วันนี้ (26 ตุลาคม 2568) เวลา 17.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินในการพระราชพิธีถวายน้ำสรงพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ พระที่นั่งพิมานรัตยา ในพระบรมมหาราชวัง โดยมีการอัญเชิญพระบรมศพลงสู่พระหีบ ทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์เชิญไปประดิษฐานหลังพระแท่นสุวรรณเบญจดล ประกอบพระโกศทองใหญ่ ภายใต้พระเศวตฉัตร 9 ชั้น ณ มุขตะวันตกพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท แวดล้อมด้วยเครื่องสูงหักทองขวาง มีชุมสายฉัตร 5 ชั้น บังแทรกฉัตร 7 ชั้น ต้นไม้
ทองเงิน อันเป็นพระเกียรติยศสูงสุดตามราชประเพณี
ในการนี้ กองทัพบก โดยกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 1 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 1 รักษาพระองค์ ได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ทำการยิงสลุตหลวงถวายพระเกียรติ ด้วยปืนใหญ่เบากระสุนวิถีราบ แบบ 80 ขนาด 75 มิลลิเมตร จำนวน 4 กระบอก บริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวงฝั่งทิศเหนือ โดยมีทิศทางยิงฝั่งศาลฎีกา ทำการยิงถวายนาทีละ 1 นัด เริ่มตั้งแต่ขณะเริ่มถวายน้ำสรงพระบรมศพ และหยุดยิงเมื่อพระโกศพระบรมศพอัญเชิญขึ้นประดิษฐานเหนือพระแท่นสุวรรณเบญจดล
โดยในพิธีถวายน้ำสรงพระบรมศพ เจ้าพนักงานประโคมสังข์ แตรงอน แตรฝรั่ง ปี่กลองชนะปี่พาทย์ ทหารกองเกียรติยศพระบรมศพถวายความเคารพ ดุริยางค์เริ่มบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี พร้อมกับทหารปืนใหญ่เริ่มยิงสลุตหลวงถวายพระเกียรติ โดยยิงนาทีละ 1 นัดอย่างต่อเนื่อง เริ่มเวลา 17.42 น. จากนั้นทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์เชิญพระหีบพระบรมศพขึ้นประดิษฐานบนพระแท่นแว่นฟ้าทอง พระตำรวจหลวงคลุมผ้าเยียรบับบนพระหีบพระบรมศพ ทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์คลุมพระหีบพระบรมศพและเชิญไปประดิษฐานหลังพระแท่นสุวรรณเบญจดล ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท เรียบร้อยแล้ว ปืนใหญ่จึงหยุดยิงในเวลา 18.07 น. รวมระยะเวลาทั้งสิ้น 25 นาที จำนวน 25 นัด
การยิงสลุตหลวงถวายพระเกียรติในครั้งนี้ เป็นไปตามขัตติยะราชประเพณี เพื่อถวายพระเกียรติแด่พระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง อันแสดงถึงความจงรักภักดีสูงสุด และน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้








