ข่าวภูมิภาค

อย่าทิ้งปัญหา! "สมศักดิ์"ถกผู้นำท้องถิ่น ย้ำป่าคือที่เบรกน้ำหายไป สั่งศึกษา "ทางระบายน้ำใหม่"

แชร์ข่าว

“สมศักดิ์” ไม่ทิ้งปัญหาน้ำท่วมสุโขทัย ลุยถกผู้นำท้องถิ่น เดินหน้าแก้ปัญหาเต็มที่ ชี้ปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นทุกปี เหตุตัดไม้ทำลายป่าส่งผลไม่มีที่เบรกน้ำในพื้นที่วอเตอร์เฉด พร้อมทำให้น้ำไหลท่วมแม่น้ำยมเพิ่มขึ้นทุกปี กำชับ เร่งแก้ปัญหาก่อสร้างระดับน้ำไม่เท่ากัน-ขอหน่วยงานเกี่ยวข้อง ศึกษาเชื่อมทางระบายน้ำเพิ่ม

วันที่ 26 ต.ค.2568 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นางพรรณสิริ กุลนาถศิริ สส.สุโขทัย พรรคเพื่อไทย น.ส.ณัฐธิดา เทพสุทิน นายจรูญ สนทิม นายกองค์การบริหารส่วนตำบลสามเรือน นายสมพงษ์ รักแย้ม นายกองค์การบริหารส่วนตำบลวังลึก นายไพโรจน์ คชนิล เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุโขทัย นายตวงสิทธิ์ นทีประสิทธิพร นายช่างชลประทานชำนาญงาน โครงการก่อสร้าง สำนักงานชลประทานที่ 4 และผู้นำท้องถิ่น ได้ประชุมติดตามการแก้ปัญหาน้ำท่วมจังหวัดสุโขทัย ที่องค์การบริหารส่วนตำบลสามเรือน อำเภอศรีสำโรง จังหวัดสุโขทัย

โดยนายสมศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ ตนกำลังขับเคลื่อนการแก้ปัญหาแม่น้ำยมฝั่งขวาเพิ่ม เนื่องจากน้ำที่ไหลมายังแม่น้ำยม มีจำนวนกว่า 1,500 ลบ.ม./วินาที ซึ่งเกินกว่าที่แม่น้ำยมจะรับไหว โดยแม่น้ำยมที่เมืองสุโขทัย สามารถรับน้ำได้ไม่เกิน 600 ลบ.ม./วินาที เท่านั้น เราทำยม-น่านเพื่อขยายการผันน้ำอีก 350-500 ลบ.ม./วินาที ทำให้ระบบชลประทานสุโขทัยรับน้ำได้ประมาณ 1,000-1,150 ลบ.ม./วินาที ซึ่งในปีนี้เราทำได้แค่เสริมกำแพงกันน้ำให้สูงขึ้น แต่ปัญหาคือ ถ้าจุดไหนพัง น้ำก็จะไหลเข้าท่วมอย่างรวดเร็ว ดังนั้น เราต้องช่วยกันคิดแก้ปัญหาอย่างต่อเนื่อง เพราะน้ำมาเพิ่มขึ้นทุกปีและการแก้ปัญหาระยะยาว อาจต้องใช้เวลากว่า 10 ปี

“สาเหตุที่น้ำมามากขึ้นทุกปี ผมก็ขอให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งศึกษาอย่างจริงจังด้วย ตั้งแต่สมัยที่ผมเป็น รมว.เกษตรฯ ในปี 2546 น้ำไหลมายังแม่น้ำยม 1,100 ลบ.ม./วินาที เราทำโครงการยมฝั่งซ้าย แต่ปัจจุบันน้ำไหลมายังแม่น้ำยมถึง 1,700 ลบ.ม./ วินาที ซึ่งสาเหตุที่น้ำไหลมายังแม่น้ำยมเพิ่มขึ้นทุกปีนั้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะป่าไม้ถูกทำลาย ผ่านมากว่า 20 ปี มีคนตัดไม้ในพื้นที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ป่าไม้ที่รับน้ำและเบรกน้ำ จึงทำให้น้ำไหลลงแม่น้ำยมอย่างรวดเร็ว สุโขทัยมีสภาพเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำหรือเป็นวอเตอร์เฉดแอเรีย จึงเป็นแหล่งรับน้ำของลุ่มน้ำยมมากที่สุด ดังนั้น ถ้าเรามีป่า เวลาฝนตกก็จะผ่านการดูดซึมลงดินไปจำนวนมากแล้วในอดีตปัญหาน้ำท่วมจึงไม่รุนแรงเท่าปัจจุบัน ซึ่งวันข้างหน้าเราก็ต้องคิดถึงในเรื่องป่าด้วย” นายสมศักดิ์ กล่าว

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนวันนี้ ตนมาติดตามเรื่องสายเก่าหรือทางด้านยมฝั่งซ้าย ซึ่งสิ่งที่เราต้องการ คือ ให้มีน้ำใช้เพื่อการเกษตร ในอำเภอศรีสำโรง และอำเภอกงไกรลาศ ให้พืชไร่นา มีความอุดมสมบูรณ์ โดยจะทำอย่างไรให้มีน้ำตลอด ซึ่งจากการติดตาม พบว่า การก่อสร้างในอดีตยังไม่สมบูรณ์และมีปัญหาเรื่องระดับน้ำปลายทางสูง ทำให้น้ำไม่สามารถไหลมาได้ทั้งหมด ดังนั้น ต้องเร่งปรับปรุงแก้ไขให้น้ำมีระดับเดียวกัน จะได้ใช้น้ำได้สมบูรณ์มากขึ้น โดยปัญหานี้ในงบประมาณปี 2569 จะมีการทำสะพานเพื่อให้ระดับน้ำสามารถไหลผ่านมายังตำบลสามเรือนได้ จากเดิมน้ำมาไม่ได้ เนื่องจากเป็นท่อลอย ดังนั้น ขอให้เร่งดำเนินการอย่างเต็มที่ น้ำจะได้ไหลลงมาเต็มประสิทธิภาพ

จากนั้น นายสมศักดิ์ พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่ติดตามเส้นทางระบายน้ำในพื้นที่ตำบลสามเรือน ตำบลวังลึก ซึ่งได้ไปศึกษาดูพื้นที่สร้างทางระบายน้ำเพิ่มด้วย โดยมอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำแผนศึกษาและคำนวนเส้นทางน้ำ เพื่อให้เส้นทางน้ำ สามารถเชื่อมต่อกันได้เพิ่ม จะทำให้เกษตรกรได้ประโยชน์ในการใช้น้ำ รวมถึงลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการก่อสร้างประตูระบายน้ำคลองด่าน อ.กงไกรลาศ ที่จะช่วยการระบายน้ำให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

ข่าวแนะนำ