วันที่ 20 ตุลาคม 2568 นายชัชวาล แพทยาไทย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดร้อยเอ็ด พรรคไทยสร้างไทย เปิดเผยภายหลังการประชุมวิปฝ่ายค้านที่รัฐสภา ว่า พรรคไทยสร้างไทยเตรียมอภิปราย ร่างพระราชบัญญัติสร้างเสริมสังคมสันติสุข พ.ศ. .... ซึ่งจะเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 21 และ 22 ตุลาคมนี้
นายชัชวาล กล่าวว่า ในการประชุมวิปฝ่ายค้าน ตัวแทนจากพรรคไทยสร้างไทย นายชวลิต วิชยสุทธิ์ รองหัวหน้าพรรค ได้ชี้แจงถึงการสงวนคำแปรญัตติในมาตรา 3/1 ของร่าง พ.ร.บ.สร้างเสริมสังคมสันติสุขฯ ซึ่งตนได้สงวนคำแปรญัตติ โดยมีสาระสำคัญเพื่อเปิดทางให้ผู้ที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดตามมาตรา 112 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ที่คดียังไม่ถึงที่สุด สามารถขอพระราชทานอภัยได้โดยมีเงื่อนไข เพื่อเป็นแนวทางคลี่คลายปัญหาและสร้างบรรยากาศแห่งความสมานฉันท์ในสังคม
นายชวลิตได้แจ้งกับตนว่า ที่ประชุมวิปฝ่ายค้านให้ความสนใจต่อข้อเสนอของพรรคไทยสร้างไทยเป็นอย่างมาก พร้อมขอให้วิปของพรรคประชาชน นำคำแปรญัตติของตนไปหารือต่อในการประชุมภายในพรรควันนี้ เพื่อพิจารณาแนวทางร่วมของฝ่ายค้านในการอภิปรายในสภาฯ
นายชัชวาลเปิดเผยเพิ่มเติมว่า ได้มีการพูดคุยนอกรอบกับสมาชิกหลายพรรค และเห็นพ้องว่า แนวทางการเปิดโอกาสให้ผู้ต้องหาคดีมาตรา 112 ขอพระราชทานอภัยโดยมีเงื่อนไขว่าจะไม่กลับมากระทำความผิดอีก เป็น “ทางออกที่เหมาะสมที่สุดในสถานการณ์ปัจจุบัน” โดยเฉพาะต่อกลุ่มเยาวชนที่อยู่ระหว่างต่อสู้คดี ซึ่งควรได้รับประโยชน์และโอกาสจาก พ.ร.บ.ฉบับนี้ เพื่อลดความตึงเครียดทางสังคม
พรรคไทยสร้างไทยยืนยันว่า แนวทางดังกล่าว ไม่ใช่การยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงมาตรา 112 แต่เป็นการใช้ “กลไกพระราชทานอภัย” เพื่อสร้างทางออกอย่างสันติ ลดความขัดแย้ง และฟื้นฟูความไว้วางใจในสังคมไทย ผ่านการปรับแก้ไขประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ซึ่งพรรคจะนำเสนออย่างเป็นทางการในการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.สร้างเสริมสังคมสันติสุขฯ วันที่ 21–22 ตุลาคมนี้
ทั้งนี้ แนวทางของพรรคไทยสร้างไทยตั้งอยู่บน หลักคิดสำคัญ 2 ประการ ได้แก่
1.ธำรงพระเกียรติยศตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 6 — องค์พระมหากษัตริย์ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้
2.อภัยโดยมีเงื่อนไข — ผู้ขอพระราชทานอภัยต้องสำนึกในความผิด และให้คำมั่นว่าจะไม่กระทำซ้ำ เพื่อเป็นหนทางแห่งการปรองดองและสมานฉันท์อย่างแท้จริงในสังคมไทย