สภาบริหารและลดความเสี่ยงภัยพิบัติแห่งชาติของฟิลิปปินส์ (NDRRMC) เปิดเผยเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายนว่า พายุไต้ฝุ่นคัลแมกี (Kalmaegi) ซึ่งพัดถล่มฟิลิปปินส์ตลอดคืนที่ผ่านมา ได้ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 1 ราย และกระทบต่อชีวิตประชาชนเกือบ 60,000 คนในพื้นที่ตอนกลางและตอนใต้ของประเทศ นอกจากนี้ พลังทำลายล้างของพายุยังเป็นสาเหตุให้สายการบินจำนวนมากต้องประกาศยกเลิกเที่ยวบินรวมเกือบ 100 เที่ยว
สำนักข่าวซินหัวรายงานถึงข้อมูลของ NDRRMC ซึ่งกำลังเร่งตรวจสอบรายงานการเสียชีวิตของชาวบ้านอย่างน้อย 1 รายในเขตเซ็นทรัลวิซายัส ก่อนที่จะมีการยืนยันรายละเอียดในเวลาต่อมา โดย แอนโทนี ดามาเลริโอ หัวหน้าสำนักงานบริหารและลดความเสี่ยงภัยพิบัติประจำจังหวัดโบฮอล ได้ให้สัมภาษณ์ทางวิทยุยืนยันว่า ชายวัย 52 ปีรายหนึ่งได้เสียชีวิตลงอย่างน่าเศร้า หลังจากถูกต้นไม้ขนาดใหญ่ล้มทับในพื้นที่จังหวัดโบฮอล
NDRRMC ระบุเพิ่มเติมว่า มีประชาชนจำนวนรวม 75,591 คน ที่ได้ทำการอพยพล่วงหน้าเพื่อความปลอดภัย พายุคัลแมกีได้ก่อให้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง จนเป็นเหตุให้หมู่บ้านหลายแห่งใน 5 ภูมิภาคต้องจมอยู่ใต้น้ำอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังสร้างความเสียหายต่อระบบสาธารณูปโภค โดยมีรายงานต้นไม้โค่นล้ม และสายไฟฟ้าขาดสะบั้นเป็นจำนวนมาก
เจ้าหน้าที่ฉุกเฉินรายงานถึงสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันที่เข้าท่วมถนนในจังหวัดเซบู โดยระดับน้ำในบางพื้นที่สูงถึงชั้นสองของอาคารบ้านเรือน ขณะที่ เกาะซีอาร์เกา (Siargao) ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวในประเทศ ต้องประสบปัญหาไฟฟ้าดับทั่วทั้งเกาะโดยสิ้นเชิง หลังจากที่เผชิญกับลมพายุที่พัดกระหน่ำอย่างรุนแรง
ด้าน จานิส เมดินา-เรจิโน เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ประจำจังหวัดซูริเกาเดลนอร์เต กล่าวว่า มีประชาชนในจังหวัดกว่า 70,000 คนที่ถูกเคลื่อนย้ายไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราวแล้ว โดยเริ่มมีการอพยพบางส่วนตั้งแต่เมื่อวันอาทิตย์ที่ 2 พฤศจิกายน ก่อนที่พายุคัลแมกีจะพัดขึ้นฝั่งในช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืนของวันจันทร์
ในส่วนของการเดินทาง องค์การการบินพลเรือนแห่งฟิลิปปินส์ ได้เปิดเผยข้อมูลว่า พายุไต้ฝุ่นลูกนี้เป็นสาเหตุให้สายการบินต่าง ๆ ต้องตัดสินใจยกเลิกเที่ยวบินเกือบ 100 เที่ยว
ล่าสุด กรมอุตุนิยมวิทยาของรัฐบาลได้ออกประกาศเตือนว่า พายุคัลแมกี ซึ่งมีชื่อเรียกในท้องถิ่นว่า "ติโน" (Tino) กำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนืออย่างต่อเนื่องด้วยความเร็ว 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเช้าวันอังคาร และคาดว่าจะยังคงก่อให้เกิดคลื่นพายุซัดฝั่งสูงถึง 3 เมตร ซึ่งถือเป็น "อันตรายถึงชีวิตและมีศักยภาพที่จะก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรง"
#ไต้ฝุ่นคัลแมกี #ฟิลิปปินส์ #Kalmaegi #พายุติโน #ภัยพิบัติ #ไฟฟ้าดับ #ยกเลิกเที่ยวบิน