ข่าวภูมิภาค

ป้าสาวขอนแก่นตกตึกตายที่ปอยเปต ไม่เชื่อหลานฆ่าตัวตาย ชี้อาจเสียชีวิตก่อนหน้านี้

แชร์ข่าว

ป้า-น้าชาย "น้องใบหม่อน" ไม่เชื่อหลานสาวฆ่าตัวตาย ชี้อาจเสียชีวิตก่อนหน้านี้ หลังเห็นสภาพศพบวมอืดไร้เลือด พร้อมรอเจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง

จากกรณีพบศพหญิงวัย 27 ปี เสียชีวิตอยู่ที่ปอยเปต ประเทศกัมพูชา ทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.กนกวรรณ หรือน้องใบหม่อน อายุ 27 ปี อยู่หมู่ 17 ชุมชนหนองวัด 2 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งล่าสุดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าช่วยเหลือรับศพกลับมาที่ประเทศไทยตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 30 ต.ค.68 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปที่บ้านผู้เสียชีวิตอีกครั้งโดยได้พบกับ น.ส.ประภาพร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 56 ปี และ นายศรายุทธ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 51 ปี ป้าและน้าชายของน้องใบหม่อน ซึ่งกำลังเตรียมการงานศพหลานสาว โดยคาดว่าจะมาถึงที่วัดในช่วงบ่ายวันนี้ ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่จากกระทรวงการต่างประเทศและเพื่อนของน้องใบหม่อนเป็นคนรับศพเดินทางมาที่วัด

น.ส.ประภาพร อายุ 56 ปี กล่าวว่าส่วนตัวหลังจากที่เห็นภาพแล้วไม่เชื่อว่าน้องใบหม่อนจะกระโดดตึกฆ่าตัวตาย และตนเองเคยทำหน้าที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่กู้ภัย สภาพศพที่เห็นเป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นการฆ่าตัวตาย เพราะสภาพตัวอืดบวมไม่มีเลือด จะต้องเป็นการเสียชีวิตก่อนหน้านั้น โดยหลานสาวเป็นคนผอมตัวเล็ก ซึ่งก่อนที่จะทราบว่าหลานสาวเสียชีวิตนั้น รู้สึกไม่ดีมาหลายวัน จิตใจเป็นกังวลหดหู่ กระทั่งมีน้องชายและคนอื่นๆโทรมาหา จนผิดสังเกตจึงโทรกลับหาน้องชายจึงทราบเรื่องการเสียชีวิตของหลานสาว พอน้องชายบอกว่าหลานสาวกระโดดตึกตนเองพูดเลยว่าไม่เชื่ออย่างแน่นอนเพราะหลานสาวไม่ใช่คนที่จะคิดสั้นฆ่าตัวตาย 

"จนตอนนั้นคิดจะใช้วิธีทางไสยศาสตร์ด้วยการปักธูปห้าดอกและเรียกหลานสาวมาคุยเพื่อจะถามให้รู้ว่าใครเป็นคนฆ่าหลานสาว ซึ่งส่วนตัวติดต่อกับหลานสาวพูดคุยกันอยู่ตลอด รวมถึงน้องสาวซึ่งเป็นแม่ของใบหม่อนด้วย โดยหลานสาวบอกกับแม่ว่าจะทำเซอร์ไพรส์ช่วงปีใหม่ที่จะถึงนี้ให้กับตนเอง เพราะตนเองเป็นคนเลี้ยงดูมาตั้งแต่เกิด ก่อนจะไปอยู่กับแม่ที่ จ.สงขลาตอนช่วงเรียนอยู่ชั้น ม.2 ซึ่งเท่าที่พูดคุยสอบถามสารทุกข์สุกดิบใบหม่อน หลานทั้งไปเรียนต่อและไปทำงาน จนตนเองสบายใจว่าหลานสาวจะมีอนาคต โดยน้องใบหม่อนทำงานเกี่ยวกับหน้าที่คอลเซ็นเตอร์ของบริษัทค่ายโทรศัพท์ของไทย ซึ่งหลานสาวยังชักชวนให้ย้ายค่ายมือถือมาใช้ค่ายมือถือที่หลานสาวทำงาน ส่วนเรื่องที่หลานสาวจะไปอยู่ที่ปอยเปรตนั้น เรื่องนี้ไม่มีใครทราบเลย ซึ่งต้องรอน้องสาวมาถึงขอนแก่นก่อนตอนนี้กำลังขับรถมา ส่วนศพของหลานสาวนั้นเท่าที่ทราบมีผู้ใหญ่ใจดีและกลุ่มเพื่อนของหลานสาวจะเป็นคนรับศพกลับมาที่วัด โดยจะประกอบพิธีทางศาสนา 2 วัน และจะทำพิธีฌาปนกิจในวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้"

น.ส.ประภาพร กล่าวต่อว่า สำหรับประเด็นที่บอกว่าหลานสาวจะเกี่ยวข้องกับเงินเทรดหุ้นที่หายไปส่วนตัวไม่เชื่อว่าหลานสาวจะมีส่วนเกี่ยวข้องเพราะเรื่องเงินนั้นหลานสาวจะเป็นคนไม่ค่อยมีเงินจะขอแม่อยู่ตลอด โดยขอแม่เดือนละ 20,000 บาท ขอตนเอง 5,000 บาท แต่ก็จะบอกตนเองว่าล้อเล่น แต่ข้อเท็จจริงนั้นก็ไม่ทราบว่าจะเป็นอย่างไรต้องรอให้แม่ของใบม่อนและเพื่อนเพื่อนมานั่งคุยกันอีกครั้งว่าใบหม่อนไปอยู่ที่ปอยเปรตได้อย่างไร เพราะที่ผ่านมาไม่เคยรู้ว่าหลานสาวจะไปอยู่ที่ปอยเปรตหรือไปโผล่ที่นั่นไปแบบไหนไม่มีใครรู้รู้เพียงว่าทำงานอยู่ที่สงขลาส่วนแม่ของใบหม่อนจะทำงานที่ต่างประเทศเป็นหลัก และใบหม่อนก็บอกล่าสุดว่าทำงานเกี่ยวกับค่ายมือถือ 

"หลานสาวแม้จะเป็นคนดื้อแต่ก็ทำการทำงานและเรียนหนังสือไปด้วย ไม่เชื่อว่าหลานสาวจะไปทำงานเกี่ยวกับเทรดหุ้นหรือไปทำงานที่ปอยเปรต แต่ทั้งนี้ก็ต้องรอทางเจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนก็ปล่อยไปเป็นตามกระบวนการ ซึ่งอยากจะขอความเป็นธรรมให้กับหลานสาวอยากจะรู้ว่าหลานสาวเสียชีวิตด้วยสาเหตุใด"

ขณะที่นายศรายุทธ กล่าวว่า ทราบเรื่องหลานสาวเสียชีวิตช่วงเย็นเมื่อวานที่ผ่านมาแต่ยังไม่ได้พูดคุยอะไรกันมากเพราะต้องรอแม่ของน้องใบหม่อนเดินทางกลับมาถึงขอนแก่นก่อนแต่เบื้องต้นไม่มีใครรู้ว่าน้องใบหม่อนไปอยู่ที่ปอยเปรตได้ยังไงหรือไปกับใครทั้งตนเองทั้งป้าทั้งแม่ไม่มีใครรู้ว่า ไปแบบไหน เรื่องที่มีข้อมูลว่าหลานสาวมีส่วนเชื่อมโยงกับการเทรดหุ้นหรือเกี่ยวกับเงิน  ที่หายไปก็ไม่มีใครสร้าง เพราะไม่ค่อยได้เจอกันซึ่งตนเองอยู่ที่นี่เลี้ยงหลานสาวตั้งแต่เกิดโดยหลานสาวไปอยู่กับแม่ช่วง ม. 2 หลังจากนั้นก็ไม่ได้เจอหลานอีกเลย ส่วนตัวไม่เชื่อว่าหลานสาวจะฆ่าตัวตายจากที่เห็นภาพในข่าวก็อยากให้เจ้าหน้าที่ติดตามสาเหตุที่หลานสาวเสียชีวิตว่าเกิดจากสาเหตุใดที่แท้จริงด้วย

#ภูมิภาค-48

ข่าวแนะนำ