วันที่ 24 ตุลาคม 2568 นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือกัน จอมพลัง พร้อมด้วย นางสาวกาญจนา สถาวร หรือ อีฟ ประธานมูลนิธิกัน จอมพลัง ช่วยสู้ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันจัดงานแถลงข่าว ชี้แจ้งข้อมูลประเด็นเงินบริจาคของมูลนิธิเพื่อความโปร่งใส ที่โรงแรมอัศวิน แกรนด์ คอนเวนชั่น ห้องพระเอราวัณ 2 ชั้น 2
นายกัน จอมพลัง ชี้แจงถึงประเด็นความโปร่งใสและการดำเนินงานของมูลนิธิกัน จอมพลัง ช่วยสู้ โดยได้มีการเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับสถานะทางการเงินและภารกิจที่ผ่านมา โดยยอดรวมที่ยังคงค้างจ่ายขณะนี้อยู่ที่ 94,450,000 บาท และยอดที่ยังติดลบอยู่โดยประมาณอยู่ที่ 4-5 ล้านบาท ซึ่งยอดรวมนี้ยังไม่รวมในส่วนของค่าก่อสร้างมูลนิธิอีกด้วย การดำเนินงานของมูลนิธิได้มาจากการขอความอนุเคราะห์จากหน่วยงานต่าง ๆ และมีภารกิจที่ดำเนินการไปแล้วหลายโครงการ เช่น การสร้างโรงเรียน โรงพยาบาลของทหารและตำรวจ การสร้างฐานบัญชาการ การจัดหาไฟฟ้า ห้องน้ำ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงอุปกรณ์ทางทหาร การสร้างสะพาน สร้างกระเช้า และการสร้างถนนหลายเส้น
ระหว่างการชี้แจง นางสาวรักชนก ศรีนอก ส.ส.พรรคประชาชน และนายณวัฒน์ อิสรไกรศีล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ได้เข้าร่วมฟังการแถลงด้วย โดยนางสาวรักชนก มีประเด็นหลักที่หยิบยกขึ้นมาคือความโปร่งใสและการเป็นเครื่องมือทางการเมือง ซึ่งมีการตั้งข้อสังเกตว่า นายกัน จอมพลัง กำลังใช้กระแสความนิยมที่สูงขึ้นเพื่อสนับสนุนกลุ่มการเมืองกลุ่มก้อนใดหรือไม่ และกำลังเป็นเครื่องมือในการปฏิบัติการทางการเมืองของพรรคกล้าธรรมหรือของ คุณธรรมนัส เองหรือไม่ ขณะที่ นายกัน ยืนยันว่า ตนเองสนิทสนมกับ คุณธรรมนัส เหมือนที่สนิทกับทุกคนที่ช่วยสังคม และไม่ได้เป็นเครื่องมือทางการเมืองให้ใคร และพร้อมช่วยเหลือทุกคนที่ต้องการช่วยเหลือสังคม นอกจากนี้ ยังมีการตั้งคำถามถึงกรณีที่ นายกัน ไปขึ้นเวทีหรือสนับสนุนคุณธรรมนัส และถูกมองว่ากำลังโจมตีนักการเมืองบางราย อาทิ คุณรังสิมันต์ โรม ส.ส.พรรคประชาชน ซึ่ง นายกัน ชี้แจงว่า ตนเองเพียงแค่ต้องการสะท้อนความจริงว่าหากนักการเมืองได้พูดแล้วก็ควรต้องทำจริงจัง โดยยกตัวอย่างกรณีการติดกล้องวงจรปิดชายแดนที่ คุณรังสิมันต์ โรม ได้พูดถึง แต่สุดท้ายมูลนิธิกันจอมพลังช่วยสู้เป็นผู้ดำเนินการติดตั้งแทน
ด้านนายณวัฒน์ เน้นย้ำถึงประเด็นด้านการบริหารมูลนิธิ ได้มีการตั้งคำถามอย่างรุนแรงจากผู้บริจาคถึงความไม่ชัดเจนเกี่ยวกับผู้มีอำนาจและประธานมูลนิธิ โดย นางสาวอีฟ ซึ่งเป็นประธานมูลนิธิ ถูกตั้งคำถามว่า เหตุใดจึงไม่เปิดตัวต่อสาธารณะและสื่อมวลชนให้ชัดเจนตั้งแต่แรก เนื่องจากผู้บริจาคส่วนใหญ่เข้าใจว่า นายกัน คือผู้มีอำนาจเต็ม นางสาวอีฟ ชี้แจงว่า ตนไม่ได้ปิดบัง และใช้ตำแหน่งประธานมูลนิธิในการไปเป็นวิทยากร แต่ไม่ได้มีการประกาศผ่านสื่ออย่างเป็นทางการ เพราะการประกาศในราชกิจจานุเบกษาถือว่าให้ทราบโดยทั่วกันตามกฎหมายแล้ว ทั้งนี้ นางสาวอีฟ ยืนยันว่า ตนเองมีสถานะเป็นอาสาสมัครคนหนึ่ง และการใช้จ่ายเงินทั้งหมดต้องเกิดจากมติร่วมกัน โดยเธอและบุคคลอื่นอีก 1 คน คือผู้มีอำนาจเซ็นจ่ายเงิน
นายณวัฒน์ กล่าวว่า จากความรู้สึกไม่สบายใจและความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ผู้บริจาคสามารถเรียกร้องขอเงินบริจาคคืนได้หรือไม่ เนื่องจากผู้บริจาคทราบข้อมูลไม่ครบถ้วนว่าประธานมูลนิธิคือใคร โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีการโอนทรัพย์สินให้แก่มูลนิธิของคุณธรรมนัส ตามข้อ 39 นางสาวอีฟ ในฐานะประธานมูลนิธิ ตอบว่าไม่สามารถตอบได้ทันทีว่าจะสามารถคืนเงินได้หรือไม่ เนื่องจากต้องปรึกษาทนายความก่อน เพื่อตรวจสอบตามหลักกฎหมายว่าเงินเหล่านั้นได้บรรลุวัตถุประสงค์ของผู้บริจาคและถูกนำไปใช้แล้วหรือไม่ พร้อมขอเวลาในการให้คำตอบที่ชัดเจนภายในวันจันทร์
นอกจากนี้ นายณวัฒน์ยังมีการตั้งคำถามเกี่ยวกับการใช้เฮลิคอปเตอร์จากหน่วยงานราชการ ซึ่งนายกัน ชี้แจงว่า เป็นการประสานงานกับหลายหน่วยงาน เช่น กรมฝนหลวงและ ปภ. ในภารกิจภัยพิบัติเพื่อช่วยเหลือชาวบ้านที่อดข้าวและเข้าไม่ถึงพื้นที่ โดยยืนยันว่าการใช้เครื่องบินนี้ไม่ได้เป็นอภิสิทธิ์ส่วนตัว แต่สื่อมวลชน สส. และ สว. ก็มีการประสานใช้เครื่องในภารกิจที่คล้ายกัน
เพื่อยุติปัญหาและพิสูจน์ความโปร่งใส นายกัน ได้ประกาศแนวทางการแก้ปัญหาในทันที โดยวันนี้จะเดินทางไปที่กระทรวงมหาดไทย เวลา 14:00 น. เพื่อร้องขอให้มีการตรวจสอบมูลนิธิกัน จอมพลัง ช่วยสู้ด้วยตนเอง เพื่อยืนยันว่าไม่มีการกดเงินสดออกมาใช้ ไม่มีเงินเข้าพรรคการเมืองหรือมูลนิธิอื่น ๆ และไม่ได้เป็นเครื่องมือของฝ่ายใด พร้อมทั้งย้ำจุดยืนส่วนตัวว่า จะไม่มีการเล่นการเมืองอย่างแน่นอน








