"วันนอร์" เผยญัตติวาระเร่งด่วนของไทยต่อประชุมสมัชชาสหภาพรัฐสภา (IPU) กรุงเจนีวา ชี้ประเทศสมาชิกกว่า 100 ชาติสนับสนุนเต็มที่ โดยไม่มีญัตติอื่นมาแข่งขัน คาด “รังสิมันต์” จะนำญัตติปราบอาชญากรรมไซเบอร์ข้ามชาติผ่านฉลุยในการลงมติ 5 โมงเย็นวันนี้ ชี้ประเด็นสำคัญคือการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่ถูกหลอกและถูกบังคับใช้แรงงานจากขบวนการสแกมเมอร์
วันที่ 21 ต.ค.68 ที่กรุงเจนีวา สวิสเซอร์แลนด์ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมสมัชชาสหภาพรัฐสภา ครั้งที่ 151 (IPU151th) กล่าวถึงนำเสนอระเบียบวาระเร่งด่วน (Emergencty Item) โดยมีร่างข้อมติเรื่อง ประเด็นอาชญากรรมข้ามชาติ อาชญากรรมไซเบอร์ เสนอต่อที่ประชุม ซึ่งจะมีประเทศสมาชิกกว่า 200 ประเทศเข้าร่วมประชุมและจะลงมติ ว่าจะเลือกญัตติด่วนในวาระเรื่องอะไร เพื่อนำไปสู่การพิจารณาในวันสุดท้ายของการประชุมในวันนี้จะเป็นการเลือกหัวข้อว่าจะผ่านหรือไม่ สำหรับประเทศไทยมอบหมายให้ในนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน เป็นผู้เสนอญัตติการประชุมของอาเซียน+3 และการประชุม IPF ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากทั้งสองกลุ่ม โดยไม่มีประเทศสมาชิกใดเสนอญัตติอื่นเข้ามาแข่งขัน และไทยก็หาเสียงจากกลุ่มอื่นมาสนับสนุนญัตติของประเทศไทย ทั้งแถบยุโรปและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
“ทุกประเทศที่ได้ไปคุยทุกคนให้การสนับสนุน และหลายกลุ่มได้บอกให้ใส่รายชื่อประเทศของเขาให้เข้ามาเป็นสปอนเซอร์ เพื่อแสดงว่าเค้าสนับสนุนและจะให้คะแนนให้กับพวกเรา เพราะฉะนั้นในตอนเย็น 5 โมงเย็นวันนี้ หลังจากที่นายรังสิมันต์ โรม ในนามผู้แทนสมาชิกรัฐสภาไทย เสนอแล้วต้องดูว่ามีญัตติของประเทศใดก็มาแข่งขันด้วยหรือไม่ ถ้าไม่มีญัตติของไทยก็จะผ่านเข้ารอบสุดท้ายได้เลย“ นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าว
นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวต่อว่า หากมีญัตติแข่งก็ต้องมาโหวตกันว่าญัตติของประเทศใด จะเป็นญัตติที่ได้รับการสนับสนุนด้วยเสียงเป็นอันดับหนึ่ง แต่จะต้องมีเงื่อนไขได้คะแนนเสียง 2 ใน 3 ด้วย ถึงจะถือว่าเป็นญัตติด่วนหรือ(Emergencty Item) แต่ประเมินจากแนวโน้มแล้วหลายประเทศเห็นด้วยกับประเทศไทย เรื่องปัญหาสะแกมเมอร์ ไม่ได้เป็นความเดือดร้อนของประเทศใดประเทศหนึ่ง แต่เดือดร้อนไปทั่วโลก และเดือดร้อนไปถึงคนยากจน รวมถึงคนที่มีฐานะ โดยเฉพาะห่วงในประเด็น กลุ่มคน ที่มีการขู่บังคับทรัพยากรมนุษย์ เพื่อไปทำงานให้กับสแกมเมอร์ที่มีการซ้อมทรมานมนุษย์ หรือการค้ามนุษย์ ซึ่งมีจำนวนหลายหมื่นคน และกระทบในประเทศที่ให้ความสำคัญเป็นปัญหาระดับโลก
“คาดการณ์ว่าญัตติของเรา น่าจะชนะเป็นอันดับหนึ่ง และน่าจะมีคะแนนสนับสนุนถึง 2 ใน3 ซึ่งหากเป็นไปตามนี้แล้ว ถือว่าผู้แทนของประเทศไทยที่มาประชุมขณะนี้ ได้รับการสนับสนุนจากประเทศต่างๆ 100 กว่าประเทศเป็นอย่างดี สำคัญคือเราได้ช่วยเพื่อนมนุษย์ของเราที่กำลังถูกหลอกลวง ถูกทรมาน หรือกำลังจะเสียทรัพย์ หากเรื่องนี้ไม่ได้รับความร่วมมือจากรัฐบาลที่ต้องทำอย่างจริงจัง ปัญหาของสแกมเมอร์ คงจะลุกลาม“ประธานรัฐสภา กล่าว
นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ทราบว่ารัฐบาลไทยเริ่มให้ความสำคัญแล้วในการตั้งคณะกรรมการ แต่เรื่องที่ต้องทำอย่างเข้มแข็ง อย่างที่สองคือต้องร่วมมือกันหลายประเทศ เหมือนกับที่เกาหลีใต้ขอความร่วมมือจากประเทศที่เกี่ยวข้อง ไทยจะต้องได้รับความร่วมมือจากหลายประเทศโดยเฉพาะประเทศที่เกี่ยวข้อง ที่จะต้องช่วยกันปราบปราม เน้นย้ำว่าเรื่องนี้ไม่ควรเกิดขึ้นอีกต่อไปแล้ว หากญัตติของประเทศไทยผ่านก็ต้องใช้ระยะเวลาทำงานระยะหนึ่ง แล้วชี้ว่าคนที่ทำผิดกฎหมายจะต้องมีบทลงโทษที่รุนแรง ไม่ให้เกิดขบวนการแสตมป์เมอร์เกิดขึ้น ไม่ว่ากลุ่มใหญ่ขนาดไหนก็ต้องปราบปราม