พิษบูลลี่"ขายหมู" พิฆาตสว.นันทนา สว.สีน้ำเงินรวมหัว "เชือดไก่" ขู่ใคร!?
พิษด้อยค่า หรือบูลลี่ “สว.” สายอาชีพ “ขายหมู” ส่งผลให้ สว. นันทนา นันทวโรภาส ถูกคณะกรรมการฯ ตีความว่าเป็นการมีอคติต่ออาชีพ ดูหมิ่นศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และทำให้เสื่อมเสียเกียรติศักดิ์ของวุฒิสภา
ผลการลงมติในสภาสูงออกมาเป็นมติท่วมท้นถึง 130 ต่อ 26 เสียง ชี้ว่าเป็นการฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรง ตามเกณฑ์ 3 ใน 5 ที่กฎหมายกำหนด
แต่บทลงโทษที่รุนแรงนี้เองที่ทำให้เกิดการตั้งคำถามตามมาอย่างหนัก!
สมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. ได้ออกมาแสดงความเห็นว่า มติ 130 เสียงนี้เป็นเรื่องที่ “เข้าใจได้ยาก” หากพิจารณาตามประมวลจริยธรรมแล้ว การกระทำของ สว. นันทนา น่าจะเข้าข่ายเพียง "การไม่ให้เกียรติ" (ข้อ 31) ซึ่งไม่ถือเป็นความผิดร้ายแรงโดยตรง
คุณสมชัย มองว่ามตินี้คือการ "ใช้วิจารณญาณทำลายฝ่ายตรงข้ามแบบมีอคติ" และตั้งข้อสังเกตถึง "มาตรฐานสองชั้น" เพราะในอดีตเคยมีเรื่องราวของ สว. ที่มีพฤติกรรมร้ายแรงกว่ามาก เช่น การล่วงละเมิดทางเพศ หรือการใช้อำนาจเอื้อประโยชน์ แต่กลับไม่มีการนำมาพิจารณาให้เป็นความผิดร้ายแรงเช่นนี้เลย
สอดคล้องกับ อาจารย์ทวิสัน โลณานุรักษ์ ที่มองว่าการลงโทษรุนแรงเพียงเพราะคำว่า "แม่ค้าขายหมู" นั้นเป็นเรื่อง "เกินกว่าเหตุ" และมติที่สูงถึง 130 เสียงนี้ สะท้อนถึงการรวมตัวกันของ "สว. สีน้ำเงิน" หรือกลุ่มอำนาจเดิม เพื่อ "เชือดไก่ให้ลิงดู" และส่งสัญญาณข่มขู่ไปยังผู้ที่เห็นต่างในสภา
ขณะที่อดีตผู้พิพากษาศาลฎีกา นายวัส ติงสมิตร แสดงความเห็นว่า การดำเนินการถอดถอนสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ด้วยเหตุผลด้านจริยธรรมอย่างร้ายแรง ควรเป็นอำนาจของ ศาลฎีกาโดยตรง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 235(1) ไม่ใช่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พร้อมทั้งชี้ว่า ข้อบังคับจริยธรรมที่วุฒิสภากำหนดเพิ่มเติมมานั้น ไม่สามารถใช้เป็นฐาน ในการถอดถอนผ่าน ป.ป.ช. ได้ หากขัดกับมาตรฐานจริยธรรมหลักที่ 6 องค์กรตามรัฐธรรมนูญกำหนด ที่สำคัญคือ ท่านได้แสดงความกังวลอย่างยิ่งต่อความล่าช้าขององค์กรอิสระในการส่งเรื่องคดีฮั้วเลือก สว. กว่า 130 คน และคดี สว. ฝักใฝ่พรรคการเมือง ให้ถึงมือศาลฎีกาและศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อวินิจฉัยตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป โดยเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการยึดหลักกฎหมายและรัฐธรรมนูญอย่างเคร่งครัดในทุกกรณี
อีกด้านหนึ่ง รศ. หริรักษ์ สูตะบุตร โพสต์ถึง อ. นันทนา นันทวโรภาส ที่ตนรู้จักตั้งแต่สมัยเป็นนักศึกษาธรรมศาสตร์ โดยระบุว่า จะไม่ขอตัดสินกรณีข่าวที่เกี่ยวข้องกับจริยธรรมของวุฒิสมาชิก แต่ขอเล่านิทานสอนใจแทน
นิทานแรกเล่าถึงบริษัทไฟฟ้าสหรัฐฯ ที่แก้ปัญหาหิมะเกาะสายไฟไม่ได้ จนกระทั่ง เลขาฯ ที่เคยเป็นพยาบาลสนาม เสนอให้ใช้เฮลิคอปเตอร์เป่า ซึ่งได้ผลดีเยี่ยม นอกจากนี้ยังยกตัวอย่างผลิตภัณฑ์ Post-it ที่มาจากพนักงานธรรมดา ข้อคิดที่ฝากไว้คือ เราไม่อาจดูแคลนความคิดสร้างสรรค์จากใครได้เลย ไม่ว่าจะมีการศึกษาสูงเพียงใดก็ตาม
ในขณะที่ สว. นันทนา กำลังถูกส่งเรื่องไปยัง ป.ป.ช. เพื่อดำเนินการไต่สวน และอาจต้องไปจบที่ศาลฎีกา ก็เกิดความเคลื่อนไหวสวนกลับที่น่าจับตาไม่แพ้กัน
มีการยื่นฟ้องร้องต่อ ศาลฎีกา ให้พิจารณาว่า สว. จำนวน 138 คน ซึ่งถูกมองว่าเป็นกลุ่มอำนาจหรือ "สว. สีน้ำเงิน" มีความผิดต่อจริยธรรมอย่างร้ายแรง และควรถูกสั่งให้ ยุติการปฏิบัติหน้าที่ หรือไม่
แต่หลายฝ่ายก็เชื่อกันว่า การเคลื่อนไหวของ สว. สำรองในการไปฟ้อง 138 สว. นั้นอาจจะเปล่าดาย เช่นหลายกรณีที่ผ่านมา
แต่กระนั้น กระบวนการ “ตอบโต้รุนแรง” ต่อ สว. นันทนาของ สว. สายสีน้ำเงิน ก็ถูกจับตาว่าจะลงเอยอย่างไร เป็นสัญญาณส่งถึงใครหรือไม่!?
หลังจากที่ สว. สายสีน้ำเงินเคยพ่ายเกมโหวตร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่ไปโหวตให้ร่างแก้ไขของพรรคเพื่อไทยตก จนพรรคเพื่อไทยไปเทคะแนนให้ร่างแก้ไขของพรรคประชาชนกลายเป็นร่างหลัก เบียดพรรคภูมิใจไทยแทน
#สว.นันทนา #สวขายหมู #มาตรฐานจริยธรรม #สวสีน้ำเงิน #สมชัยศรีสุทธิยากร #ปปช #ศาลฎีกา #การเมืองไทย








