สมาคมประมงสงขลาออกประกาศเตือนเรือประมงทุกลำที่ออกหาปลาในอ่าวไทย ให้เพิ่มความระมัดระวังหลังศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออกแจ้งเตือนฝนตกหนักถึงหนักมาก 23–26 ตุลาคม 2568 ส่งผลให้คลื่นลมมีกำลังแรง คาดคลื่นสูงกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเฝ้าระวังและติดตามประกาศอย่างใกล้ชิด
จากกรณีศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก ประกาศฉบับที่ 3 (54/2568) เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออก (มีผลกระทบในช่วงวันที่ 23-26 ตุลาคม 2568) ช่วงวันที่ 23-26 ตุลาคม 2568 คาดว่าบริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนจะแผ่ลง มาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ส่งผลทำให้ร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคใต้และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ ทำให้ภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนตกหนักหลายพื้นที่และมีฝนตกหนักมากบางแห่ง บริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ขอให้ประชาชนระวังอันตรายที่เกิดจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และปริมาณฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้พื้นที่เสี่ยงภัยเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และดินโคลนถล่มในพื้นที่ลาดเชิงเขา

ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง จึงขอให้ประชาชนติดตามข่าวพยากรณ์อากาศจากศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก อย่างใกล้ชิดนั้น
ล่าสุด วันที่ 22 ต.ค.68 นายสุรเดช นิลอุบล นายกสมาคมประมงสงขลา มีความห่วงใยชาวประมงจังหวัดสงขลา ที่นำเรือประมงออกไปทำการประมงจับสัตว์น้ำบริเวณอ่าวไทย ซึ่งเป็นแหล่งปลาที่ไปทำการประมงตลอดมา เนื่องจากในทะเลหากมีฝนตกหนัก จะส่งผลทำให้คลื่นลมในทะเลมีกำลังแรงเกิดขึ้นตามมาด้วย จึงได้ประกาศเตือนไปทางศูนย์ PIPO จังหวัดสงขลา เนื่องจากเรือทุกลำที่ผ่าน PIPO ขึ้นไปทำการประมงเหนือเขตจังหวัดสงขลา ก็คือ ในเขตจังหวัดนครศรีธรรมราชหรือว่าจังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นไปจะได้รับผลกระทบแน่นอน ทางสมาคมประมงสงขลาก็มีคำเตือนและคำแนะนำก็คือ 1.ถ้าอยู่บริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี และยังทำการประมงอยู่ เจอพายุกันห่างๆก็ควรจะวิ่งไปหลบเกาะก็คือเกาะพะงัน ที่อยู่ตรงนั้นหรือจะต้องวิ่งลงใต้ลงมา มันก็จะได้รับผลกระทบน้อยกว่าข้อที่ 2 ถ้าทำการประมงอยู่บริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราชก็สามารถวิ่งมาที่เกาะกระ หน้าอำเภอหัวไทรจังหวัดนครศรีธรรมราช ในกรณีเหตุฉุกเฉินหรือไม่ก็จะต้องวิ่งลงใต้มาอย่างกะทันหัน


ทางสมาคมฯก็ได้ย้ำเตือนว่า เวลาคุณหนีพายุ คุณหลบเข้าฝั่ง เพื่อที่จะบังคลื่นหรือบังเกาะ ก็จะต้องแจ้งมาที่เจ้าของเรือด้วย เพราะเจ้าของเรือจะได้ทำการประสานกับศูนย์รับแจ้งเรือเข้า-ออก(PIPO) เนื่องจากทางศูนย์ฯจะได้มีข้อมูลว่า เรือของท่านได้ไปจอดหลบพายุ ณ ตำบลแห่งไหน แล้วทางศูนย์ PIPO เขาจะได้ประสานทางศูนย์ของกรมประมงเพื่อจะได้เฝ้าดูให้ความช่วยเหลืออยู่ตลอด
ทั้งนี้ เวลาเกิดเหตุการณ์ภัยธรรมชาติหรือว่าพายุรุนแรง ทางสมาคมประมง กรมเจ้าท่าและหน่วยงาน PIPO ของกรมประมง ก็จะทำงานร่วมกันและประสานกันอยู่ตลอดเวลาเพื่อแจ้งชาวเรือให้เพิ่มความระมัดระวังในการทำการประมงและในการเดินเรือมากขึ้นกว่าปกติ
#ภูมิภาค-81