วันที่ 16 ต.ค.68 ข่าวสุนัขจรจัดกัดเด็ก พ่อเด็กตีสุนัขยังดราม่าระอุ ต่างฝ่ายงัดกฎหมายแจ้งกันไปมา ด้วยเสียงสะท้อนจากสังคมโซเชียลมีเดีย เกี่ยวกับหมาจรจัดกัดใครรับผิดชอบและจะแก้ไขปัญหานี้อย่างไร
ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม ดร.สาธิต ปรัชญาอริยะกุล เลขาธิการและผู้อำนวยการสมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่งประเทศไทย (TSPCA) กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ ประเด็นดังกล่าวพบข้อมูลที่น่าสนใจว่า สุนัขจรจัดจากการสำรวจทั่วประเทศ ขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น พบว่ามีสุนัขจรจัดมากกว่า แสน-ล้านตัวทั่วประเทศ บางแหล่งข้อมูลพบว่ามีสุนัขจรจัดกว่าสองล้านตัว โดยพบสุนัขจรจัดจำนวนมากหลายพี้นที่ในชุมชนเมือง เกิดปัญหาความขัดแย้ง ระหว่างกลุ่มคนที่ไม่ชอบสุนัข เพราะอาจได้รับความเดือดร้อน จากพฤติกรรมของสุนัขบางตัว เช่น ดุ หรือสร้างความรำคาญอื่นๆ กับกลุ่มที่เมตตาสุนัขเหล่านั้น
สำหรับในต่างประเทศมาตรการด้านสุนัข เช่น สหรัฐอเมริกาบางรัฐ มีกฎหมายที่เข้มงวด สุนัขทุกตัวต้องจดทะเบียน ฝังไมโครชิพ ซื้อประกัน รวมถึงสุนัขตัวไหนสร้างปัญหาก็จะมีการลงโทษเจ้าของ และถ้าสุนัขไม่มีเจ้าของ จะมีวิธีการที่เด็ดขาดในการจัดการ ส่วนในประเทศญี่ปุ่น กำหนดให้คนเลี้ยงต้องมีความรู้ความเข้าใจพื้นฐานในการเลี้ยงสัตว์ สวัสดิภาพสัตว์ และเมื่อพบสุนัขจรจัดต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ของรัฐให้ดำเนินการทันที หรือในประเทศออสเตรเลีย มีกฎหมายที่กำหนดว่าเมื่อพบสุนัขถูกปล่อยและพลัดหลงให้เจ้าหน้าที่ส่งคืนเจ้าของหรือส่งไปยังสถานที่กำหนดเพื่อดำเนินการต่อไป โดยในหลายประเทศก็จะนำภาษีที่เก็บจากการขึ้นทะเบียนและการครอบครองสุนัขนำมาใช้ในการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาสุนัขจรจัด
สำหรับประเทศไทยปัจจุบันกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องมีหลายฉบับล้วนแล้วแต่ให้อำนาจหน่วยงานราชการส่วนกลางและท้องถิ่นในการบริหารจัดการปัญหาดังกล่าว แต่ก็ไม่มีกฎหมายเฉพาะในการแก้ไขปัญหาสุนัขจรจัดให้มีประสิทธิภาพ ประสิทธิผลหรือสอดคล้องกับสภาพปัญหาที่เป็นจริงเท่าที่ควร

แต่ที่ผ่านมาก็มีหลายองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นที่เข้มแข็งสามารถแก้ไขปัญหาสุนัขจรจัดเหล่านี้ได้ดี สมควรได้รับการยกย่องเป็นแบบอย่าง เช่น โครงการสุนัขชุมชนแม่กลอง สุนัขชุมชนจังหวัดเชียงใหม่ หรือการแก้ไขปัญหาขององค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี เพชรบูรณ์ สงขลา สตูล ล้วนแต่เป็นต้นแบบที่น่าศึกษา สำหรับในกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นมหานครเมืองหลวงของประเทศไทย ก็มีความพยายามแก้ไขปัญหาเหล่านี้เช่นกัน
สำหรับวิธีการแก้ไขปัญหา สุนัขจรจัด เช่น การสำรวจจำนวนประชากรที่แท้จริงของสุนัขจรจัด แนวโน้มการเลี้ยงการปล่อย กฎหมายที่เกี่ยวข้องที่บังคับเข้มงวดเด็ดขาดเป็นธรรมต่อสังคม รวมทั้งการทำหมันอย่างครบวงจรทั้งระบบทุกพื้นที่ การลดการขยายพันธุ์ การขึ้นทะเบียนด้วยเทคโนโลยี การหาสถานที่พักพิง สถานสงเคราะห์สัตว์ สถานรักษาพยาบาลสัตว์เจ็บป่วยที่ได้มาตรฐาน หรือเมื่อเจ้าของเลี้ยงสุนัขไม่ไหว ก็ควรมีสถานที่รองรับไม่ใช่ปล่อย ละทิ้งให้เป็นภาระของสังคม ชุมชน และการเยียวยาผู้เสียหายที่ได้รับผลกระทบจากสุนัขจรจัด เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นแนวทางออกที่มีการเสนอมาอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังขาดการสื่อสารให้บุคคลรับรู้ถึงปัญหาและร่วมกันแก้ไขปัญหานี้อย่างเป็นระบบจริงจังและต่อเนื่อง
ซึ่งถ้าไม่รีบดำเนินการแก้ไข จำนวนสุนัขจรจัดจะเพิ่มขึ้นอย่างมากและอาจเกิดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม สุขอนามัยรวมถึงโรคระบาดและเกิดความขัดแย้งของคนในชุมชนอย่างต่อเนื่อง ที่ได้รับความเดือดร้อนรำคาญจาก ความดุ เสียงเห่า สิ่งปฏิกูล การคุ้ยเขี่ยหาอาหาร การวิ่งตัดหน้ารถซึ่งเป็นอันตรายทั้งต่อสุนัขและคนขับรถ ซึ่งเกิดขึ้นบ่อยครั้ง รวมถึงการดูแลรักษาพยาบาลสุนัขที่ได้รับบาดเจ็บจากการทำร้ายและการไม่ได้รับวัคซีนควบคุมโรคอย่างทั่วถึง
ดังนั้น สุนัขจรจัดกัดเด็ก คงไม่ใช่เพราะพฤติกรรมของสุนัขอย่างเดียว อาจมีที่มาของปัญหาหลายประการ ที่ต้องร่วมกันแก้ไขที่ต้นเหตุอย่างต่อเนื่อง ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องทำหน้าที่ของตน ในการบูรณาการแก้ไขปัญหาให้เป็นในทิศทางเดียวกัน สำคัญสุนัขทุกตัวต้องมีเจ้าของและเจ้าของต้องแสดงความรับผิดชอบ ถึงจะแก้ไขปัญหาเหล่านี้ให้คลี่คลายเบาบางลงได้