ตำรวจภูธรภาค 5, ศปอส.ภ.5 และ บก.สส.ภ.5 เปิดปฏิบัติการบุกเข้าตรวจค้นแหล่งจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าออนไลน์ของเครือข่าย “VAPEHAUS” รวม 3 จุด ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย พร้อมยึดของกลางบุหรี่ไฟฟ้าจำนวนรวม 36,555 ชิ้น คิดเป็นมูลค่ากว่า 6.6 ล้านบาท โดยเตรียมขยายผลเพื่อจับกุมนายทุนที่อยู่เบื้องหลังต่อไป
ปฏิบัติการครั้งนี้เป็นไปตามการอำนวยการของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.), พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร., พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 (ผบช.ภ.5) พร้อมด้วยรองผู้บัญชาการฯ ได้แก่ พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน, พล.ต.ต.นพดล กรึงไกร, พล.ต.ต.ธนะรัชต์ ชุ่มสวัสดิ์, พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย, พล.ต.ต.สุทธิพงศ์ เป๊กทอง, พล.ต.ต.วรพงศ์ คำลือ และผู้บังคับการที่เกี่ยวข้อง คือ พล.ต.ต.จิตรพิสุทธิ์ อิ่มสงวน ผบก.สส.ภ.5, พล.ต.ต.ยุทธนา แก่นจันทร์ ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ รวมถึง พ.ต.อ.วชิรศักดิ์ ศรีประสม รอง ผบก.สส.ภ.5 และ พ.ต.อ.ทักษิณ จันทะวงค์ รอง ผบก.สส.ภ.5
เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจับกุมจากศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศตำรวจภูธรภาค 5 (ศปอส.ภ.5) ร่วมกับ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.ภ.5 ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา 2 ราย คือ นางสาวกบิษฎา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี ที่อยู่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ และ นางสาวกฤษณา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี ที่อยู่ อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่
ผู้ต้องหาทั้งสองถูกดำเนินคดีในฐานความผิด “ร่วมกันขายบุหรี่ไฟฟ้าโดยฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการว่าด้วยความปลอดภัยของสินค้าและบริการ ที่ 24/2567 และร่วมกันช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้ โดยประการใดซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของอันเนื่องด้วยความผิดตามมาตรา 242 พระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2560”
พร้อมกันนี้ ได้ทำการยึดของกลางสำคัญหลายรายการ ประกอบด้วย บุหรี่ไฟฟ้าชนิดต่างๆ รวม 36,555 ชิ้น (มูลค่าประมาณ 6,699,000 บาท), คอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ จำนวน 2 ชุด, โทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง, กล่องกระดาษสำหรับส่งพัสดุ กว่า 2,000 กล่อง และเร้าเตอร์ไวไฟ จำนวน 1 ตัว
ตามนโยบายของรัฐบาลโดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ที่ได้สั่งการให้ยกระดับเรื่องการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีเป็นวาระแห่งชาติ ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ได้กำหนดให้มีการระดมกวาดล้างอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในทุกมิติ ซึ่งตำรวจภูธรภาค 5 ได้สั่งการให้ทุกหน่วยในสังกัดดำเนินการปราบปรามอย่างเข้มข้นทันที
ในกรณีนี้ ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ ตำรวจภูธรภาค 5 (ศปอส.ภ.5) ร่วมกับ บก.สส.ภ.5 ได้ทำการสืบสวนจนทราบว่ามีกลุ่มบุคคลลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าผ่านเว็บไซต์ ชื่อ “vapehaus URL: https://vapehaus.net” โดยมีรูปแบบการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์และจัดส่งทางขนส่งถึงบ้าน จึงได้สืบสวนจนทราบว่ากลุ่มลักลอบจำหน่ายดังกล่าวมีสถานที่ตั้งของการกระทำความผิดจำนวน 3 จุด คือ ในพื้นที่ อ.เมืองเชียงใหม่ 1 จุด และ อ.หางดง จ.เชียงใหม่ 2 จุด จึงได้รวบรวมข้อมูลและขออนุมัติศาลเพื่อทำการตรวจค้น
ต่อมาเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2567 เวลาประมาณ 10.00 น. เจ้าหน้าที่ได้เข้าทำการตรวจค้นสถานที่ซึ่งจัดให้เป็นที่ซุกซ่อนบุหรี่ไฟฟ้าและสถานที่แบ่งบรรจุเพื่อส่งทางไปรษณีย์ จำนวน 3 จุด โดยเปิดปฏิบัติการตรวจค้นจับกุมพร้อมกันดังนี้:
จุดที่ 1: บริเวณหมู่บ้านกุลพันธ์วิลล์ 3 ต.แม่เหียะ อ.เมืองเชียงใหม่ ยึดของกลางบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 546 ชิ้น
จุดที่ 2: บริเวณหมู่บ้านกาญจน์กนกวิลล์ 10 ต.สันผักหวาน อ.หางดง ยึดของกลางบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 3,828 ชิ้น
จุดที่ 3: บริเวณหมู่บ้านสมหวัง ต.สันผักหวาน อ.หางดง ยึดของกลางบุหรี่ไฟฟ้าจำนวน 33,181 ชิ้น
รวมของกลางบุหรี่ไฟฟ้าทั้งสิ้น 36,555 ชิ้น คิดเป็นมูลค่าประมาณ 6,699,000 บาท
จากการสอบปากคำ ผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ให้การว่าทำหน้าที่เป็นพนักงานบรรจุบุหรี่ไฟฟ้าและจัดส่งสินค้าทางไปรษณีย์ให้ลูกค้า โดยจะทำงานในช่วงเวลากลางคืนและจัดส่งสินค้าในช่วงเช้า ได้รับค่าตอบแทนเป็นเงินเดือน เดือนละ 16,000 บาท นอกจากนี้ยังพบว่ามีการติดต่อสั่งซื้อสินค้าผ่านไลน์แอดถึง 3 บัญชี ซึ่งมีสมาชิกรวมกันกว่า 18,000 คน จากการตรวจสอบระบบการซื้อขายพบว่ามีเงินหมุนเวียนประมาณ 30 ล้านบาทต่อปี ทางชุดจับกุมจึงอยู่ระหว่างขยายผลเส้นทางทางการเงิน ที่มาของบุหรี่ไฟฟ้า และผู้รับผลประโยชน์ตลอดจนนายทุนที่อยู่เบื้องหลังการกระทำความผิดต่อไป
#บุหรี่ไฟฟ้า #VAPEHAUS #ตำรวจภาค5 #ปราบปรามอาชญากรรมเทคโนโลยี #ยึดบุหรี่ไฟฟ้า #เชียงใหม่ #บุหรี่ไฟฟ้าออนไลน์ #Vape #ปราบปราม








