วันที่ 3 พฤศจิกายน 2568 ที่ห้องประชุม 109 สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เขตดุสิต นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการประชุมศูนย์ประสานงานการจัดงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง (ศปพ.) ครั้งที่ 2/2568 เพื่อบูรณาการแผนงานในการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่จะเดินทางเข้ามากราบถวายบังคมพระบรมศพ โดยมีการคาดการณ์ว่าปริมาณประชาชนจะเพิ่มขึ้นอย่างมากภายหลังวันที่ 9 พฤศจิกายนนี้ ในการนี้ นายไทวุฒิ ขันแก้ว รองปลัดกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยนายศุภฤกษ์ หูไธสง ผู้อำนวยการสำนักงานเลขานุการปลัดกรุงเทพมหานคร ได้เข้าร่วมการประชุมเพื่อรายงานความคืบหน้าและแผนการดำเนินการที่เกี่ยวข้อง
สาระสำคัญของการประชุมในครั้งนี้ประกอบด้วยการแต่งตั้งคณะทำงานขับเคลื่อนภารกิจ ศปพ., การกำหนดหลักเกณฑ์การพิจารณาและแนวทางการขอใช้งบประมาณ, และการรายงานผลการดำเนินงานโดยเน้นหนักไปที่การเตรียมความพร้อมและการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน สำหรับกรุงเทพมหานคร (กทม.) รองปลัดฯ ไทวุฒิ ได้รายงานถึงการจัดเตรียมด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะการจัดสถานที่และเส้นทางการเข้าสักการะ ซึ่งได้มีการจัดพื้นที่พักคอยขนาดใหญ่บริเวณสนามหลวง โดยพื้นที่ดังกล่าวมีความสามารถในการรองรับประชาชนได้ประมาณ 10,000 คนต่อรอบ หรือคิดเป็นประมาณ 30,000 คนต่อวัน
นอกจากนี้ กทม. ยังได้รับมอบหมายให้เป็นหน่วยงานหลักในการรับบริจาคอาหาร เครื่องดื่ม และสิ่งของต่าง ๆ โดยสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีจะทำหน้าที่ประสานเครือข่ายภาคราชการและเอกชนเพื่อส่งต่อสิ่งของมายัง กทม. เพื่อดำเนินการแจกจ่ายต่อไป พร้อมกันนี้ กทม. ยังได้รายงานถึงแผนในการจัดหารถขนส่งอาหารเพื่อบริการอาหารแก่ประชาชนที่ต้องรอคิวนาน เพื่อให้ประชาชนได้รับอาหารโดยไม่ต้องออกจากคิว รวมถึงแนวคิดในการจัดเตรียมจุดชาร์จโทรศัพท์มือถือภายในเต็นท์พักคอยเพื่ออำนวยความสะดวกเพิ่มเติม
ด้านการดูแลและช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางนั้น ที่ประชุมได้มีการหารือถึงปัญหาที่วีลแชร์สำหรับประชาชนไม่เพียงพอและมีการชำรุดง่าย จึงมีข้อสั่งการให้ กทม. ประสานงานโดยตรงกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เพื่อเร่งดำเนินการจัดหาวีลแชร์เพิ่มเติมให้เพียงพอต่อความต้องการ สำหรับด้านการแพทย์ กทม. และกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้ร่วมกันเตรียมพร้อมในการขยายจุดบริการทางการแพทย์เพิ่มเติมเพื่อรองรับประชาชนอย่างทั่วถึง อย่างไรก็ตาม รองปลัดฯ ได้รายงานถึงปัญหาการจัดระเบียบคนเร่ร่อนที่เข้ามารับอาหารบริจาคในช่วงเย็น ซึ่งจำเป็นต้องประสานงานกับ พม. เพื่อจัดระเบียบในพื้นที่ต่อไป
ในส่วนของการสนับสนุนจากหน่วยงานอื่น ๆ เพื่อให้แผนบูรณาการมีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น กระทรวงคมนาคม ได้เตรียมจัดรถ Shuttle Bus ฟรี จำนวน 14 เส้นทาง รวมทั้งสิ้น 101 คัน เพื่อเชื่อมต่อกับระบบขนส่งมวลชนและสถานีขนส่งหลัก ๆ ขณะที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้จัดทำแผนจัดการจราจร พร้อมทั้งกำหนดจุดจอดรถทั้งแบบไม่คิดค่าบริการและมีค่าบริการ ด้านกระทรวงมหาดไทย ได้จัดทำแผนอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด และกรมประชาสัมพันธ์ ได้รับหน้าที่จัดทำแผนเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวข้องให้แก่สาธารณชน







