"รังสิมันต์" สส.พรรคประชาชน ประกาศความสำเร็จครั้งใหญ่ที่นครเจนีวา!ร่างข้อมติของไทยว่าด้วยการ ปราบปรามสแกมเมอร์ องค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ และขบวนการค้ายาเสพติด ได้รับการโหวตจากสมัชชาสหภาพรัฐสภา เป็น "วาระเร่งด่วน"คะแนนเสียงท่วมท้นกว่า 800 คะแนน เกินกว่า 2 ใน 3 หลังเดินสายเจรจาอย่างหนักกับกลุ่มประเทศยุโรปและละตินอเมริกา โดยเฉพาะได้รับความช่วยเหลือจาก ออสเตรเลียและโปแลนด์ ในการรวม 3 ประเด็นสำคัญจาก 3 ทวีปเข้าไว้ด้วยกัน
วันที่ 22 ต.ค.2568 ที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะสมาชิกรัฐสภาไทยที่เข้าร่วมประชุมสมัชชาสหภาพรัฐสภา หรือ IPU สมัยที่ 151 ให้สัมภาษณ์ว่า ร่างข้อมติของไทยว่าด้วยการปราบปรามสแกมเมอร์และองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ชนะโหวตในเวทีประชุมใหญ่ IPU ได้รับการบรรจุเป็น “วาระเร่งด่วน ” หรือ Emergency item ครั้งประวัติศาสตร์ แม้จะได้รับความร่วมมือที่ดีมากๆ โดยเฉพาะจากประเทศในภูมิภาคเอเชียด้วยกัน แต่การจะชนะโหวตด้วยคะแนน 2 ใน 3 นั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายจริงๆ ความยากเป็นเพราะคะแนนจากกลุ่มประเทศที่แบ่งกันตามภูมิภาค เช่น แอฟริกา ละตินอเมริกา และยุโรป แต่ละกลุ่มมีคะแนนรวมกันสูงมาก โดยเฉพาะยุโรปที่มีคะแนนมากที่สุด ไทยจึงมีความจำเป็นที่จะต้องพูดคุยเจรจากับประเทศต่างๆ เหล่านั้น เพื่อขอการสนับสนุน
“ต้องขอขอบคุณประเทศออสเตรเลียที่สนับสนุนไทยอย่างแข็งขัน ช่วยเป็นตัวเชื่อมให้ไทยได้คุยกับกลุ่มประเทศในยุโรป โดยเฉพาะประเทศโปแลนด์ที่ทำหน้าที่เชื่อมไทยกับประเทศในยุโรปชาติอื่นๆ อีก เช่น สวีเดน และยังรวมถึงละตินอเมริกาด้วย เบื้องต้นไทยโฟกัสเฉพาะเรื่องศูนย์กลางสแกมเมอร์ และอาชญากรรมไซเบอร์ข้ามพรมแดนเท่านั้น แต่ก็ต้องยอมรับว่าการจะได้รับเสียงสนับสนุนมากพอ ต้องมีการเจรจาและสอบถามความต้องการของเพื่อนสมาชิกกลุ่มอื่นๆ ด้วย และพบว่ากลุ่มประเทศละตินอเมริกาและยุโรปต้องการผลักดันเรื่อง อาชญากรรมองค์กรข้ามชาติ และ ขบวนการค้ายาเสพติด ซึ่งเมื่อทีมรัฐสภาไทยนำมาพิจารณาแล้ว ก็พบว่าเรื่องยาเสพติดเป็นปัญหาใหญ่ของไทยด้วยเช่นกัน จึงนำประเด็นความต้องการเหล่านี้มารวมกันกับของไทย และประสานงานกันอย่างใกล้ชิด”นายรังสิมันต์ กล่าว
นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ทีมเลขาฯของรัฐสภาก็ร่วมทำงานด้วยกันจนดึกดื่นทุกคืน ต้องพูดคุยเจรจา เพราะการจะนำ 3 เรื่องจาก 3 ทวีปมารวมกันเป็นข้อมติเดียว ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะถึงแม้จะมีหัวข้อใหญ่เดียวกัน แต่มีรายละเอียดที่แตกต่างกันมาก แต่ข้อดีก็คือ เมื่อร่างข้อมตินี้ผ่านเกณฑ์ 2 ใน 3 และได้รับการบรรจุเป็นระเบียบวาระเร่งด่วน เมื่อถึงในชั้นของกรรมาธิการยกร่าง คงจะทำงานกันง่ายขึ้น เพราะเหมือนกับได้ทำงานร่วมกันมาก่อนแล้ว ส่วนท่าทีของกัมพูชาว่าหายไปไหน ทำไมไม่มาโหวต ทั้งๆ ที่ตอนแรกก็พูดทำนองว่าจะไม่คัดค้าน แต่ท้ายที่สุดก็หายไป ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องน่าเสียดาย เพราะการทำงานเรื่องสแกมเมอร์ จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากทุกประเทศ
“ความสำเร็จในครั้งนี้ถือเป็นการบันทึกหน้าประวัติศาสตร์ เพราะเป็นร่างข้อมติเพื่อเสนอเป็นวาระเร่งด่วนหรือ Emergency item ร่างแรกที่เสนอโดยประเทศไทย แล้วผ่านเข้าสู่เวทีใหญ่ IPU ได้สำเร็จ และยังถือว่าได้คะแนนโหวตสูงมาก เพราะตั้งเป้าไว้ว่าได้ประมาณ 700 คะแนนก็หรูแล้ว แต่คะแนนออกมาได้ไปมากกว่า 800 คะแนน”นายรังสิมันต์ กล่าว