องค์การสหประชาชาติ (UN) ได้แถลงเมื่อวันอังคาร (4 พ.ย.) ว่า พายุเฮอริเคนเมลิสซา ได้สร้างความเสียหายอย่างรุนแรงในภูมิภาคแคริบเบียน โดยมีรายงานผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 30 รายในเฮติ และส่งผลกระทบต่อประชากรกว่า 1.5 ล้านคนในจาเมกา
ฟาร์ฮาน ฮัก รองโฆษกเลขาธิการ UN กล่าวในการแถลงข่าวประจำวันว่า โครงสร้างพื้นฐานใน จาเมกา ได้รับความเสียหายอย่างหนัก ถนนถูกปิดกั้นมากกว่า 130 สาย ขณะที่เครือข่ายไฟฟ้าและการสื่อสารหยุดชะงักลงโดยสิ้นเชิง นอกจากนี้ บริการด้านสุขภาพกำลังเผชิญกับภาวะตึงเครียดอย่างหนัก เนื่องจากโรงพยาบาลและคลินิกหลายแห่งได้รับความเสียหายหรือถูกทำลาย ทำให้ต้องมีการจัดส่งทีมแพทย์ฉุกเฉินจาก องค์การอนามัยทวีปอเมริกา (PAHO) เข้ามาสนับสนุนอย่างเร่งด่วน
โครงการอาหารโลก (WFP) ประเมินว่า ประชาชนในจาเมกาอาจต้องการความช่วยเหลือด้านอาหารสูงถึง 360,000 คน ขณะนี้ทีมประเมินและประสานงานภัยพิบัติของ UN กำลังประสานงานกับทีมช่วยเหลือและบรรเทาทุกข์ที่จะเดินทางมาถึง เพื่อสนับสนุนการทำงานของรัฐบาลจาเมกาอย่างเต็มที่
ในส่วนของ เฮติ นายฮักกล่าวว่า UN และพันธมิตรยังคงเดินหน้าประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้นจากเฮอริเคนเมลิสซาอย่างต่อเนื่อง และกำลังยกระดับความพยายามในการเข้าถึงและส่งมอบความช่วยเหลือแก่ผู้ที่ต้องการอย่างเร่งด่วน
ด้าน องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) รายงานว่า พืชผลสำคัญ เช่น ถั่ว ข้าวโพด และผลไม้ รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานด้านการประมงได้รับความเสียหายอย่างหนัก ซึ่งคาดว่าจะยิ่ง ซ้ำเติมภาวะความหิวโหย ในประเทศที่ประชากรถึงครึ่งหนึ่งประสบปัญหาความไม่มั่นคงทางอาหารอยู่แล้ว
เอเตียน ลาบานเด ผู้อำนวยการ WFP ประจำคิวบา ให้สัมภาษณ์ผ่านวิดีโอลิงก์ว่า พายุเฮอริเคนเมลิสซาได้ทิ้งร่องรอยน้ำท่วมเป็นบริเวณกว้าง ไฟฟ้าดับ และความเสียหายอย่างหนักในคิวบา โดยมีพืชผลเสียหาย และอาคารหลายแห่งทางตะวันออกของคิวบาถูกทำลายบางส่วนหรือทั้งหมด
ลาบานเดกล่าวเสริมว่า ปัจจัยหนึ่งที่ช่วยในการตอบสนองต่อพายุเฮอริเคนครั้งนี้คือ กรอบการทำงานเชิงรุก ที่คิวบานำมาใช้ ควบคู่ไปกับการจัดสรรงบประมาณที่ UN ได้อนุมัติล่วงหน้า ทำให้หน่วยงานของ UN สามารถเตรียมเสบียงสำคัญไว้ล่วงหน้าในพื้นที่เสี่ยง ก่อนที่พายุเฮอริเคนจะขึ้นฝั่งได้สำเร็จ
#พายุเมลิสซา #เฮอริเคน #ภัยพิบัติ #เฮติ #จาเมกา #UN #WFP #ความช่วยเหลือ #FAO #ข่าวต่างประเทศ








