นักวิชาการจี้รัฐบาลไทยออก “แอคชั่น” ด่วนแก้ปัญหาแหล่งอาชญากรรมเมียวดี หลังเหยื่อ-สแกมเมอร์ KK ปาร์คทะลักเข้าไทย แนะ 4 ข้อเร่งระดมสมองสร้างยุทธศาสตร์ชัดเจน เลิกเลี้ยงไข้
เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2568 ผศ.ดร.ลลิตา หาญวงศ์ อาจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เปิดเผยว่าปัญหาชายแดนไทยด้านแม่สอด–เมียวดี ซึ่งเหยื่อและเหล่าสแกมเมอร์นับพันที่หนีจาก KK ปาร์คเข้ามาฝั่งไทย หากไม่เปลี่ยนวิธีคิดทั้งระบบ การแก้ไขก็จะเป็นเพียงการปะผุไปเรื่อย ๆ โดยปัญหามีอยู่ 3 จุดใหญ่ คือ 1. หน่วยงานความมั่นคงทำงานไม่สอดคล้องกัน ทั้งที่บางหน่วยงานทำงานจริง แต่บางหน่วยงานปล่อยปละ เพราะหากปราบแหล่งสแกมเมอร์จริงให้ถึงแก่น ก็จะไปขัดผลประโยชน์ของบางฝ่าย และส่งผลกระทบต่อ KPI (ตัวชี้วัดความสำเร็จ) ของพวกเขา
ผศ.ดร.ลลิตากล่าวว่า 2. หน่วยงานราชการแบบไทย ๆ มองทุกอย่างเป็นเส้นตรง ยกตัวอย่างเมื่อมีการนำเข้าสตาร์ลิงค์ไปฝั่งเมียวดี ศุลกากรพบอุปกรณ์จำนวนมากแต่ก็ปล่อยผ่าน เพราะถือเป็นสินค้าข้ามแดน เมื่อปลายทางยืนยันว่าเป็นสินค้าถูกต้อง ก็ไม่มีสิทธิ์จะหยุดยั้งไม่ให้ข้ามไปฝั่งพม่า 3. เมื่อคนที่จะไปทำงานฝั่งเมียวดีผ่านตรวจคนเข้าเมืองตั้งแต่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยมีพาสปอร์ตถูกกฎหมาย เจ้าหน้าที่รัฐจึงไม่อาจดำเนินการได้ เพราะ “เขาไม่ได้ทำความผิด” จะจับได้ก็ต่อเมื่อเห็นข้ามแม่น้ำเมยกลับมา แม้จะข้ามไปฝั่งเมียวดีด้วยเรือหรือว่ายน้ำก็ไม่ผิด เนื่องจากมีพาสปอร์ตและวีซ่าถูกต้อง ระยะหลังแม้มีมาตรการคัดกรองเข้มขึ้น แต่ยังพบว่ามีคนจีนและชาวแอฟริกันจำนวนหนึ่งพยายามเดินทางไปทำงานในฝั่งเมียวดี
นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ผู้นี้เสนอแนวทางแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน 4 ข้อ ได้แก่ 1. การคัดกรองต้องเข้มข้น หากพบผู้ต้องสงสัยจะไปทำงานใน KK Park หรือ ชเวโก๊กโก เจ้าหน้าที่ต้องไม่อนุญาตให้เดินทางไป แม้จะมีเอกสารถูกต้องก็ตาม 2. ต้องทำ “ทำเนียบกำลังรบ” (inventory) จัดทำ mapping คนไทยเทา ๆ ที่สนับสนุนสแกมเซ็นเตอร์ฝั่งพม่า เพราะคนในพื้นที่แม่สอดย่อมเข้าใจพลวัตชายแดนดีที่สุด 3. ไทยต้องมียุทธศาสตร์ด้านพม่าที่ชัดเจน ระดมสมองผู้รู้เพื่อสร้าง leverage (อำนาจต่อรอง) กับกลุ่มผู้นำกะเหรี่ยง ไม่ใช่ปล่อยให้ไทยตกเป็นฝ่ายรองเสมอ และ 4. ต้องหารือกับรัฐบาลจีนอย่างจริงจัง เพื่อนำตัว “จีนเทา” ในเมียวดีกลับประเทศ
ผศ.ดร.ลลิตาเตือนว่า หากรัฐบาลไทยไม่เร่งวางนโยบายรับมือการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในพม่า อิทธิพลจีนจะยิ่งเข้ามาใกล้ชายแดนไทยมากขึ้น พร้อมย้ำว่าชายแดนตะวันตกที่รัฐไทยมองว่าเป็น “หลังบ้าน” กำลังถูกจีนแทรกซึม และไทยต้องมี “แอคชั่น” ที่รวดเร็วและเด็ดขาด เพื่อแสดงบทบาทในภูมิภาคในการปราบปรามสแกมเซ็นเตอร์ทั้งในพม่าและกัมพูชา
ขณะเดียวกัน กองทัพเมียนมาแถลงว่าเมื่อวันที่ 19 ตุลาคมที่ผ่านมา ได้เข้ากวาดล้างพื้นที่ KK Park ซึ่งเป็นแหล่งดำเนินธุรกิจหลอกลวงออนไลน์และการพนันผิดกฎหมาย ยึดดาวเทียม Starlink 30 ชุด พบสิ่งปลูกสร้างกว่า 270 แห่ง และคนงานรวม 2,198 คน พร้อมจับกุมชาวต่างชาติ 118 คน ซึ่งอยู่ระหว่างตรวจสอบเพื่อส่งกลับประเทศต้นทาง
รัฐบาลเมียนมายังได้ออกคำสั่งห้ามประชาชนเกี่ยวข้องกับธุรกิจผิดกฎหมาย และประกาศความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านและองค์กรระหว่างประเทศในการติดตาม จับกุม และดำเนินคดีต่อผู้เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมออนไลน์อย่างเด็ดขาด
#KKPark #เมียวดี #สแกมเมอร์ #ชายแดนไทยพม่า #นักวิชาการเตือนรัฐบาล #ข่าวร้อนวันนี้ #Siamrath








