ดนตรี/วรรณากร ทองเสริม
Here For It All คืออัลบั้มชุดที่ 16 ของ มารายห์ แครี่ย์ เป็นผลงานล่าสุดที่ทิ้งช่วงห่างจากอัลบั้มก่อนหน้า (Caution) ถึง 7 ปี ที่มาพร้อมทัวร์คอนเสิร์ตทั่วโลก และ “ดีว่า” ผู้ยืนยงของวงการเพลงป็อป/อาร์แอนด์บี ก็ไม่ได้ทำให้คนฟังผิดหวัง
มารายห์ แครี่ย์ คือหนึ่งในศิลปินไม่มากนักที่เข้าใจดีว่า ตัวเองทำอะไรได้ดี เธอมีจุดขายที่โดดเด่นตรงไหน จะต้องทำดนตรีแบบพาณิชย์ศิลป์อย่างไร ถึงจะออกมาเป็นงานที่ทรงคุณค่าและ “ขายได้” อีกด้วย
Here For It All สมกับเป็นงานของคนที่ผ่านมาหลายยุคสมัย เพลงอาร์แอนด์บีของเธอคือการผสมผสานเสียงของยุคเก่าและใหม่ อัลบั้มที่มีความยาวเพียง 40 นาทีโดยประมาณวางสูตรไว้ให้อาร์แอนด์บีเป็นแกน แล้วเติมด้วยสีสันของดิสโก้ ฟังก์ โซล กอสเปล และเพลงป็อปจากยุคทศวรรษที่ 70-80 ผลที่ได้นั้นทำให้คนฟังรุ่นที่โตมาพร้อมกับเธอพอใจกับการย้อนสู่ดนตรีที่ดีงามและวันวาน ขณะเดียวกันก็ทำให้คนฟังรุ่นใหม่นึกทึ่งกับของดีจากอดีต
“Play This Song”, “Type Dangerous”, “Sugar Sweet” คือเพลงที่โดดเด่นและดึงดูดความสนใจได้ดี แต่เพลงกอสเปลสนุกๆ อย่าง “Jesus, I Do” นั้นไปได้ไกลกว่า ด้วยแรงส่งจากแขกรับเชิญอย่าง คลาร์ก ซิสเตอร์ส
นอกจากนี้ เธอยังนำเพลง “My Love” ของ พอล แมคคาร์ทนีย์ มาร้องใหม่ และเธอก็ทำได้อย่างยอดเยี่ยมสมศักดิ์ศรีของการเป็นดีว่า ด้วยเสียงร้องที่ทำให้หวนคิดถึงยุคอัลบั้ม Music Box ของเธอ
มารายห์ ยังคงเป็นตัวหลักในการเขียนเพลงทั้งหมด มุมมองของเธอนั้นมักซ่อนอารมณ์ขันและจิกกัดตัวเองไว้อย่างแนบเนียน แต่แน่นอนว่า เสียงร้องของ มารายห์ คือสิ่งที่ดีที่สุดของงานของเธอและมันเป็นเช่นนั้นเสมอ
ในวัย 56 ปี มารายห์และเสียงของเธออาจไม่ได้อยู่ใน “ยุคทอง” อีกแล้ว แต่ความเป็นศิลปินที่ชัดเจนต่อเส้นทางเดินของตัวเองยังไม่ได้หายไปไหน เธอยังรู้ดีด้วยว่าจะต้องทำอย่างไร เพลงของเธอจึงจะไม่ถูกกลืนหายไปในกระแสดนตรีของยุคนี้
#มารายห์แครี่ย์ #HereForItAll #ดีว่าแห่งวงการเพลง #เพลงRNB #วรรณากร #สยามรัฐ #คอลัมน์ดนตรี #รีวิวอัลบั้ม #เพลงสากล #MariahCarey
ขอบคุณภาพจาก : https://www.facebook.com/mariahcarey








