วันที่ 18 ต.ค.2568 เวลา 16.30 น.ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ หลักสี่ง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดใจกับสมาชิกพรรคหลังเลือกตั้งตำแหน่งต่างๆว่า ขอขอบคุณทุกคนอีกครั้งที่ให้ความไว้วางใจตนในการดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ว่า ขอบทุกท่านอีกครั้งที่ให้ความไว้วางใจให้ตนเองดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคอีกวาระหนึ่ง พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองเดียวที่มีกระบวนการเลือกตั้ง ทำให้ผู้ที่ได้รับเลือกตั้งมาเป็นหัวหน้าพรรคสำนึกอยู่เสมอว่า การดำรงตำแหน่งนี้เป็นไปได้ด้วยความยินยอมพร้อมใจของสมาชิกทั่วประเทศที่เป็นเจ้าของพรรคอย่างแท้จริง ยืนยันว่าจนถึงวันนี้ก็ไม่มีพรรคการเมืองอื่นที่มีกระบวนการเช่นนี้ และขอบคุณทุกคนที่เป็นส่วนสำคัญในการยืนยันว่าประเทศไทยยังมีพรรคการเมืองที่มีความเป็นประชาธิปไตยในพรรค
นอกจากนี้ขอบคุณรักษาการหัวหน้าพรรค รักษาการเลขาธิการ และกรรมการบริหารพรรค ซึ่งตนทราบดีว่าพยายามทุกวิถีทางเพื่อให้การเลือกตั้งในวันนี้ราบรื่น และกระชับที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ภายใต้กฎระเบียบและข้อบังคับที่มีอยู่ จึงขอให้ทุกคนปรบมือขอบคุณรักษาการกรรมการบริหาร เจ้าหน้าที่ และอาสาสมัครทุกคนที่ทำให้วันนี้เกิดขึ้นได้
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขอบคุณหัวหน้าเฉลิมชัย ศรีอ่อน อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เป็นพิเศษ แม้ท่านจะไม่ได้อยู่ในที่ประชุมวันนี้ แม้ตนกับหัวหน้าเฉลิมชัยจะมีความเห็นหรือความคิดต่างกันในบางครั้งบางคราว แต่ตนไม่เคยตั้งคำถามถึงความทุ่มเทของท่านที่มีให้กับบรรดาสมาชิกพรรค เชื่อว่าสส. อดีตผู้สมัคร และสาขาพรรคต่าง ๆ เป็นพยานที่ดีที่สุดในเรื่องความทุ่มเทของท่านหัวหน้าเฉลิมชัย
ซึ่งสัญลักษณ์ของพรรคประชาธิปัตย์มีข้อความที่ปรากฏอยู่ว่า "สัจจังเว อมตวาจา" ซึ่งหมายถึงความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย และกาลเวลาพิสูจน์ความจริงเสมอ ท่านระลึกถึงเหตุการณ์เกือบ 2 ปีที่แล้วที่ตนตัดสินใจลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ตนไม่เคยคิดว่าจะต้องทำในชีวิต แต่ก่อนลาออก ตนได้ย้ำชัดเจนว่าตนไม่มีพรรคอื่น จะไม่ไปพรรคอื่น และเลือดของตนเป็นสีฟ้าจนวันตาย พร้อมทั้งจะนำอุดมการณ์ประชาธิปัตย์รับใช้พี่น้องประชาชนและประเทศชาติตลอดไปไม่ว่าจะอยู่ที่ใด
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า ตนได้ชี้ให้เห็นถึงความสัตย์จริงที่ตนยึดถือมาโดยตลอด ภาพที่ปรากฏในโซเชียลมีเดียเมื่อ 30 ปีที่แล้ว หรือเกิน 30 ปี เมื่อครั้งที่ตนเข้ามาเป็น สส. สมัยแรกเมื่ออายุ 27 ปี และยืนยันในเวลานั้นว่าจะยึดถือการเมืองในระบบพรรคการเมือง และจะมีพรรคการเมืองเดียวในชีวิต ผ่านมา 30 กว่าปี ตนก็ยังคงยืนยันเช่นนั้น ในยุคที่นักการเมืองอาจเปลี่ยนคำพูดได้ใน 3 ชั่วโมง ตนเป็น ลูกพระแม่ธรณี ที่จะยึดถือสัจจะ และความซื่อสัตย์เป็นที่ตั้งตลอดไป หากตนหยุดหรือไม่ได้อยู่ในพรรค ก็พร้อมจะกลับมาเสมอ ถ้าสมาชิกเห็นว่าตนจะมาทำประโยชน์ได้

“สถานการณ์ในวันนี้ทำให้เพื่อนสมาชิกประชาธิปัตย์ทุกคนหวั่นไหวและกังวลกับความเสียเปรียบหลายประการของพรรค ขอบคุณสมาชิกอาวุโสและเพื่อนร่วมงานหลายคนที่ทราบดีว่าการกลับมาครั้งนี้โดยส่วนตัวแล้ว ผมไม่มีทางได้กำไร อย่างมากที่สุดก็คือเสมอตัว และมีโอกาสที่จะขาดทุนไม่มากก็น้อย ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุด อย่างไรก็ตาม ผมระลึกเสมอว่าชีวิตของตนมาถึงจุดนี้ได้เพราะพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่าจะลำบาก หรือขาดทุนเท่าไหร่ ผมก็ต้องกลับมาเพื่อทำให้พรรคการเมืองนี้อยู่คู่ประเทศไทยตลอดไปให้ได้
ผมเป็นหนี้บุญคุณต่อประเทศ และแผ่นดินนี้ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน แม้จะเคยใช้ชีวิตในต่างประเทศ แต่ประเทศนี้มีสิ่งดี ๆ มากมายและไม่เคยคิดจะอยู่ที่อื่น บางคนเคยแซวว่าหากไปเกิดที่อื่น และเล่นการเมืองในประเทศที่พัฒนาแล้วอาจจะรุ่งกว่านี้ แต่ที่นี่คือที่ที่ผมรักและเชื่อว่าทุกคนรักที่สุด แม้จะมีการบ่นเกี่ยวกับประเทศ แต่คนทั่วโลกยังเห็นคุณค่าของประเทศไทย และน้ำใจของคนไทยที่ผมเชื่อมั่นมาตลอด ด้วยเหตุนี้ผมต้องชดใช้หนี้แผ่นดินนี้เหมือนกับที่ต้องชดใช้หนี้ให้พรรคประชาธิปัตย์” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ปัญหาใหญ่ของชาติในปัจจุบันคือ เศรษฐกิจติดหล่ม สังคมเหลื่อมล้ำ และความยุติธรรมหดหาย หลายปีที่ผ่านมานี้ไม่ว่าคนภายนอกจะมองหรือพวกเราสัมผัสความเป็นจริงของชีวิตประชาชน ทุกคนห่วงใยว่าประเทศจะเดินต่อไปในแบบนี้ได้หรือไม่ ปีสุดท้ายที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำรัฐบาลคือปี 2554 ซึ่งเป็นปีแรกที่เศรษฐกิจไทยขยับขึ้นเป็นประเทศรายได้ปานกลางขั้นสูง
แต่เวลาผ่านไป 14 ปี จนถึงวันนี้ แม้แต่ในแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ก็ไม่มีใครมั่นใจว่าจะขยับขึ้นไปอีกขั้นได้เมื่อใด ปัจจุบันตัวเลขเศรษฐกิจเติบโตใกล้ 2% ก็ถือว่าโล่งใจแล้ว แต่ไม่เพียงพอที่จะยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชน เศรษฐกิจติดหล่มมาเป็น 10 ปี และโครงการช่วยเหลือประชาชนในยามยากลำบากอย่าง "คนละครึ่งพลัส" ก็ทิ้งไว้เพียงหนี้ของรัฐบาลที่เพิ่มขึ้นหลังจากโครงการจบลง
นายอภิสิทธิ์ ก่ล่าวอีกว่า ในด้านสังคมประเทศไทยกลายเป็นสังคมสูงอายุอย่างสมบูรณ์แบบ ทำให้ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพเพิ่มขึ้น ในขณะที่คนหนุ่มสาวขาดความมั่นคงในชีวิต ทุกคนต้องการสวัสดิการที่ดี แต่การเมืองกำลังหลอกตัวเองหรือหลอกประชาชนหรือไม่ ที่สัญญาสวัสดิการ ทั้งที่จัดเก็บภาษีได้ไม่ถึง 15% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ นอกจากนี้ การผูกขาดทางเศรษฐกิจ และการผูกขาดอำนาจทางการเมืองก็มีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นมากขึ้นเรื่อย ๆ เราจะนิ่งดูดายปล่อยให้ประเทศเดินไปแบบนี้ไม่ได้ และสิ่งที่ฉุดรั้งไม่ให้ประเทศไทยก้าวไปข้างหน้าคือ การเมืองไทย
ดังนั้นเหตุผลที่ได้นำคนใหม่ ๆ เข้ามาทำงาน โดยได้รับโอกาสจากการยกเว้นคุณสมบัติ และข้อบังคับ เป็นเพราะสิ่งที่ประเทศต้องการที่สุด ในวันนี้คือ เครื่องจักรใหม่ ที่จะทำให้เศรษฐกิจเติบโตต่อไปได้ เราไม่สามารถพึ่งพาสิ่งที่เคยเป็น บุญจากอดีตได้อีกแล้ว ภาคเกษตรกำลังตามหลังประเทศเพื่อนบ้าน ด้านประสิทธิภาพการผลิต ภาคอุตสาหกรรมไม่สามารถแข่งขันด้วยค่าแรงที่ถูกเหมือนในอดีตได้ และภาคการท่องเที่ยวก็เดือดร้อนอย่างหนัก นักท่องเที่ยวจีนหายไปเพียงครึ่งเดียว
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เครื่องจักรใหม่จึงต้องเกิดขึ้นจากความเปลี่ยนแปลงของโลก ที่ตนได้นำ ดร. การดี เข้ามาเพราะเข้าใจว่าเทคโนโลยีจะชี้แนะการเปลี่ยนแปลงของโลก และการพัฒนาเศรษฐกิจ แม้คนไทยจะใช้เทคโนโลยีเก่งมาก แต่เศรษฐกิจดิจิทัลกลับมีมูลค่าเพิ่มที่ตกอยู่กับคนไทยน้อย จึงไม่ต้องการให้พรรคการเมืองคิดเพียงแต่นโยบายที่ถูกใจ และเพิ่มเงินในกระเป๋าได้ชั่วคราวแล้วก็กลับมาติดหล่มต่อ เทคโนโลยีมีศักยภาพมหาศาล ถ้าเกษตรกรรายย่อยที่ยากจนที่สุดเข้าถึงเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น การใช้โดรน ปัญญาประดิษฐ์ หรือระบบอัจฉริยะ ผลผลิตและรายได้ของภาคเกษตรก็จะเพิ่มขึ้นมหาศาล และต้องเป็นการเกษตรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกกีดกันจากประเทศพัฒนาแล้ว
ส่วนที่ตั้งคุณวีระพงษ์ เข้ามาเพราะทราบถึงประเด็นที่โลกต้องการและกดดันประเทศไทย ดังนั้นคนหนุ่มสาวที่เติบโตขึ้นมาไม่ได้มองหาโอกาสทางเศรษฐกิจเหมือนคนรุ่นก่อน พวกเขาต้องการขายของออนไลน์ สร้างโอกาสด้วยตนเอง และมีอิสระ ตัวอย่างเช่น คุณจุรี ที่ประสบความสำเร็จในการใช้ TikTok ขายสินค้า ความคิด และความสร้างสรรค์ เด็กยุคใหม่ใฝ่ฝันที่จะเป็นเช่นนี้ ซึ่งสอดคล้องกับสิ่งที่เรียกว่า "เศรษฐกิจกิ๊ก" (Gig Economy) ซึ่งไม่ใช่เศรษฐกิจชั่วคราว แต่เป็นรูปแบบที่ผู้คนต้องการหารายได้และโอกาสโดยไม่ต้องเป็นลูกจ้าง แต่ก็ต้องการความมั่นคงในชีวิต นี่คือโจทย์ที่ท่านและทีมงานชุดใหม่จะเฟ้นหาหนทางในการสร้างทั้งโอกาสและความมั่นคงให้กับคนรุ่นใหม่ที่กำลังเติบโตขึ้นมา
นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า เพื่อให้ทุกสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้ การเมืองต้องเปิดประตู นั่นคือ การเมืองต้องมาแข่งขันด้วยการนำเสนอความคิดและวิสัยทัศน์ที่เป็นระบบ มีกรอบความคิด หรืออุดมการณ์รองรับ ไม่ใช่นโยบายที่เป็นเพียงชิ้น ๆ ตนจะทำให้พรรคประชาธิปัตย์ไม่ตกอยู่ในวังวนวาทกรรม และไม่ต้องถูกตั้งคำถามว่าเป็นพรรคอนุรักษ์นิยม ประชาธิปไตย หรืออนุรักษ์ก้าวหน้า เพราะพรรคประชาธิปัตย์ได้ประกาศอุดมการณ์มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2489 ว่าเป็น ต้นตำรับของพรรคเสรีประชาธิปไตยในประเทศไทย ตนไม่ต้องการให้พรรคประชาธิปัตย์เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการที่นำเรื่องของ สถาบันพระมหากษัตริย์ เข้ามาอยู่ในความขัดแย้งทางการเมือง
สถาบันพระมหากษัตริย์คือศูนย์รวมจิตใจของคนไทยที่ต้องอยู่เหนือการเมือง เช่นเดียวกับ กองทัพ ที่ไม่ควรถูกนำมาเป็นประเด็นทางการเมือง กองทัพจะทำหน้าที่ปกป้องแผ่นดินได้เข้มแข็งก็ต่อเมื่อการเมืองไม่ลำเอียง โดยการเมืองต้องสนับสนุนด้วยการดำเนินนโยบายการต่างประเทศและการทูตเชิงรุก เพื่อให้ทหารและกองทัพทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและสบายใจ
“เราไม่ควรเอาความมั่นคงและนโยบายการต่างประเทศมาเสี่ยง โดยผลักภาระให้ประชาชนลงประชามติในสิ่งที่ไม่แน่ใจว่าแม้แต่ผู้ที่คิดจะให้ถามยังเข้าใจหรือไม่ เราไม่สามารถปล่อยให้การเมืองที่ถูกฉุดรั้งด้วยการทุจริตคอร์รัปชันเดินต่อไปได้ ประชาธิปไตยไม่ได้เริ่มต้นด้วยการเลือกตั้งที่สุจริตเที่ยงธรรม แต่เป็นการประมูลซื้อเสียง และซื้อ สส. คอร์รัปชันกัดเซาะทุกองค์กร ก่อให้เกิดต้นทุนมหาศาล ทั้งในแง่ตัวเงิน และความไว้วางใจในสังคม สิ่งนี้ยังนำมาซึ่งกฎระเบียบที่ซับซ้อนยุ่งยากเพื่อพยายามแก้ไข แต่กลับเปิดช่องให้เกิดการทุจริตในช่องทางใหม่ไม่จบสิ้น
วันนี้จึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องผลักดันให้ความซื่อสัตย์ และการบริหารบ้านเมืองที่สุจริตกลับมาให้ได้ ผมพูดเสมอว่าความรับผิดชอบทางการเมืองสูงกว่าความรับผิดชอบทางกฎหมาย จริยธรรมเป็นเรื่องสำคัญ แต่ต้องไม่เป็นอาวุธทางการเมืองที่มาทำลายฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด อุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ที่เขียนไว้ตั้งแต่ปี 2489 นั้นชัดเจนในเรื่องเหล่านี้ทั้งหมด บางครั้งเราอาจลืมไปว่า อุดมการณ์ 10 ข้อที่ผู้ก่อตั้งพรรคเขียนไว้เมื่อ 80 ปีที่แล้วมีความทันสมัยและสอดคล้องกับความต้องการของคนในประเทศแม้ถึงทุกวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการกระจายอำนาจ หรือเรื่องเศรษฐกิจต้องเสรีแต่รัฐต้องเข้าแทรกแซงเพื่อความยุติธรรมในสังคม” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า อุดมการณ์ 10 ข้อ คือหลักประกันที่จะเกิดการเมืองโปร่งใส ประชาธิปไตยที่ไม่ทรยศต่อประชาชน เศรษฐกิจที่มีความเชื่อมั่นยั่งยืน และสังคมที่เกื้อกูลกัน โจทย์เหล่านี้เป็นเรื่องใหญ่กว่าการมี ส.ส. กี่คน และเป็นหน้าที่ของพรรคการเมือง หากแก้ไขได้ พรรคจะอยู่คู่ประเทศไทย เป็นหลักและความหวังของคนไทยทั้งประเทศอีกครั้ง เส้นทางนี้เป็นเส้นทางที่เหนื่อย การประชุมของพรรคประชาธิปัตย์ใช้เวลานานกว่าพรรคอื่นที่อาจใช้เพียง 2 ชั่วโมง ความเหนื่อยนี้มาจากการที่พรรคมีหลักการและระบบที่ให้ตัวแทนที่เป็นเจ้าของพรรคทุกคน (ส.ส., กรรมการบริหาร, สาขา, ตัวแทนจังหวัด, สมาชิกทั่วไป) มีที่ยืนอยู่ในกรรมการบริหารพรรค
สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่สังคมกำลังต้องการ ประชาชนโหยหาทางเลือกและเบื่อหน่ายการเมืองที่มองว่ามีไว้เพียงแค่แลกเปลี่ยนผลประโยชน์ พวกเขาต้องการการเมืองที่อาสาเข้ามาแก้ปัญหาอย่างแท้จริง สถานการณ์ในวันนี้เป็นโจทย์ที่หนักมาก เพราะการเลือกตั้งใกล้เข้ามาในอีกไม่กี่เดือน หลายคนกังวลเรื่อง สส. ย้ายพรรค ตนเป็นนักการเมือง 30 ปี เข้าใจเหตุผลที่หลากหลายของแต่ละคน แต่แนะนำว่าอย่าเครียด เพราะถ้าประชาธิปัตย์อยากอยู่คู่ประเทศ ก็ต้องสร้างคนอย่างต่อเนื่อง คนที่เข้ามาพร้อมต่อสู้อย่างเหน็ดเหนื่อยภายใต้อุดมการณ์ของพรรคก็คือพลังสำคัญที่จะทำให้พรรคอยู่ต่อไปได้ ตนเองเป็นคนจริงจังแต่ไม่เครียด แต่มีงานอดิเรกที่มักจะวกกลับมาเรื่องการเมือง

“ผมดูฟุตบอลอังกฤษ และอยากเตือนว่าศูนย์หน้าฟอร์มดี ค่าตัวแพงที่สุดที่ย้ายสโมสรไปแล้วก็อาจยิงประตูไม่ได้เลย ผมสะสมแผ่นเสียง และเพิ่งซื้อแผ่นล่าสุดของ Taylor Swift เธอมีคำคมที่ว่า แก้วที่แตกจะมีคมมากขึ้น ดังนั้น ใครที่กำลังจะมาทุบประชาธิปัตย์เหมือนกำลังทุบแก้วให้แตก ผมจะเอา ความคมของแก้วที่แตกไปตัดวงจรอุบาทว์การซื้อเสียงและการคอร์รัปชันในประเทศ" หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า งานอดิเรกที่ตนพูดคุยโต้ตอบกับ AI ตนได้ถาม AI ถึงสัญลักษณ์ของความซื่อสัตย์ สัจจะ การปราบอธรรม และความอุดมสมบูรณ์ แต่ AI ไม่สามารถออกแบบสัญลักษณ์ที่สมบูรณ์ได้ ตนจึงถาม AI ถึง พระแม่ธรณี ซึ่งเป็นพยานของ ความซื่อสัตย์และสัจจะ ในวันที่มารมาผจญกับพระพุทธเจ้าตอนตรัสรู้ และน้ำที่บีบออกจากมวยผมก็ชำระล้างจนพญามารหนี และนำมาซึ่งความอุดมสมบูรณ์ AI ยอมรับว่าพระแม่ธรณีสมบูรณ์กว่าสิ่งที่สร้างมา ดังนั้น เราไม่ควรหวั่นไหว แม้จะมีคนปรามาสว่าเป็นเหล้าเก่าขวดเก่า เพราะ สัญลักษณ์พระแม่ธรณีก็ดี ข้อความ “สัจจังเว อมตวาจาก็ดี คือคำตอบสำหรับยุคสมัยนี้อย่างแท้จริง แต่ผู้ที่จะทำให้สิ่งเหล่านี้ทันสมัยได้คือพวกเราทุกคนที่อยู่ตรงนี้
“จึงขอเชิญชวนคนทั้งประเทศที่เบื่อหน่ายกับการเมืองแบบเดิมๆ ให้มาร่วมกับเรา พรรคประชาธิปัตย์ถูกถ่ายทอดมาจากรุ่นสู่รุ่น ผมยอมรับว่าไม่ง่าย แต่มาร่วมกับเราเถอะ เพราะวันที่บรรพบุรุษที่ก่อตั้งพรรคประชาธิปัตย์ วันนี้แทบไม่เหลืออยู่แล้ว แต่ทำไมยังมีประชาธิปัตย์อยู่ถึงทุกวันนี้ ก็ถ่ายทอดมาถึงรุ่นสู่รุ่น
ผมก็เช่นกัน วันนี้ผมขาวแล้วก็เตรียมส่งต่อให้กับคนรุ่นต่อไป มาช่วยกันเถอะ เราไม่ได้มีเป้าหมายเฉพาะหน้า เป้าหมายสุดท้ายของเราไม่เพียงแต่อยู่คู่ประเทศไทย แต่จะทำให้ประเทศไทยเจริญก้าวหน้า เพื่อคนไทยทุกคนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น” นายอภิสิทธิ์ กล่าว