ข่าวภูมิภาค
47

เตือนระวัง “ไข้รากสาดใหญ่” ระบาด! พบผู้ป่วยถูกไรอ่อนกัด เสี่ยงอันตรายถึงชีวิต

แชร์ข่าว

สคร.7 ขอนแก่น เตือนเฝ้าระวัง โรคไข้รากสาดใหญ่ หลังพบการระบาดในพื้นที่เสี่ยง ชี้เกิดจากไรอ่อนที่มีเชื้อกัด ผู้ป่วยจะมีไข้สูง หนาวสั่น ปวดเมื่อย ตัวร้อน หรือมีแผลคล้ายถูกบุหรี่จี้ หากไม่ได้รักษาอาจอันตรายถึงชีวิต

เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 17 ต.ค.68 พญ.พุทธพร ประเสริฐสกุล ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 (สคร.7) จ.ขอนแก่น เปิดเผยว่า โรคไข้รากสาดใหญ่ เป็นโรคติดเชื้อที่เกิดจากแบคทีเรีย โดยมีไรอ่อน ที่มีเชื้อเป็นพาหะ ไรอ่อนมักอาศัยอยู่ในกอหญ้า ป่าละเมาะ พื้นที่ชื้นใกล้ป่า หรือบริเวณทุ่งนา เมื่อคนถูกไรอ่อนที่มีเชื้อกัด จะเริ่มแสดงอาการเฉลี่ยภายใน 10 – 12 วัน โดยอาการของโรคจะเริ่มจากมีไข้สูงติดต่อกันหลายวัน หนาวสั่น ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว เหนื่อยล้า อ่อนเพลีย ไอ คลื่นไส้อาเจียน หรือมีตาแดง บริเวณที่ถูกกัดอาจพบแผลเป็นจุดคล้ายถูกบุหรี่จี้ ซึ่งแผลอาจไม่เจ็บหรือไม่คัน ผู้ป่วยบางรายมีอาการเพียงเล็กน้อยในระยะเริ่มต้น แต่หากไม่ได้รับการรักษาอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง ไม่ว่าจะเป็น ปอดอักเสบ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ หรือสมองอักเสบ ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

"แนวทางการป้องกันโรคไข้รากสาดใหญ่ คือ หลีกเลี่ยงการถูกไรอ่อนกัด โดยสวมเสื้อผ้าปกปิดมิดชิด ใส่เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว เมื่ออยู่ในพื้นที่เสี่ยง ใช้สารไล่แมลงหรือยากันแมลงบริเวณผิวหนังหรือเสื้อผ้า หลีกเลี่ยงการนั่งหรือนอนบนพื้นหญ้าหรือดินโดยตรง และเมื่อกลับจากพื้นที่เสี่ยง ควรรีบอาบน้ำ สระผม และซักเสื้อผ้าที่สวมใส่ด้วยน้ำและผงซักฟอกเพื่อกำจัดตัวไรอ่อน โดยเฉพาะกลุ่มเกษตรกรควรระมัดระวังเป็นพิเศษ"

พญ.พุทธพร กล่าวต่อว่า หากมีสัตว์เลี้ยงภายในบ้าน ควรดูแลความสะอาดบริเวณบ้านเรือนให้เรียบร้อย ไม่ให้มีหนูหรือพาหะอาศัยอยู่ ควรตัดหญ้าและพรวนดินรอบบ้านให้สะอาด หากมีอาการไข้สูง ปวดหัว ปวดเมื่อยตัว ผื่นขึ้น หรือตาแดง โดยเฉพาะเมื่อพบแผลคล้ายบุหรี่จี้ ที่ผิวหนัง ควรรีบไปพบแพทย์ทันที พร้อมแจ้งประวัติการเข้าไปในพื้นที่ป่าหรือทุ่งนา เพื่อช่วยให้แพทย์วินิจฉัยได้อย่างถูกต้อง ห้ามซื้อยาปฏิชีวนะมากินเองโดยเด็ดขาด อย่างไรก็ตามหากประชาชนมีข้อสงสัยหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อสายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422 ได้ตลอด 24 ชม.

#ภูมิภาค-48

ข่าวแนะนำ