนเป็นเงินสดออกมา แล้วนำมาส่งมอบให้ น.ส.ผาณิตา ตามจุดนัดหมายต่าง ๆ จากนั้น น.ส.ผาณิตา ก็จะนำเงินทั้งหมดที่ได้ส่งต่อให้กับ นายอึมมาดุอาบูชุ เพื่อนำไปแลกเป็นเงินไนจีเรีย แล้วโอนต่อไปยังบัญชีธนาคารของ นายชินิเน่ คอลลิน ชาวไนจีเรีย และ น.ส.ศริยา กับ น.ส.เกศินี สองภรรยา เพื่อแปลงเป็นสินทรัพย์ดิจิตอล หรือ คริปโต ก่อนโอนต่อไปยังปลายทางไนจีเรีย
โดยแต่ละครั้งที่มีการถอนเงินผู้ต้องหาทั้งหมด จะได้รับเงินส่วนแบ่งจากบอสใหญ่ คิดเป็นร้อยละ 3-4 ของจำนวนเงินที่ถอนในแต่ละครั้ง จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้รวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดจนนำมาสู่การเข้าตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 6 ราย พร้อมตรวจยึดทรัพย์สินต่าง ๆ รวมมูลค่ากว่า 2.5 ล้านบาทไว้เป็นของกลางดังกล่าว คงเหลือเพียง นายชินิเน่ คอลลิน ที่ไหวตัวทันชิงหลบหนีออกนอกประเทศไปได้ก่อน
จากการสอบสวนเบื้องต้นทั้งหมดให้การรับสารภาพ จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปอท. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป








