“พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์มหาราชินี” องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ(อพวช.) พระมหากรุณาธิคุณ “พระพันปีหลวง” ที่จะสถิตในดวงใจนิรันดร์ NSM ย้ำสืบสานพระราชปณิธานNSM น้อมรำลึก "พระพันปีหลวง" ผู้พระราชทาน "พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์มหาราชินี" สืบสานพระราชปณิธานในการใช้หลักการทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อสร้างสังคมแห่งปัญญา ร่วมพัฒนาประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืน
เมื่อวันที่ 25 ต.ค.นายสุวรงค์ วงษ์ศิริ รักษาการแทน ผู้อำนวยการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาตร์แห่งชาติ (อพวช.) หรือ NSM กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม(อว.) เปิดเผยว่า อพวช. หรือ NSM ขอน้อมเกล้าฯ ถวายความอาลัยและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ผู้ทรงเป็นดั่ง "พระแม่แห่งแผ่นดิน" ผู้ทรงอุทิศพระวรกายเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของพสกนิกรชาวไทยตราบจนเสด็จสวรรคต พระราชกรณียกิจของพระองค์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คือรากฐานอันมั่นคงและเป็นแก่นแท้ในการก่อตั้งและดำเนินงานของ อพวช. หรือ NSM จวบจนปัจจุบันนี้ การถือกำเนิดของ อพวช.มีที่มาจากพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านอย่างแท้จริง
นายสุวรงค์ กล่าวต่อว่า โครงการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ เริ่มต้นขึ้นในปี 2535 ในวาระมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ โดยรัฐบาลในขณะนั้นได้ดำเนินโครงการเพื่อเฉลิมพระเกียรติที่ทรงเป็นผู้นำในการใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อพัฒนาอาชีพ ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ และอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมของไทยในท้องถิ่นชนบทที่ห่างไกล ต่อมาในปี 2538 คณะรัฐมนตรี (ครม.) จึงมีมติให้จัดตั้ง “องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.)” ขึ้น เพื่อเป็นหน่วยงานบริหารจัดการพิพิธภัณฑ์ มีฐานะเป็นรัฐวิสาหกิจ สังกัดกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ
เมื่อการก่อสร้างอาคารพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แล้วเสร็จ ณ เทคโนธานี ต.คลองห้า อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่ออาคารว่า “อาคารพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์มหาราชินี” อาคารแห่งนี้เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2543 โดยมีเอกลักษณ์ทางสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น ด้วยรูปทรงลูกบาศก์ 3 ลูกเชื่อมติดกัน สะท้อนถึงความก้าวหน้าทางวิศวกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่ เป็นการสร้างภาพพจน์ใหม่ของพิพิธภัณฑ์ให้มีความทันสมัยและดึงดูดใจ
“ด้วยพระวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลของสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ไม่เพียงแต่ส่งเสริมความก้าวหน้าทางวัตถุเท่านั้น แต่ยังทรงเน้นย้ำถึงความสำคัญของการพัฒนาจิตใจควบคู่กันไป ดังพระราชดำรัสเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2524 ใจความว่า...เมื่อย่างก้าวเข้าไปตามพิพิธภัณฑ์ไปดูพิพิธภัณฑ์ของเขา จะเห็นได้ว่า รัฐบาลจะทุ่มเทเงินทองเป็นจำนวนมากในการจะอบรมและการให้การศึกษาแก่ประชาชนตั้งแต่เด็ก ๆ ไปพิพิธภัณฑ์ของเขาเข้าไปแล้วน่าดูเหลือเกิน ทั้งในด้านตั้งแต่ของโบราณมา ประวัติศาสตร์ จนกระทั่งถึงยุคปัจจุบัน การเจริญทางด้านวัตถุต่าง ๆ ทางเทคโนโลยีต่าง ๆ ทางไฟฟ้า เครื่องไฟฟ้า เครื่องจักรยนต์ต่าง ๆ แต่ที่สำคัญเขาจะแทรกศีลธรรมไปทุกหนทุกแห่ง แม้กระทั่งใน Museum ที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ เขาจะให้เห็นว่าถ้าแม้จะเอาแต่ความเจริญทางด้านวัตถุแล้ว คนจะเสื่อมลง จะเกิดความโลภ เพราะฉะนั้นแล้วเขาจะให้ความเจริญทางด้านจิตใจนี้ควบคู่กันไปตลอด”
นายสุวรงค์ กล่าวอีกว่า พระราชดำริอันลึกซึ้งนี้ คือพันธกิจสำคัญที่ อพวช.หรือ NSM ดำเนินการสร้างสรรค์นิทรรศการและกิจกรรม เพื่อปลูกฝังเยาวชนให้เติบโตเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพ ควบคู่ไปกับความรู้ความสามารถทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดย NSM ได้น้อมนำพระราชกรณียกิจของพระองค์มาจัดแสดงเพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ให้เป็นรูปธรรมแก่ประชาชนในพิพิธภัณฑ์ ดังนี้
“พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์มหาราชินี” ชั้น 6 นำเสนอเทคโนโลยีภูมิปัญญาไทย จัดแสดงเทิดพระเกียรติที่เชื่อมโยงวิทยาศาสตร์กับศิลปวัฒนธรรม โดยเฉพาะการนำเสนอ เทคโนโลยีการทอผ้าไหม ซึ่งเป็นผลจากการวิจัยทาง วัสดุศาสตร์ เคมี (การย้อม) และชีววิทยา (การเลี้ยงไหม) สะท้อนบทบาทสำคัญของพระองค์ในการเป็นผู้นำด้านศิลปาชีพที่ประยุกต์ใช้ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเพื่อสร้างอาชีพและยกระดับชีวิตของประชาชน
พิพิธภัณฑ์พระรามเก้า นิทรรศการดิน (THAILAND ECOSYSTEM SERVICE : SOIL): นำเสนอการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับคุณสมบัติของดินและการบริหารจัดการดินอย่างยั่งยืน โดยมีการจำลองการใช้ หญ้าแฝก ตามแนวพระราชดำริ เพื่อชะลอการไหลของน้ำและป้องกันการชะล้างพังทลายของหน้าดิน ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเชิงอนุรักษ์
นิทรรศการน้ำ (THAILAND ECOSYSTEM SERVICE : WATER): นำเสนอวัฏจักรของน้ำ การใช้ประโยชน์จากน้ำ และแนวคิดวิธีบริหารจัดการน้ำของประเทศไทย ซึ่งเป็นงานที่พระองค์ทรงให้ความสำคัญอย่างยิ่งในการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
“นิทรรศการเหล่านี้เป็นเครื่องยืนยันว่า พระราชปณิธานของพระองค์ได้เปลี่ยนจากแนวคิดนามธรรมให้กลายเป็นองค์ความรู้ที่จับต้องได้ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและพัฒนาทักษะด้านวิทยาศาสตร์ให้แก่คนไทยทั้งประเทศ สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ที่สำคัญตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงเป็น "น้ำ" และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเป็น "ป่า" ที่คอยโอบอุ้มและสร้างความยั่งยืนให้กับแผ่นดินไทย ภารกิจของ NSM จึงเป็นการสืบสานมรดกทางปัญญาของทั้งสองพระองค์อย่างต่อเนื่อง” รักษาการ ผอ.อพวช.กล่าวและว่า
ข้าพระพุทธเจ้า คณะผู้บริหาร พนักงาน และลูกจ้าง NSM ขอน้อมกราบถวายบังคมลา และขอพระราชทานพระราชานุญาตตั้งปณิธานที่จะมุ่งมั่นสืบสานพระราชปณิธานอันยิ่งใหญ่ในการใช้หลักการทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อสร้างสังคมแห่งปัญญา และร่วมพัฒนาประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืนสืบไป
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ







