“ราเมศ” ยันคดีสลายชุมนุมปี 53 ทั้งหมดผ่านการพิสูจน์จากศาลฎีกา-ป.ป.ช. จนสิ้นกระแสความแล้ว “อภิสิทธิ์” ไม่ได้กระทำความผิด จี้ “ณัฐวุฒิ” ซึ่งเป็นจำเลยในคดีแพ่งฐานยุยงให้ผู้ชุมนุม "เผาบ้านเผาเมือง" ว่าได้ปฏิบัติตามคำสั่งศาลในการชดใช้ค่าเสียหายแล้วหรือไม่ พร้อมเตือนให้ฝ่ายที่นำข้อมูลไปบิดเบือนเลิกใช้แนวคิดที่ล้าหลัง
วันที่ 3 ต.ค.2568 นายราเมศ รัตนะเชวง รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำคนเสื้อแดง กล่าวถึงเหตุการณ์ในปี 2553 โดยพาดพิงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ว่า1.ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในปี พ.ศ.2553 คดีที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุม ที่เกี่ยวข้องกับนายอภิสิทธิ์ได้ผ่านกระบวนการยุติธรรมทุกขั้นตอนและถึงที่สุดแล้ว มีการพิสูจน์จนสิ้นกระแสความ 2.นายอภิสิทธิ์ ไม่ได้กระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหา มีคำพิพากษาศาลฎีกา มีคำวินิจฉัยของ ป.ป.ช. มีผลการพิจารณาของรายงานของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อปรองดองแห่งชาติ หรือ คอป. ทุกองค์กรมีเหตุผลในการรองรับชัดเจน 3.กระบวนการยุติธรรม ศาลชี้ชัดว่าการชุมนุมเป็นการชุมนุมโดยไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ มีอาวุธ มีกลุ่มชายชุดดำเข้ามาก่อความไม่สงบ มีการยุยงจากแกนนำให้มีการเผาบ้านเผาเมือง จนศาลฏีกามีคำตัดสินให้แกนนำมีความผิดต้องชดใช้ค่าเสียหาย
นายราเมศ กล่าวต่อว่า 4.มีเจ้าหน้าที่กลั่นแกล้งตั้งข้อหานายอภิสิทธิ์ ฐานฆ่าผู้อื่น เจ้าหน้าที่คนนั้นชื่อนายธาริต เพ็งดิษฐ์ ภูมิลำเนาปัจจุบันคือเรือนจำ 5.มีคนใส่ร้ายนายอภิสิทธิ์ นายอภิสิทธิ์ ในทำนองเป็นฆาตกรสั่งฆ่าประชาชนระหว่างการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง คดีนี้ศาลฎีกาตัดสินแล้ว คนใส่ร้ายถูกจำคุกโดยไม่รอลงอาญา จำเลยที่ใส่ร้ายคือนายจตุพร พรหมพันธุ์ คดีผ่านมาหลายปีแล้ว 6.แกนนำที่ปราศรัยบนเวที ยุยงให้ผู้ชุมนุมเผาอาคารบ้านเรือนในกรุงเทพมหานคร ศาลฎีกาได้ตัดสินให้แกนนำมีความผิดในทางแพ่งต้องชดใช้ค่าเสียหาย
“นายณัฐวุฒิคือหนึ่งในจำเลย อยากถามว่าไปชดใช้ค่าเสียหายหรือยัง นายณัฐวุฒิทราบข้อมูลต่างๆเหล่านี้ดี จะให้องค์กรไหนตรวจสอบอีก ในเมื่อกระบวนการยุติธรรมได้ตรวจสอบแล้วยุติว่านายอภิสิทธิ์ไม่มีความผิด ไม่ได้มีคำสั่งให้ฆ่าประชาชน ไม่อยากให้ใช้วาทกรรมเพื่อทำลายกันในทางการเมือง สิ่งที่สำคัญทุกคนต้องยอมรับกระบวนการยุติธรรม การนำข้อมูลไปบิดเบือนเพียงเพื่อให้เกิดประโยชน์กับฝ่ายตนมันเป็นแนวคิดที่ล้าหลังไป”นายราเมศ กล่าว








