เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2568 ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองนครนายก (สภ.เมืองนครนายก) นางสาวกาวิน สึนวน อายุ 57 ปี ชาวจังหวัดสระบุรี ได้เดินทางเข้าพบ พันตำรวจตรีประครอง ชัยมูล พนักงานสอบสวน เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ โดยเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2568 เวลาประมาณ 16.30 น. ขณะที่หลานชายคือ เด็กชายณัฐพัชร์ ศรีสวัสดิ์ อายุ 6 ปี กำลังอยู่ในบริเวณหอพักของวังรีรีสอร์ท ตำบลเขาพระ อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก ได้มีสุนัขพันธุ์ไทยจำนวน 2 ตัว วิ่งเข้ามา และมีสุนัขตัวหนึ่งในจำนวนนั้นได้เข้ากัดทำร้ายหลานชายจนได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะและลำตัว
หลังเกิดเหตุ ชาวบ้านได้ช่วยกันนำ เด็กชายณัฐพัชร์ ส่งโรงพยาบาลนครนายก โดยแพทย์ได้ออกใบรับรองการเจ็บป่วยระบุว่า หลานชายมีประวัติถูกสุนัขกัดที่ศีรษะและแขนขวา และจากการวินิจฉัยเบื้องต้นพบว่ามีบาดแผลฉีกขาดตามร่างกายและที่ศีรษะข้างซ้าย จึงต้องทำการรักษาด้วยการ เย็บแผลบริเวณศีรษะไปถึง 7 เข็ม
นางสาวกาวิน เล่าต่อว่า หลังจากรักษาเสร็จ ได้มีการเจรจากับเจ้าของสุนัขเพื่อขอรับผิดชอบเรื่องค่าใช้จ่ายและค่าทำขวัญ แต่ทางเจ้าของสุนัขกลับกล่าวว่า "แล้วทำไมไม่ดูแลเด็ก ปล่อยให้เด็กออกมาเล่นคนเดียวข้างนอกทำไม" และเสนอให้เงินช่วยเหลือเพียง 4,000 บาท พร้อมท้าว่า "ถ้าอยากได้มากกว่านั้นให้ไปฟ้องเอา" ทั้งที่บริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ส่วนกลางสำหรับการออกกำลังกาย เมื่อเห็นว่าเจ้าของสุนัขไม่แสดงความรับผิดชอบและปฏิเสธที่จะเยียวยาอย่างสมเหตุสมผล นางสาวกาวิน จึงตัดสินใจเดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนในวันที่ 23 ตุลาคม 2568 เวลา 19.09 น. เพื่อให้ดำเนินคดีตามกฎหมายกับเจ้าของสุนัขจนกว่าคดีจะถึงที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมถึงข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ในกรณีที่เจ้าของปล่อยปละละเลยสุนัขจนไปทำอันตรายผู้อื่นหรือทรัพย์สิน โดยไม่มีการควบคุมดูแลจนเกิดความเสียหาย เจ้าของสุนัขย่อมมีความผิดตามกฎหมายได้ทั้งทางอาญาและทางแพ่ง
ความผิดทางอาญา: ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 377 กำหนดว่า ผู้ใดควบคุมสัตว์ดุร้าย ปล่อยปละละเลยให้สัตว์นั้นอยู่ลำพัง ในลักษณะที่อาจทำอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นอกจากนี้ หากการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตราย อาจมีความผิดตามมาตราอื่น ๆ ที่มีโทษหนักขึ้น เช่น มาตรา 390 ทำร้ายผู้อื่นไม่ถึงกับเป็นอันตรายแก่กายหรือจิตใจ โทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือ มาตรา 300 ทำร้ายผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส โทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (และมาตรา 291 ในกรณีประมาทเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย)
ความรับผิดทางแพ่ง (ชดใช้ค่าเสียหาย): ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 433 ระบุว่า ถ้าความเสียหายเกิดขึ้นเพราะสัตว์ เจ้าของสัตว์ หรือบุคคลผู้รับเลี้ยง ต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้เสียหาย เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าตนได้ใช้ความระมัดระวังอันสมควรแล้ว หรือความเสียหายนั้นเกิดจากความผิดของผู้เสียหายเอง
กฎหมายคุ้มครองสวัสดิภาพสัตว์: ตามพระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. 2557 มาตรา 23 ห้ามมิให้เจ้าของสัตว์ปล่อย ละทิ้ง หรือกระทำการใด ๆ ให้สัตว์พ้นจากการดูแลของตนโดยไม่มีเหตุอันสมควร หากฝ่าฝืนอาจมีโทษปรับไม่เกิน 40,000 บาท ตามมาตรา 32








